จากบันทึก พิษร้ายของความโกรธ ... (Secret) จากนิตยสาร Secret ฉบับที่ 19 คอลัมน์ Healthy Body in Healthy Mind โดย เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ นั้น ทำให้เราทราบว่า "ความโกรธ" สามารถฆ่าเราได้อย่างที่หลายคนไม่เคยคิดถึง ... บันทึกนี้จะนำเสนอต่อว่า "ทำอย่างไรให้หายโกรธ" ได้ล่ะ ลองพิจารณาดูเถิด
"ทำอย่างไรให้หายโกรธ"
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต) กล่าวไว้ในหนังสือ ทำอย่างไรจะหายโกรธ ว่า "โบราณท่านรู้ใจและเห็นใจคนขี้โกรธจึงพยายามช่วยเหลือ โดยสอนวิธีการต่าง ๆ สำหรับระงับความโกรธ วิธีการเหล่านี้มีประโยชน์ไม่เฉพาะสำหรับคนมักโกรธเท่านั้น แต่เป็นคติแก่ทุกคน ช่วยให้เห็นโทษของความโกรธ และมั่นในคุณของเมตตายิ่งขึ้น"
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อ่าน Secret ได้รวบรวมวิธีการคลายโกรธของพระพรหมคุณาภรณ์และแหล่งที่มาอื่น ๆ มาแนะนำ ดังนี้
สร้างความรู้สึก "สะดุ้งกลัว" ต่อความโกรธ
ทันทีที่โกรธให้เตือนตัวเองว่า เราได้รับพิษร้ายเข้าไปแล้ว และพยายามระงับพิษโกรธนั้นไว้ไม่ให้กำเริบจนกระทั่งแสดงกิริยาอาการอะไรออกมา ด้วยการพิจารณาโทษของความโกรธให้มากที่สุด เช่น ให้คิดว่า "หากเราโง่เขลาคิดตอบโต้ผู้อื่นด้วยความโกรธเมื่อใด พิษร้ายของความโกรธก็จะเพิ่มขึ้นและหมักหมมอยู่ในใจมากขึ้นทุกที และมันจะคอยเผาจิตใจของเราไปชั่วกาลนาน เสมือนหนึ่งเราได้สร้างนรกให้เกิดขึ้นในใจของตัวเองแล้ว"
ระงับความโกรธด้วยเมตตา
ธรรมที่ตรงข้ามกับความโกรธ คือ เมตตา เราจึงควรระงับความโกรธด้วยการให้อภัยแล้วสร้างเมตตาขึ้นมาแทนที่ ความเมตตา นอกจากจะช่วยบรรเทาความโกรธแล้ว ยังทำให้จิตใจผ่องใส มีความสุขทั้งในขณะตื่นและขณะหลับ รวมทั้งยังช่วยให้ไม่ฝันร้าย และเป็นที่รักของผู้คนทั้งหลายด้วย
ตั้งสติระลึกถึงความดีของคนคนนั้น
เมื่อรู้สึกโกรธเคืองใครก็ตาม ให้ตั้งสติระลึกนึกถึงความดีของคนคนนั้นไว้ในใจ เช่น นึกว่า เขาเคยทำดีและมีบุญคุณอย่างไรต่อเราบ้าง หรือนึกถึงส่วนดีอื่น ๆ ที่น่าประทับใจของเขา แทนที่จะมุ่งมองแต่ข้อเสีย
ใช้จินตนาการสร้างมโนภาพให้คนที่เราโกรธกลายเป็นเด็กเล็ก ๆ
เมื่อรู้สึกโกรธใคร ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว เช่น แฟน พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ หรือคนไกลตัว เช่น นักการเมือง ฯลฯ ให้ลองใช้จินตนาการสร้างมโนภาพให้คนที่เราโกรธกลายเป็นเด็กเล็ก ๆ อายุสัก 1 - 2 ขวบ แล้วให้เอ็นดูเมตตาเขาไม่ต่างจากลูกของเรา เพียงเท่านี้ความโกรธจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง วิธีนี้แม้ดูง่าย ๆ และน่าขำ แต่รับรองว่า จะสามารถทำให้คุณหายโกรธได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
สงบศึกด้วยการให้ของขวัญ
วิธ๊นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเพื่อนสนิทหรือคู่รักที่กำลังโกรธกัน เพราะการแสดงออกซึ่งความด้วยการทำหรือให้อะไรสักอย่างแก่อีกฝ่ายจะเป็นกุศโลบายช่วยให้หายโกรธได้ทันทีทั้งผู้ให้และผู้รับ
มองว่าทั้งเราและเขาต่างก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์กันทั้งสิ้น
เมื่อโกรธให้คิดเสียว่า ในสังสารวัฏนี้ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากความทุกข์ คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เลยสักคน เราทุกคนล้วนตกอยู่ภายในชะตากรรมเดียวกันทั้งนั้น ดังนั้น จะมัวเสียเวลาโกรธกันไปทำไม
ระงับความโกรธด้วยการ "หยุดคิด"
หากทำอย่างไรก็ไม่หายโกรธ ให้ลองหันมาใช้วิธี "หยุดคิด" ดูด้วยการหยุดคิดทุกอย่างไว้ชั่วครู่ แล้วหันมาหายใจเข้าปอดลึก ๆ ยาว ๆ และเอาใจมาจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกติดต่อกันสัก 10 - 20 ครั้ง เพียงเท่านี้ความโกรธก็จะมลายหายไป แต่ได้ความสบายกายและความปลอดโปร่งโล่งใจเข้ามาแทนที่
กราบพระเพื่อระงับความโกรธ
การกราบพระเป็นกุศโลบายอันดีที่จะทำให้จิตใจมีความอ่อนน้อม หมดมานะ คือ ความถือตัว ในสภาพจิตใจเช่นนี้ความโกรธย่อมคงอยู่ไม่ได้ ดังนั้น หากท่านลองใช้วิธีระงับความโกรธมาหลายวิธีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล ขอแนะนำให้ลองวิธีนี้ดู พระท่านว่า ระงับความโกรธได้ชะงัดนัก
พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้มนุษย์ยุติความโกรธแค้นด้วยการให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธตอบ เวรกรรมที่มีต่อกันมาหลายภพหลายชาติจนนับไม่ถ้วนนั้นจะได้มลายหายไป แล้วหันมากระทำต่อกันในชาตินี้ด้วยความเกื้อกูล สนับสนุนซึ่งกันและกันให้ดำเนินชีวิตไปในทางดี จะได้ไม่ถูกเผาผลาญด้วยไฟคือความโกรธซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างที่เคยเป็นมา
.....................................................................................................................................
โกรธเขาเท่ากับจุดไฟเผาตัวเอง ... ว.วชิรเมธี
ท่านสามารถเลือกวิธีระงับความโกรธได้จากคำพระ ... ตามที่ท่านคิดว่าถูกจริตกับตนเองมากที่สุด
แล้วท่านจะค้นพบความสุขจาก "ความไม่โกรธ" ด้วยตัวท่านเอง
บุญรักษา ทุกท่านครับ
......................................................................................................................................
แหล่งอ้างอิง
เสาวลักษณ์ ศรีสุวรรณ. "ทำอย่างไรให้หายโกรธ". Secret. 1, 19 (10 เมษายน 2552) : 76 - 77.
