เรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
กระผมมีเรื่องไม่ค่อย สบายใจจึงอยากขออนุญาต เรียนให้ทราบ เผื่อสิ่งที่กระผมกล่าวนี้อาจจะเป็นประโยชน์แกคณะไม่มากก็น้อย
กรณีที่ว่า คะแนนบางรายวิชา ทำไมนิสิตจึงได้น้อยๆ กันหมดเลย ซึ่งมีอ.ที่รับผิดชอบกล่าวว่า "เด็กทำไม่ได้กันเยอะเลย" ทำให้กระผมเกิดความสงสัยมานานแล้ว จนเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น นานขึ้น เริ่มมากรายวิชา จนทำให้นิสิต เกิดประเด็นถกเถียงกันในหมู่นิสิตว่า เหตุใดกันแน่ที่ทำให้ได้คะแนนกันน้อย ประเด็นที่น่าเป็นห่วงนั่นคือ นิสิตที่ขยันเรียน ตั้งใจเรียน และเตรียมตัวมาดี เตรียมตัวมานาน แต่ผลออกมา เป็น D+ ทั้งๆที่คนๆนั้น เขียนดีพอควร ตอบถูกธง (เชื่อได้ว่าเขาเก่ง เพราะเขา ผ่าน A มาจนนับได้มาก) เหตุนี้ทำให้ผู้ตั้งใจเรียนเกิดความท้อใจเกิดขึ้นว่า เราทำดีที่สุดแล้วแต่เหตุใดได้เท่านี้ได้ไม่คุ้มเสีย และทำให้เกิดความข้องใจในใจว่า สิ่งที่ตนเข้าใจมาถูกต้องแล้วจริงหรือ?
ประเด็นที่นิสิตถกเถียงถึงสาเหตุที่เกิดปรากฎการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็ได้แก่
1.อ.ผู้รับผิดชอบรายวิชานั้น กดเกรดมากจนเกินควร
2.อ.ผู้รับผิดชอบยึดติดกับความคิดตนเองมากเกินไป ไม่เปิดรับความเห็นอื่นที่แตกต่าง
3.อ.ผู้รับผิดชอบยึดแค่แนวคิดเดียวที่ตนเห็นด้วยกับนักวิชาการฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่นักวิชาการคิดไม่ตรงกัน
4.อ.ผู้รับผิดชอบถ่ายทอดความรู้ไปในทางหนึ่ง แต่พอตรวจข้อสอบ ตรวจด้วยความรู้อีกทางหนึ่ง (เกิดจากความไม่ชำนิชำนาญในวิชาที่สอนจึงไม่สามารถมองได้รอบทิศของสาระกฎหมาย)
5.อ.ผู้รับผิดชอบเห็นว่านิสิตเขียนไม่ดีที่ตนได้วางเกณฑ์ไว้
เป็นไปไม่ได้เลย ที่นิสิตจะทำกันไม่ได้เลยทุกคนดังที่อ.กล่าวอ้าง
นิสิตจะไม่รู้เรื่องกันทั้งคาร์สเลยจริงหรือ?
กระผมเห็นว่าควรต้องมีการตรวจสอบ และสอบสวนเรื่องนี้โดยด่วน เพื่อความยุติธรรมในการตรวจข้อสอบ ความเชื่อมั่นในตัวผู้ตรวจข้อสอบและเรียกร้องให้ทำการตรวจข้อสอบเพื่อให้คะแนนใหม่(กรณีที่ความผิดนั้นเกิดจากผู้ตรวจเอง) และหามาตรการป้องกันเพื่อมิให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
วิชาที่ถูกกล่าวหา 1.กฎหมายอาญา 1
2.เอกเทศสัญญา 1
3.วิชาอื่นๆ ที่มีเคิปของคะแนนอยู่ในระดับต่ำ
***กระผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวมา แต่แค่อยากนำ ข้อความที่ถกเถียงกันในหมู่นิสิตที่เกี่ยวข้องมาถ่ายทอดให้ทราบและเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้หาทางแก้ไขและเชื่อว่าท่านอาจารย์จะช่วยได้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
...
นิสิตที่รักทุกท่านครับ
ขอบใจมากนะครับที่ให้ความไว้วางใจเล่าปัญหาของท่านทั้งหลายให้ผมฟัง แม้ผมจะไม่ได้สอนในรายวิชาดังกล่าวมาก็ตาม
อืมก่อนอื่นคงต้องแนะนำอย่างนี้ก่อนนะครับ คือ
๑. ผมไม่ใช่อาจารย์ผู้สอนในรายวิชาดังกล่าว คงตอบแทนอาจารย์ผู้สอนไม่ได้ เพราะผมไม่ได้มีความชำนาญในสาขาดังกล่าวนะครับ อีกทั้งไม่ได้สอน ออกข้อสอบและตรวจข้อสอบด้วย การพูดถึงสิ่งอื่นๆ โดยไม่มีความรู้ ยอ่มเป็นการไม่ถูกทั้งมารยาทและจรรยาบรรณของวิชาชีพอาจารย์
๒.ผมเข้าใจว่าถ้านิสิตทุกท่านที่มีปัญหา คณะนิติศาสตร์ที่เป็นบ้านของพวกเรามีคำตอบและขั้นตอนการตรวจสอบข้อสอบตามสิทธิ์ของนิสิตทุกท่านอยู่แล้วนะครับ โดยนิสิต สามารถยื่นคำร้องขอดูคำตอบในข้อสอบและขอให้ท่านอาจารย์ผู้สอนช่วยกรุณาอธิบาย ทั้งหลักกฎหมายและวิธีการเขียนตอบปัญหากฎหมายให้นิสิตได้นะครับ
ทั้งนี้เป็นไปตามสิทธิของนิสิตที่มีอยู่แล้ว ว่าแต่นิสิตที่มีปัญหาได้ลองใช้วิธีนี้ดูหรือยังครับ ลองดูก่อนนะครับ ผมเข้าใจว่าคณาจารย์ทุกท่านของคณะนิติศาสตร์ของเราอยากจะคุยกับนิสิตนะครับ เพราะในรายวิชาที่ผมสอนเอง การที่นิสิตมาถามก็ เป็นเรื่องที่ผมดีใจมาก เพราะเท่ากับว่านิสิตท่านนั้นสนใจในรายวิชาที่เราสอนและ ถ้านิสิตเข้าใจอะไรผิดพลาด ก็จะได้แก้ไขให้ถูก
๓. ถ้ายยังไม่ได้ทำข้อที่สองให้ทำข้อที่สองก่อนนะครับ ผมจำได้ว่าจากประสบการณ์การเป็นอาจารย์ของผม เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเหมือนกันครับ เรื่องมีอยู่ว่าในรายวิชาหนึ่งนิสิตสอบตก จำนวนไม่ปรากฏ แต่กลายเป็นว่านิสิตคุยกันไปกันมากลายเป็นข่าวลือว่า สอบตกทั้งชั้น เอากับเค้าสิ 555 และนิสิตก็ยังไม่ได้ไปคุยกับอาจารย์ผู้สอนเนื่องจากเป็นช่วงที่อาจารย์ผู้สอนเร่งตรวจข้อสอบ ทำให้ข่าวลือยิ่งแพร่ไปหลายกระแสมาก ว่าเป็นการที่ใช้มาตรฐานการตรวจ ไม่ถูกบ้างล่ะ หรือ กดคะแนนบ้างล่ะ แต่ภายหลังอาจารย์ผู้สอนท่านก็ใจเด็ดครับ เปิดห้องประชุมคุยเลยทีเดียว กลายเป็นว่าจากจำนวนนิสิต ร้อยกว่าคน มีสอบตกสิบคนเศษๆ เท่านั้นและที่สอบตกนั้น มีหลักฐานชัดเจนว่าไม่ได้เข้าฟังคำบรรยาย (เลยกลายเป็นเรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันไป) ซึ่งท้ายสุดก็ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจและ ผมคิดว่านิสิตเราได้บทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดว่าเราเป็นนักกฎหมายครับ ก่อนจะเชื่ออะไรต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน ไม่ใช่ฟังมาก็เชื่อทั้งหมด นั่นแสดงว่ายังไม่ได้วิญญาณความเป็นนักกฎหมายที่แท้จริงไป
๔. ตอนนี้ผมอยู่ที่ออสเตรเลียนะครับ อาจจะให้คำแนะนำอะไรไม่ได้มาก และอีกประการหนึ่ง บล็อกที่ผมเขียนก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับวิชาการคงยังไม่เหมาะจะเป็นที่มาร้องเรียนมั้งครับ แต่อย่างไรก็ตามในฐานะอาจารย์ผู้สอนกฎหมายสิทธิมนุษยชน ผมก็ยินดีรับฟังครับ
แต่ผมว่าถ้าจะให้เหมาะมันน่าจะเป็นเรื่องที่นิสิตที่มีปัญหามาคุยกับอาจารย์ผู้สอนรายบุคคลนะครับ และถ้าจะให้ดีลองคุยให้ท่านอาจารย์ที่ปรึกษาฟังก็ได้นะครับ ผมว่าท่านน่าจะมีคำแนะนำดีๆให้
อย่างไรก็ตาม
ขอใหนิสิตทุกท่านโชคดีนะครับ ไว้เปิดเทอมพบกันครับ
รักและปรารถณาดี
อ.วิว
อาจารย์วิวได้ดูหนังเรื่องออสเตรเลียหรือยัง ถ้ายังน่าจะหามาดูนะเพราะหนังถ่ายทอดประเด็นที่อาจารย์วิวกล่าวถึงข้างต้น เป็นหนังที่ผู้สร้างพยายามจะสะท้อนให้ผู้ดูเห็นถึงความเป็นออสเตรเลียในแง่มุมหนึ่ง ซึ่งนั่นก็รวมถึงการที่คนขาวพยายามเข้าไปจัดการกับวิถีการดำเนินชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิมของออสเตรเลียด้วย หนังมีความยาวน่าจะประมาณ 3 ชั่วโมงนะ ไปดูมาแล้วก็คิดว่านานนะแต่ก็ไม่น่าเบื่อ มีเศร้าแอบกรีดน้ำตาเล็กน้อย
สวัสดีครับ อาจารย์วิว นิติรุ่นที่ 2 ครับ
ผมขอแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ คุณไม่ประสงค์ออกนาม แสดงความคิดเห็นไว้นะครับ ว่า
ในแต่ละวิชานั้น ก็จะมีแนวคิดและหลักเกณฑ์ในเนื้อหาสาระวิชานั้นเองนะครับ บางครั้งวิธีคิด วิธีตอบ อาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเนื้อหาสาระวิชาดังกล่าวนั้นมีหลักคิดอย่างไร แค่วิชากฏหมายสารบัญญัติกับวิธีสบัญญัติ ก็เขียนตอบแตกต่างกันแล้วครับ
ดังนั้น ที่บอกว่า มาตรฐานการตรวจข้อสอบวิชากฏหมายอาญา ภาคทั่วไป และวิชาเอกเทศสัญญา 1 มีมาตรฐานตามความคิดที่อ้างนั้นนะครับ ผมเห็นว่า รุ่นน้องหลายๆคนหรือแม้กระทั้งเพื่อนๆของผมตอนเรียนก็บอกว่าตอบได้ แต่พอท่านอาจารย์นำสมุดคำตอบมาให้พวกเราผัดกันอ่าน ก็ทราบได้ทันทีครับว่า เขียนฟุ้มเฟือย จับประเด็นไม่ถูก แม้จะถูกธงคำตอบแต่ก็อธิบายไม่ตรงกับธงคำตอบ ซึ่งก็เป็นเหตุผลสำคัญครับ ที่อาจารย์ที่ตรวจข้อสอบจะตัดคะแนน
ปัญหานี้เอง ผมพยายามศึกษาค้นหาวิธีเขียนตอบข้อสอบกฏหมายให้ตรงประเด็นและอธิบายได้ครบถ้วน ก็มาพบว่า คำพิพากษาของศาลฉบับเต็มนี้แหละครับ ที่เป็นแบบการเขียนตอบข้อสอบที่ดีที่สุดครับ เริ่มเข้าประเด็นแบบไหน ลงท้ายแบบไหน แสดงเห็นผลแบบไหน กระฉับและตรงประเด็น
ก็อย่างจะฝากบอกรุ่นน้องนะครับ ให้เราตั้งใจฝึกฝน อย่างไปโทษใครที่ไหนครับ ทุกคนทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดครับ พี่เชื่อว่า ทำดีแล้วผลก็จะออกมาดีครับ นิติศาสตร์เป็นศาสตร์เดียวที่ตั้งแต่เริ่มเรียนยังทำงาน ต้องอ่านหนังสือและหาแนวคิดใหม่ๆตลอดเวลาครับ ไม่เช่นนั้นเราจะไม่มีที่ยืนในสังคมนิติศาสตร์นะครับ ก็ขอให้รุ่นน้องทุกคนตั้งใจเรียนนะครับ ทุกวิชาที่เรียนได้ใช้ทั้งหมดครับ
ขอบคุณอาจารย์ วิวครับ ที่ให้พื้นที่เล็กๆนี้แสดงความคิดเห็นครับ
ขอบคุณครับพี่เก๋ ที่แวะมาทักทาย ไว้คุยกันครับ และ
ขอบคุณครับโก้ที่แวะมาทักทายและให้คติดีๆกับรุ่นน้อง พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่สาธารณะครับ ครูเองก็อยากชวนโก้ให้ลองมาเขียนบทความ ในนี้เหมือนกันเป็นการเริ่มต้นและลับคมปัญญาให้เฉียบเสมอ
อย่าทิ้งความฝัน
ขอบคุณครับ
รักและปรารถณาดี
อ.วิว
บันทึกนี้ได้กลายเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่คุยเรื่องปรัชญาการวัดผลการเรียน
น่าชื่นชมห้องเรียนกฎหมายสิทธิมนุษยชนของ อ.วิวที่เปิด ๒๔ ชั่วโมงนะคะ
ประชุมถ่ายทอดประสบการณ์แม่อาย ปีนี้ มาไม่ได้ซิคะ
มีลูกศิษย์น้อยของ อ.วิสอาสาคิดเรื่อง Data Base for Stateless People น่าปลื้มใจค่ะ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์พันธุ์ทิพย์ที่กรุณาแวะมาเยี่ยมเสมอๆ ครับอาจารย์ ดีใจมากๆ ครับที่อาจารย์กรุณาแวะมาเยี่ยม และปลื้มใจมากครับกับข่าวที่นิสิตสนใจจะทำโปรแกรมช่วยเหลือคนไร้รัฐไร้สัญชาติที่ท่านอาจารย์กรุณาส่งข่าวมาบอก
นิสิตท่านนี้เป็นคนเดียวกับที่ผมเคยกราบเรียนอาจารย์ว่าเค้าสนใจทำค่ายและทำงานเรื่องคนไร้สัญชาติมากครับ ชื่อว่า กิตติคุณ แก้ววิเศษ เป็นนิสิตที่ตั้งใจมากครับ และทุ่มเทให้กับคณะนิติศาสตร์ของเรามากครับ เห็นเคยคุยกับก๊อตจิ ก๊อตก็สนใจบอกผมว่าถ้าน้องเค้าอยากฝึกงานก็ให้ส่งไปได้เลยครับ เบญเค้าไปค่ายกับผมและอาจารย์อุ๋มมาสองครั้งแล้วครับ ผมยังเคยแย็บๆ ว่าสนใจไปฝึกงานกับท่านอาจารย์พันธุ์ทิพย์ไหม เค้าก็บอกว่าสนใจครับ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆครับที่กรุณา ส่งข่าวดีๆมาบอก เป็ฯข่าวที่น่าปลื้มใจมากครับ
ผมก็เรียนผ่านมาแล้วทั้ง 2 วิชา ทั้งอาญา1 และ เอกเทศสัญญา1 และเชื่ออย่างยิ่งว่าผมก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับคุณไม่ประสงค์ออกนามแน่ๆข้อสอบทั้ง 2 วิชาก็เป็นข้อสอบชุดเดียวกับที่ผมสอบเลยหล่ะ...แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างที่คุณ ไม่ประสงค์ออกนาม กล่าวมา
อย่างวิชาอาญา1นั้นข้อสอบค่อนข้างซับซ้อนมากอ่านไปอ่านมาแล้วงงอยู่พักใหญ่ กว่าจะแกะทีละประเด็นออกถือว่าใช้เวลานานพอสมควรและนอกจากนี้ยังต้องนำมาปรับเข้ากับหลักกฎหมายอีกซึ่งเป็นที่รู้กันว่าในเนื้อหาของอาญาภาคทั่วไปนั้นจะเน้นทฤษฎีต่างๆเช่นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล ป้องกัน จำเป็น ซึ่งจุดนี้เองที่เป็นประเด็นหลักให้เราต้องวินิจฉัยซึ่งเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนและง่ายต่อการวินิจฉัยผิดพลาดมากจึงผิดกันเยอะเมื่อผิดแล้วคะแนนก็ต้องถูกหักออกอย่างช่วยไม่ได้ และ อีกกรณีที่สำคัญไม่แพ้กันหรืออาจจะสำคัญยิ่งกว่าก็คือกรณีทำไม่ทันซึ่งทำไม่ทันนั้นมันร้ายแรงยิ่งกว่าตอบผิดเพราะเท่ากับไม่ได้ทำเลยคะแนนในส่วนนั้นจึงเท่ากับ 0 อย่างช่วยไม่ได้อีกนั่นเอง ฉะนั้นต้องยอมรับว่าวิชาอาญา 1 นั้นที่ได้เกรดกันน้อยก็เพราะเกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆนี้นั่นเอง
วิชาเอกเทศสัญญา1 อันนี้บอกได้เลยว่าหากมองดูอย่างผิวเผินเป็นวิชาที่ไม่ยาก จึงเกิดการไม่เข้าเรียนกันหลายคนเพียงเพราะคิดว่าอ่านเองก็ได้ ในความเห็นของผมแล้ววิชานี้ต้องเข้าเรียนครับถึงจะสามารถทำข้อสอบได้ดี เพราะในห้องเรียนนั้นอาจารย์จะเน้นย้ำ หรือ ยกตัวอย่างกรณีต่างๆในแบบที่ไม่สามารถจะหาได้จากการอ่านตำราด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว จากการที่ผมทำข้อสอบเอกเทศสัญญา1 ที่ผ่านมาจึงขอบอกได้เลยว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ นั่นคือหากอ่านตำราด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอต่อการทำข้อสอบแน่ๆ....คอมเฟิร์ม!!!
คือว่าผมอะกำลังจะสอบวิชาเอกเทศสัญญา1อะครับ
แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาแนวไหนอะ
ละเมิดอีกวิชานึงน่ากัวที่สุด
เพราะการตีความมันซับซอนอะครับ