ยามหลบน้ำอยู่กับบ้าน ... เย็น ๆ หาเรื่องไปเดิน Big C ใกล้บ้าน เพื่อจะไปทานข้าวเย็นและเดินดูหนังสือที่ซีเอ็ดยูเคชั่น ... สตางค์ในกระเป๋าก็ไม่ค่อยจะมี แต่ก็ได้หนังสือมาสองเล่ม ได้แก่ Secret ฉบับที่ 19 และหนังสือ "ปรากฏการณ์ตาสว่าง" ของ คมสัน วิเศษธร ... เลือกอยู่นาน เปิดแล้วประทับใจ ... จริง ๆ อยากจั่วหัวบันทึกว่า "หนังสือบ้าอะไร..น่าอ่านชะมัด" ... นักเขียนไม่เคยรู้จัก ... สำนักพิมพ์เป็น "อมรินทร์ธรรมะ" โห ... อมรินทร์ เดี๋ยวนี้แยกเป็นสำนักพิมพ์ลูกหรือนี่ เพิ่งเห็น ...
หน้าปก ... ผมว่า ไม่ค่อยสวย ไม่น่าสนใจ
แต่ปกหลัง เขียนคำโปรยว่า ...
ทุกคนต้องเคยผิดพลาดกันมาก่อน
เราอาจโดนคำนิยมต่าง ๆ ครอบงำจนตามไม่ทันความรู้สึกนึกคิด
เราหมุนตาม "อะไรบางอย่าง" จนแทบจะขาดมันไม่ได้
เราเห็นแต่โลกภายนอก
แต่เราไม่เคยนึกถึงสภาพความเป็นจริงของโลกภายใน
ไม่เคยได้สำรวจถึงความอ่อนไหวของจิตใจกัน
หากชีวิตกำลังมืดมน
หนทางสว่างยังเปิดกว้างรอเราเสมอ
ยิ่งถ้าเป็นช่วงชีวิตที่ทุกสิ่งกำลังผันแปร
เรายิ่งต้องอย่ายอมแพ้กับชีวิต
เพราะนี่คือโอกาสอันดีที่จะเปิดประสบการณ์
ให้เราได้หยุดวิ่งแล้วนิ่งมองความจริงข้างใน
และเมื่อนั้นเราก็จะ ... "ตาสว่าง"
บันทึกนี้ขอนำเสนอ "คำนิยม" แล้วกันนะครับ ... โปรดติดตามอ่าน
คำนิยม (๑)
ในโลกใบเล็ก ๆ ของเรานี้มีผู้คนมากมายที่ภายนอกลืมตาตื่นแต่ภายในยังคงหลับไหล ดำเนินชีวิตแต่ละวันไปตามยถากรรม โดยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า ชีวิตที่พึงประสงค์ควรเป็นอย่างไร เป้าหมายสูงสุดของชีวิตคืออะไร ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้นี่เอง วันหนึ่งก็แตกดับไปตามกาลเวลา น่าเสียดายยิ่งนัก
กว่าที่เราแต่ละคนจะเกิดมานั้นต้องใช้วันเวลาสั่งสมคุณภาพจิตกันอย่างยาวนาน แต่ครั้นได้อัตภาพอันประเสริฐที่สุดมาเป็นมนุษย์แล้ว กลับไม่ได้ใช้ศักยภาพนั้นไปอย่างถึงที่สุดอย่างที่ควรจะเป็น การณ์ที่เป็นเช่นนี้เพราะเหตุผลเดียวคือ เราต่างก็พากันตื่นอยู่อย่างผู้หลับใหลนั่นเอง
เมื่อใดก็ตามที่เราเกิดอาการ "ตาสว่าง" เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตอย่างถ่องแท้ เมื่อนั้นการดำเนินชีวิตเชิงคุณภาพจะเริ่มต้นขึ้น แต่ปัจจัยที่จะทำให้คนเราดำเนินชีวิตเชิงคุณภาพจะเริ่มต้นขึ้น แต่ปัจจัยที่จะทำให้คนเราเกิดปฏิกิริยา "ตาสว่าง" ในแต่ละเรื่องก็มิใช่หาได้ง่าย ๆ ทั้งนี้เพราะชีวิตมีเหตุหลากหลายปัจจัยเอนกคอยห้อมล้อมบดบัง หากขาดซึ่ง "ตาปัญญา" (ปัญญาจักษุ) จริง ๆ แล้ว ก็เป็นการยากมากที่ปุถุชนคนหนึ่ง ๆ จะสามารถทะลุทะลวงออกจากมายาการอันเป็นเปลือกชีวิตได้สำเร็จ
หนังสือ "ปรากฎการณ์ตาสว่าง" พยายามทำหน้าที่ "เปิดหูเปิดตา" ผู้อ่านให้เกิดอาการตื่นรู้ต่อโลกและชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น โดยนำเสนอวิธีปฏิสัมพันธ์และปฏิบัติต่อชีวิตและสิ่งต่าง ๆ ที่รายล้อมชีวิตอยู่อย่างผู้ที่เปี่ยมด้วยความเข้าใจ หากเราเพียรอ่านบทความในแต่ละเรื่องที่ร้อยเรียงอยู่ในหนังสือเล่มนี้อย่างพินิจ ก็จะพบว่า อาการตาสว่างนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะเกิดขึ้นได้ ปัญหาก็คือว่า เราเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองหาสิ่งดี ๆ ในชีวิตบ้างหรือเปล่า
ว.วชิรเมธี
๙ มีนาคม ๒๕๕๒
คำนิยม (๒)
ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
หลาย ๆ สิ่งทำให้เรามีความสุข แต่อีกหลายอย่างก็ทำให้เราต้องเจ็บปวด
ปรากฎการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้เราเรียนรู้ เราอาจจะต้องเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งฉลาดพอ
ประสบการณ์ต่าง ๆ สอนเราอยู่เสมอ หากเราสังเกตมันให้ดี ๆ
"ปรากฎการณ์ตาสว่าง" เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์และวิธีคิดดี ๆ สำหรับการใช้ชีวิต
ความจริงแล้วชีวิตเป็นเรื่องสนุก ถ้าเรารู้เท่าทันและรู้จักใช้ให้เป็น
ถ้าหากให้เลือกได้เพียงสิ่งเดียวในโลกนี้ ผมว่าการมี "ตาสว่าง" เป็นสิ่งที่น่าเลือกมากที่สุดแล้ว
ธนชัย อุชชิน
(ป๊อด โมเดิร์นด๊อก)
คำนิยม (๓)
สำหรับท่านที่คิดว่าธรรมะเป็นเรื่องไกลตัว เข้าใจยาก หนังสือเล่มนี้นำประสบการณ์ชีวิตและเรื่องราวแสนธรรมดารอบ ๆ ตัวของผู้เขียน ซึ่งอาจจะคล้ายหรือเหมือนกับเรา ๆ ท่าน ๆ หลาย ๆ คน มานำเสนอในมุมมองแบบชาวพุทธ ให้เข้าใจได้อย่างไม่ยากและครอบคลุมเกือบทุกเรื่องหลักที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคนธรรมดาทั่วไป
ผมเชื่อว่า หนังสือเล่มนี้มีข้อคิดดี ๆ ที่จะช่วยบรรเทาปัญหาในใจที่ท่านผู้อ่านกำลังประสบอยู่ให้ตาสว่างพบทางออกของปัญหาครับ
นที เอกวิจิตร์
(กุ๊กอุ๋ย วง Bhudda Bless)
คำนิยม (๔)
ที่บ้านมีหนังสือกองอยู่มากมาย ยังไม่ยอมหยิบมาอ่าน ทั้งที่รู้ (จากคนอื่น ๆ) ว่าอ่านแล้วจะดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่มันมีความ "ขยาด" หนังสือที่ตั้งท่าจะสอนเราตั้งแต่หน้าปก
แต่เมื่อได้เริ่มอ่าน "ปรากฏการณ์ตาสว่าง" หนังสือเล่มนี้ไม่ได้น่ากลัวเลย ไม่มีคำศัพท์ยาก ๆ อ่านแล้วไม่ต้องขมวดคิ้ว อ่านไป ทบทวนตัวเองไป เข้าใจตัวเองไป ร้อง "อ๋อ" กับตัวเองในใจ บทละหลาย ๆ ครั้งจนจบ แล้วก็บอกตัวเองว่า ดีใจจังที่ได้เขียนคำนิยมครั้งแรกในชีวิตให้กับหนังสือดี อ่านง่าย ๆ เล่มนี้
อ่านหนังสือเล่มนี้เถอะนะ ขอร้อง ดีมาก ๆ อยากให้อ่าน
แป้ง
ภัทรีดา ประสานทอง
มีคำนิยมจากผู้มีชื่อเสียง ๔ ท่าน ... ผมว่า มีเสน่ห์ดีออก ในความเป็นตัวตนแต่ละท่าน
เนื้อหาด้านในเป็นเรื่องราวของมุมดี ๆ ของชีวิตที่ผู้เขียนได้ค้นหาด้วยตนเองแล้วนำมาเล่าด้วยภาษาง่าย ๆ ทำให้ธรรมะเป็นเรื่องง่าย ๆ ชอบจังครับ
เอาไว้จะนำมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ :)
หากทนไม่ไหว แนะนำให้ไปลองเปิดที่ร้านหนังสือใกล้บ้านดูครับ
ถูกใจ ก็อุดหนุน ... ไม่ถูกใจก็เงียบ ๆ ไว้ :)
ขอบคุณมากครับ
แหล่งอ้างอิง
คมสัน วิเศษธร. ปรากฏการณ์ตาสว่าง. กรุงเทพฯ: อมรินทร์ธรรมะ, ๒๕๕๒.
คงต้องไปซื้อมาอ่านแล้วล่ะ...จะได้ตาสว่าง..อิ อิ
ขอบคุณค่ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ...^_^..
ขอบคุณครับ คุณพยาบาล สีตะวัน ที่แวะมาเยี่ยมบันทึก :)
รับน้ำสงกรานต์ครับ
สวัสดีค่ะ พี่อาจารย์ Wasawat Deemarn
Moon smiles on Venus&Jupiter มาดู ปรากฏการณ์ตาสว่าง
เราเห็นแต่โลกภายนอก แต่เราไม่เคยนึกถึงสภาพความเป็นจริงของโลกภายใน
ไม่เคยได้สำรวจถึงความอ่อนไหวของจิตใจกัน
ถูกใจมากเลยค่ะ ต้องไปหาอ่านบ้าง.. อิ อิ ขอบคุณพี่อาจารย์ค่ะ
ปีใหม่ไทยนี้ ขอให้พี่อาจารย์ Wasawat Deemarn มีความสุข มีกายใจสดใสผ่องแผ้ว มีชีวิตเพริศแพร้วผ่องใส ตลอดไปนะคะ..
ขอบคุณมากครับ น้อง Moon smiles on Venus&Jupiter :)
หนังสือเล่มนี้ดีครับ
ชื่อหนังสือ น่าสนใจครับ..
ต้องหามาเป็นสมบัติส่วนตัวแล้วครับ ;)
คำอุทานว่า "หนังสือบ้าอะไร...น่าอ่านชะมัด" เป็นเรื่องจริง ครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร :)
ขอบคุณครับ
หน้าปกเก๋ค่ะ
กับ คำอุทานว่า "หนังสือบ้าอะไร...น่าอ่านชะมัด" อิอิ
ขอบคุณธรรมะผ่านอักษรของอาจารย์ค่ะ
อิ อิ แวะมาแซวนะครับ คุณ ครูเอ :) ...
ขอบคุณครับ
เดี๋ยวนี้เมื่อมีโอกาสไปร้านหนังสือจะเห็นว่าแผนกหนังสือธรรมะนั้นใหญ่ไม่ใช่เล่น หนังสือก็มีหลากหลายระดับความยากง่ายนะคะ คนสมัยนี้โชคดีในส่วนที่มีโอกาสได้เข้าใจธรรมะผ่านหนังสือที่มีผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์มาปรับภาษา ขยายความ ยกตัวอย่าง มาเขียนออกมาให้ได้อ่าน ทำให้น่าสนใจและรูปเล่มก็ทำได้เก๋ เข้ายุคสมัย
อาจารย์อ่านหนังสือเยอะดีค่ะ
ใช่เลยครับ พี่อาจารย์ คุณนายดอกเตอร์ :) ...
เมื่อสังคมทรุดตัวลงทางด้านจิตใจ คนเราก็ย่อมต้องการคำตอบอะไรบางอย่างที่ทำให้สบายใจขึ้น
ซึ่งการที่หนังสือธรรมะมีมากขึ้น อาจเป็นดัชนีชี้วัดอะไรบางอย่างทางด้านจิตใจของคนเราน่ะครับ
แต่ผมก็ชอบแหละ ... มีทางเลือกให้อ่านมากมายครับ
สงสัยว่า "ผมจะบ้า" หนังสือน่ะครับ อิ อิ
ขอบคุณครับ :)