มันก็แค่ข้าวกล่อง ….
วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะวันนี้มีนัดกับพี่ๆ น้องๆ ที่บ้านอาจารย์ปู่
ชาร์ตเบตเตอรี่กล้องเต็มทั้ง 2 ก้อน กะว่าจะกดมาให้หนำใจกันไปเลย
เดินทางโดยรถตุ๊กๆ ไปยังจุดนัดหมายเพื่อจะได้ไปขึ้นรถที่เดียวกัน
รถเวียนรับจนครบ 4 ท่าน รถก็มุ่งหน้าไปพนม ถ้าใครไม่รู้จัก
ก็แถวๆ เขื่อนเชียวหลานนั้นแหละครับบบ
ถึงที่เป้าหมายด้วยความปลอดภัยช้าหน่อย
เพราะแวะถ่ายภาพตลอดทาง จอดทุกที่ที่วิวสวย เช่น ริมถนน กองดิน สระบัว
ก็ใกล้เที่ยงแล้ว เลยตกลงกันว่าจะกินข้าวกล่องที่ไหนดี
มี 1 เสียงมาจากด้านหลัง ออกความคิดเห็นว่าเราไปกินที่หน้าถ้ำแล้วกัน
เพราะแถวนั้นมีที่ร่ม อากาศสบายยยย ทุกคนก็คล้อย ตามเสียงนั้นทันที่
ผมรับหน้าหิวข้าวกล่อง และอีกหลายๆ คนก็ขนน้ำ คนถุงข้าวที่เหลือ คนละไม้คนละมือ
หิ้วของไปอีกมือก็กดรูปมือก็เป็นตากล้องไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมาย
ถึงจุดหมายสายตาทุกคนก็ เล็งสายไปยังข้าวกล่องทันที่
ด้วยความหิวทำให้ผมกินข้าวกล่องได้อย่าง อร่อยและ อิ่ม ตามด้วยน้ำอีก 1 ขวด
จำได้ว่า วันนั้นกินข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว
กินเสร็จ ทุกคนก็ แยกย้ายกันไปกดรูป มุมใครมุมมัน ตามตามอัธยาศัย
ที่สำคัญต้องระวังภาพหลุด เพราะเอามาเผากันสนุกกันกว่าภาพเบื่องหน้าเสียอีก
วันนั้นผมถ่ายใบไม้ที่มันสะท้อนแสงทั้งวัน ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ทั้งจากนั้นทุกคนก็มุงหน้าไปยังถ้ำน้ำลอด
เจอครอบครัวหนึ่งมี กำลังเล่นน้ำในลำธาร
ผมนึกในใจว่าบ้านคงไม่มีไฟฟ้าใช้แน่ๆ …..แล้วก็อดยิ้มไม่ได้
ลูกดกจัง เพราะเด็กๆ เล็ก ประมาณ 4-5 คน อายุอยู่ในช่วง 3 – 9 ปี เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
พวกตากล้องที่ไปด้วยกันก็เชียร์ น้องทำอย่างโน้น กระโดดน้ำท่านี้ ไปเล่นตรงที่มีแสงหน่อยย
พวกเรานั่งภาค จนเด็ก ตัวน้อยๆ 2-3 คน และคนถ่ายภาพเริ่มเหนื่อย จึงมานั่งคุยกันที่ศาลาข้างลำธาร
เราขึ้นมาสักครู่ เด็กตัวน้อยๆ และพ่อก็ตามขึ้น มุ่งหน้าไปยังรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง
ผมหันไปตามเสียง เด็กๆมาเอาข้าวกล่องไปทานกัน เป็นเสียงพี่ผู้ใจดีในทริปนี้นี้เอง
เด็กตัวน้อยๆ จิงวิ่งกรูเข้ามารับข้าวกล่อง พวกเราเลยแซวว่านี้แหละค่าตัวที่เป็นแบบให้มือตะกี่
พร้อมหัวเราะกันทั้งกลุ่ม
พี่ผู้ใจดีแจกข้าวกล่องที่เหลือจากตอนกลางวันให้เด็กๆ อย่างสนุกสนาน
คงเป็นภาพที่ผมประทับในการแบ่งปันในครั้งนี้
หลังจากเด็กได้รับข้าวกล่องก็ ต่างก็พากันขึ้นรถ ผมนึกว่าพวกเขาคงกลับบ้านกันแล้ว เลยไม่ได้สนใจ
หันมาเห็นอีกครั้ง พ่อ แม่ แล้ว ลูกๆ กินข้าวกล่องอย่างอร่อย อย่างมีความสุข
อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์พวงข้าง ใกล้ศาลาที่เรานั่ง
ทำให้ผมอดคิดไม่ว่า ข้าวกล่องที่พวกพี่ๆเขาให้สร้างความสุขขนาดนี้เลยหรือ
เพราะเวลาประชุมหรือไปเที่ยวไหนกัน ทุกคนมักจะพูดกันเสมอว่า
เลี้ยงข้าวกล่องอีกแล้วเซ็งว่ะ มีไรกินที่ดีกว่านี้กินไหม .........
แล้วกลับมามองตัวเองอีกรอบ
วันทำงานผมก็กินข้าวกล่องตอนเที่ยงประจำ เพราะไม่อยากออกไปกินข้าวข้างนอก
ก็เลยซื้อข้าวกล่องมาตั้งแต่เช้า ทุกๆวันผมกินด้วยความเซ็ง
และคิดเสมอว่ากินด้วยความอยู่รอด ตลอดเวลา
แต่วันนี้ ผมได้เรียนรู้ค่าของข้าวกล่อง กล่องเล็กๆ มันสร้างความสุขให้คนอีกหลายคน
โดยเฉพาะครอบครัวที่ผมนั่งมอง และขอบคุณน้ำใจของพวกพี่ที่ไปออกทริปด้วยกันที่ทำให้รู้ถึงคุณค่า
เพราะของบ้างสิ่งบ้างอย่างไม่มีค่าหรือมีค่าน้อยสำหรับเรา แต่มันมีค่ามากมายสำหรับคนอื่นๆ
ขอให้ทุกคนมีสุขกับการให้ อย่าคิดว่า ..................มันก็แค่ข้าวกล่อง
เอก
เอารูปสวยๆมาฝากด้วยสิครับ อยากเห็นภาพตามที่บรรยาย
ดีจังครับ, มีความสุขที่ได้อ่านบันทึกนี้ครับ
สวัสดีค่ะคุณชีวิตเอกเขนก