BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

นำเที่ยววัดสุวรรณคีรี (ต่อ)


นำเที่ยววัดสุวรรณคีรี (ต่อ)

ความเป็นเมืองสงขลาเก่าของฝั่งแหลมสน ที่สังเกตได้ง่ายที่สุดคือมีวัด ๔ วัดเรียงติดกัน เริ่มต้นจากวัดสุวรรณคีรีนี้ ต่อจากนั้นถัดไปทางทิศตะวันตก็จะเป็น วัดบ่อทรัพย์ วัดวาส และวัดภูผาเบิก... แต่เดียวนี้คณะสงฆ์ได้ยุบวัดวาสรวมเข้ากับวัดบ่อทรัพย์ จึงคงเหลือเป็น ๓ วัด แต่ร่องรอยของความเป็นวัดวาสก็ยังมีอยู่...

จำได้ว่า ผู้เขียนมาเที่ยวที่นี้ครั้งแรกเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน โดยมากับญาติผู้พี่ ซึ่งท่านเพิ่งลาสิกขาหรือสึกจากความเป็นพระมาไม่นาน แล้วก็มาเยี่ยมเพื่อนที่ยังบวชเป็นพระ ท่านชวนผู้เขียนว่ามาเก็บลูกสะว้า (ละมุด ปักษ์ใต้เรียกว่า สะว้า) ความจำสมัยนั้นบอกแต่เพียงว่า แต่ละวัดคือสวนสะว้าเท่านั้น และเดียวนี้ความเป็นสวนสะว้าก็ยังคงอยู่...

สำหรับวัดสุวรรณคีรีในปัจจุบัน แม้จะมีการตัดต้นสะว้าไปหลายต้นเพื่อใช้พื้นที่สร้างอาคาร แต่ความเป็นสวนสะว้าก็ยังคงอยู่...

    

ตอนผู้เขียนจำพรรษาที่นี้นั้น พ่อท่านคลิ้งอดีตท่านเจ้าอาวาส ให้ชาวบ้านผูกสวนวัด คืออนุญาตให้เก็บลูกสะว้าและของอื่นๆ ไปขายตามที่เห็นสมควร... และจากการเคยอยู่ที่นี้ จึงเคยเห็นลูกสะว้าหลายแบบ เช่น ลูกกลมเล็ก ลูกเรียวเล็กคล้ายมะปราง หรือลูกโตขนาดกำหมัดก็เคยเห็น...

 

   

ถนนเข้ามายังเตาเผาศพด้านหลังวัด และด้านหลังเตาเผาศพ นั่นก็คือวัดบ่อทรัพย์...


    

ศาลาพักร่มในวัด.. หลังซ้ายมือเพิ่งสร้างใหม่ไม่นานนักในยุคเจ้าอาวาสปัจจุบัน. ส่วนหลังขวามือมีมาตั้งแต่สมัยเจ้าอาวาสรูปก่อน ซึ่งตอนผู้เขียนอยู่ที่นี้ หลังนี้ก็มีอยู่แล้ว.

 

     

กุฏิสำหรับพระสงฆ์อยู่ทั่วไป... จะเป็นกุฏิเล็กๆ อยู่รูปเดียวทำนองกุฏิพระกรรมฐาน... หลังซ้ายมือปลูกไม้ประดับเต็มหน้ากุฏิ. ส่วนหลังขวามือเป็นกุฏิที่ผู้เขียนเคยอยู่จำพรรษาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เดียวนี้ทรุดโทรมไปตามสภาพ คงจะรอวันซ่อมหรือวันรื้อ...

 

    

พี่ท่านเจ้าอาวาส ผ่านมา... หลังจากนมัสการแล้วก็ขอถ่ายรูปเจ้าอาวาสหน่อย. ส่วนอีกรูปเป็นผู้เขียน โดยให้พี่ท่านช่วยถ่ายย้อนแสง ที่เห็นเลยแผ่นน้ำลิบๆ ออกไปคือฝั่งอำเภอเมือง แถบนั้นเป็นท่าเทียบเรือประมง.

 

     

ศาลาการเปรียญ... ผลงานสำคัญหลังสุดของพ่อท่านคลิ้งอดีตเจ้าอาวาส ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ. ปัจจุบันพี่่ท่านเจ้าอาวาสจะพักอยู่ที่นี้ เป็นทั้งที่จำวัด ทำงาน รับแขก และประกอบศาสนกิจทั่วไป...

 

       

ประตูแบบเก๋งจีนโบราณยังคงเหลือให้เห็นในวัด... ส่วนสิงห์โตหินก็ยังหลงเหลืออยู่อีกหลายชิ้น ตามที่เคยสังเกตรูปสิงห์โตหินทำนองนี้ จะมีเป็นคู่ โดยตัวหนึ่งจะมีลูกน้อยกำลังกินนมอยู่ด้วย...


   

รีบขึ้นไปบนกุฏิหลังใหม่ของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งท่านได้อยู่ไม่กิ่ปีก่อนที่จะมรณภาพ เพื่อต้องการจะเก็บภาพนี้มาฝากเป็นชุดสุดท้าย คือกรอบประตูจากกุฏิหลังเก่าที่รื้อไปแล้ว พ่อท่านคลิ้งได้อนุรักษ์ไว้...

เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนตอนที่ผู้เขียนอยู่นั้น มีกุฏิเก่าๆ ซึ่งไม่อาจอยู่อาศัยได้และพร้อมที่จะพังได้ตลอดเวลาอยู่หลายหลัง จึงมีการตกลงให้รื้อทิ้งทั้งหมด และเมื่อผู้เขียนขึ้นมาอยู่กรุงเทพ ทางกรมศิลป์ก็เข้ามาอนุรักษ์... พี่ท่านเล่าว่า กรมศิลป์จะทำให้ทั้งหมด โดยซ่อมบางอย่างที่พอซ่อมได้ ส่วนที่ซ่อมไม่ได้ทางกรมศิลป์ก็สร้างให้ใหม่ในรูปแบบเดิม แต่สำหรับกุฏิเก่าซึ่งรื้อไปก่อนที่กรมศิลป์จะเข้ามานั้น จะไม่สร้างให้ใหม่เพราะไม่มีประจักษ์หลักฐาน...

  • บางคนจึงพูดว่ากรมศิลป์มักจะ มาสายเสมอ... แต่บางคนก็พูดว่า มาสายดีกว่าไม่มา...

วัดสุวรรณคีรี นอกจากจะเป็นวัดเก่าควรแก่การศึกษาแล้วก็ยังมีพันธุ์ไม้หลากหลาย และพี่ท่านเจ้าอาวาสปัจจุบันก็ชอบปลูกต้นไม้ มีต้นไม้แปลกๆ ใหม่ๆ มาประดับวัดอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ได้เวลาจะทำพิธีแล้ว ผู้เขียนจึงมิได้ถ่ายภาพต้นไม้อื่นๆ มาฝาก ผู้ใดสนใจและมีโอกาสก็ควรไปเยี่ยมชมสักครั้ง...

หมายเลขบันทึก: 252107เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2009 08:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดี ท่านมหาฯ

วันนี้เป็นตอนที่ สอง ที่ท่านมหาได้นำเสนอ

คงจะมีหลายคนได้รู้จักวัดสุวรรณคีรีมากขึ้น

นมัสการครับพระคุณเจ้า

   ไม่ได้เข้ามารับสิ่งประเทืองปัญญา นานพอสมควร วันนี้เข้ามาไม่ผิดหวังเช่นเคยครับ

                     รพี

Pรพี กวีข้างถนน

 

  • มีกล้องใหม่ จึงลองเล่าเรื่องวัดเชิงนำเที่ยว...

ตั้งใจว่า มีโอกาสไปงานตามวัดที่เคยอยู่หรือคุ้นเคย ถ้ามีกล้องติดไปและมีเวลาพอ ก็จะถ่ายมาเล่าเชิงนำเที่ยวทำนองนี้อีก...

เจริญพร

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท