ชีวิตที่เป็นดั่งตุ๊กตานี้ต้องอดทนน่าดู
อยากไปไหนก็ไม่ได้ไป อยากจะทำอะไรก็ไม่ได้ทำ "โอ๊ยเศร้า เราทนไม่ไหวแล้ว...!"
เมื่อตอนก่อนที่จะบวชนี้ กิเลส ความอยาก ความปรารถนาร่ำร้องให้ไปไหน ไปทำอะไร ก็ได้ไป ได้ทำ
แต่ตอนมาบวชนี้ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจากคน จนกลายมาเป็น “ตุ๊กตาที่หายใจได้...” (ชีวิตเป็นดั่งตุ๊กตาที่หายใจได้ )
ชีวิตของตุ๊กตานั้น อยากไปซ้าย ก็ต้องไปขวา อยากหยุดก็ต้องเดิน แม้อยากเดินก็ต้องถูกสั่งให้หยุด
ชีวิตของตุ๊กตานั้น “เร็วก็ว่าล้ำหน้า ช้าก็ว่าอืดอาด โง่ก็ถูกตวาด พอฉลาดก็ถูกระแวง ทำก่อนบอกไม่ได้สั่ง ครั้นทำทีหลัง บอกไม่รู้จักคิด ”
เศร้า เศร้า เศร้า เศร้าจัง...!
เฮ้อ ทำไมชีวิตที่ต้องเดินทวนกระแสกิเลส ถึงได้หนัก ได้เหนื่อยอย่างนี้
ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหว...
หลาย ๆ ครั้งอยากจะยอมแพ้ อยากจะยอมธงขาว ยอมปราชัย แล้วหนีไป หนีไป ไปอยู่กับเจ้ากิเลสที่ยืนรอรับเราอยู่ที่นอกประตูวัด
การบวชถ้าบวชที่อยู่ในวัดป่าวัดปฏิบัติ ก็ต้องเครียด ต้องสู้กับอารมณ์อย่างนี้ทุก ๆ วัน
ใครว่างานการของพระไม่หนักเหรอ
ก็จริงในส่วนหนึ่งที่ไม่หนักกาย คือ ไม่ถึงขนาดต้องไปแบก ไปหาม ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ แต่งานของพระนั้น “หนักใจ” หนักที่ใจ
งานของพระเป็นงานที่ต้องสู้ ต้องอยู่กับอารมณ์
ต้องสู้กับอารมณ์ของตนเอง ที่คอยแต่จะวิ่งตามกิเลส คอยระเห็ดระเหเร่ร่อนไปตามตัณหา
งานของพระจึงต้องอยู่ ต้องสู้กับความอยาก ความปรารถนาทั้งหลายเหล่านั้น
ใจมันร่ำร้องให้ทำอะไร ให้ไปทางไหน ก็ต้องเดินสวนทางกับมัน
วัน ๆ หนึ่งต้องสู้กันหลายตั้ง ต้องดันทุรังกันหลายยก
สู้บ้าง ชนะบ้าง แพ้บ้าง ล้มบ้าง ลุกบ้าง หรือบางครั้งก็นอนต้องพังพาบไป
แต่ทว่า...
ถึงแม้นว่าจะต้องขึ้นสังเวียนสู้สิบครั้ง แล้วก็แพ้ทั้งสิบครั้งแต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่สู้เสียเลย
การไม่ชนะ ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้อะไร
การได้สู้นั้น ถือว่าเอาได้เอาชนะแล้ว เพราะเป็นการ “ชนะใจ”
บางครั้งเราแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ขึ้นชก ยังไม่ได้ขึ้นสู้ หวาดกลัว และยอมแพ้
แต่เวลานี้ เราสู้ เราสู้ เราสู้ ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่ว่าแพ้ ก็กล้าที่จะสู้
สู้ทั้ง ๆ ที่ทุก สู้ทั้ง ๆ ที่เศร้า สู้ทั้ง ๆ ที่เซ็งอย่างถึงที่สุด
บางครั้งฝืนขึ้นเวทีไปอย่างงั้น ไม่มีเรี่ยว ไม่มีแรงอะไรเลย
มือทั้งสองจะยกการ์ดปกป้องกันก็ยกไม่ขึ้น แต่ก็ต้องก้าวขึ้นไปให้คู่ต่อสู้เขาชก
ขึ้นไปเพื่อให้รู้ว่า “ความเจ็บนั้นเป็นเช่นไร...?”
อย่างตอนนี้เราเจ็บมาก ช้ำมาก ทุกข์มาก แต่ก็ยังยืนหยัดสู้อยู่ จึงแม้ใจจะกระโดดลงเวทีไปแล้ว แต่อย่างไงก็เอาตัวอยู่ ยืนอยู่ให้เขาชกอย่างนั้นแหละ
ใจมันจะลง ก็ให้มันลงไป เอาตัวยืนไว้ให้เขาชก แม้ล้มก็ต้องอยู่ให้เขาเหยียบ
เอ้า... เต็มที่ เต็มที่เลย ตอนนี้ยังอยู่บนเวทีก็เอาซะให้เต็มที่
ถ้ามันจะตายก็ให้ตายไปเลย
ถ้ากรรมมันเคยตายเพราะต้องสู้กับกิเลสก็ให้มันตายไป...
นี้คงมิใช่งาน ของพระ คนเดียว
นี้คงเป็นงาน ของ พวกเราด้วย
เมื่อก่อนคิดว่าอยุ่วัดจะดี
อยู่วัด หรือ ไหนก็คือกัน
คงต้อง ฝึกพากเพียรต่อไป