20.วันนี้ที่รอคอยสำหรับคำว่า.......


...ทำดีครูก็ไม่สนใจ จึงคิดว่าทำไม่ดีเผื่อครูจำผมได้..

     ผมไม่ได้แวะเวียนเข้ามาหลายวัน เนื่องจากไปเป็นลูกศิษย์ ท่าน ผศ.ดร.สมบัติ ตาปัญญา เรื่อง วินัยเชิงบวก อยู่หลายวัน คิดถึงสมาชิกน้องพี่ผู้มีใจเดียวกัน (รัก G2K เหมือนกัน) อย่างสุดหัวใจ อยากเข้าเน็ต แต่โรงแรมที่พักอยู่ถึงคลองตัน เน็ตคาเฟ่ไม่มีเลย จะหนีอบรมไปเล่นที่อื่นก็ไปไม่ได้ ก็คนเข้าอบรมเพียง ๓๐ คน  หนีไปเขาก็รู้ พอเย็นเลิกอบรมไปติดต่อเน็ตโรงแรม บ๋อยบอกว่าชั่วโมงละ ๑๐๐ บาท ผมก็ตัดสินใจจะซื้อ แต่ อ้าว...พนักงานอ๊อฟฟิตกลับบ้านแล้ว เลยอด วันนี้กลับมาถึงบ้านรีบเข้าเน็ตก่อนเลย สะใจ

     แต่....ตอนนี้คิดไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร.....ขอคั่นรายการด้วย บันทึกที่ได้จากการอบรมแล้วกันนะครับ บันทึกนี้ชื่อว่า "วันนี้ที่รอคอยสำหรับคำว่า..." ดังนี้ครับ

สวัสดีค่ะ

         สิ่งที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้ อาจจะบอกว่า  น่าจะเป็นวินัยเชิงลบ  ที่ทำให้เกิดรอยจารึกและจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ 

         ประมาณปี  พ.ศ. 2514  ขณะที่ดิฉันมารับราชการที่โรงเรียน  ช่วงจบปริญญาตรีใหม่ๆ  เป็นครูสาวแสนสวย  ที่มีอุดมการณ์และวิญญาณของความเป็นครูเต็มร้อย  หัวใจมุ่งแต่คุณภาพการสอน  จึงทำให้ค่อนข้างดุ  เอาจริงเอาจัง  สอนชั้น  ม.ศ.2  ในรายวิชาภาษาไทย  ขณะสอน  เมื่อต้องการเร่งบทเรียน  จึงมีคำถามนำและจะเลือกนักเรียนที่เรียนเก่งเป็นผู้ตอบ เพื่อให้เนื้อหาไปไวขึ้น  เพียงพอต่อเวลา  ดิฉันสังเกตเห็นนักเรียนชายคนหนึ่ง  พยายามจะร่วมกิจกรรมในห้อง  แต่ดิฉันไม่สนใจเขา  เพราะคิดว่าเขาไม่เก่ง เด็กคนนั้นสมมุติว่าชื่อ "วิทยา"  ก็จะโวยวายและมีพฤติกรรมที่ไม่ดี  เช่น  ไม่สนใจเรียน  ผลก็คือ  โดนขว้างด้วยแปรงลบกระดาน  หากหลับในห้องเรียน  ผลก็คือโดนทุบ  เมื่อโดนทุบก็พูดว่า "ไม่เจ็บ"  ผลก็คือ  ทุบอีกจนร้องไห้  เขาโวยวายทำไมไม่ถามผมมั่ง  เมื่อดิฉันถามว่า "มเหสีของพระรามคือใคร"  แล้วให้วิทยาตอบ  เขาก็จะยิ้มแล้วตอบว่า "นางบุษบา"  ผลก็คือ  โดนหนังสือเรียนทุ่มบนหัว  ก็ร้องไห้ตามเคย  บางทีพูดลอย ๆ ในชั้นเรียนว่า  กูไม่กลัวหรอก  รักซะอย่าง  คงคาดเดาผลได้  คือโดนทำโทษ  เหตุการณ์นี้เกิดเป็นประจำทุกชั่วโมง  เขาเป็นคนที่ดิฉันเกลียดที่สุด

           ดิฉันมีอาการแพ้ท้อง  คงหงุดหงิดง่าย  และไม่มีแรง  วันหนึ่งไม่อยากสอน  จึงสั่งให้นักเรียนห้องนี้เขียนเรียงความ  เรื่องอะไรก็ได้  และเมื่อนักเรียนส่ง  ดิฉันก็ไม่อ่าน  แต่เช็คชื่อให้คะแนนว่าส่งงาน เรียงความชุดนี้ไม่เคยอ่านเลย  จนเวลาล่วงไป  3 ปี  มาเก็บของทิ้ง  เห็นเอกสารผลงานนักเรียนจึงมานั่งอ่าน  วิทยาเขียนเรียงความเรื่อง  ทำไมผมจึงเป็นเช่นนี้  เขาเขียนว่า

           ..ผมเกิดมาพ่อแม่เป็นชาวนา  มีลูกหลายคน  พ่อก็รักแต่พี่  แม่ก็รักแต่น้อง  ไม่มีใครรักผม  ผมเรียนหนังสือตอนนี้ผมรักครูอยู่คนหนึ่ง  สวย  เสียงเพราะ  สอนดี  อยากให้ครูรู้ ไม่ต้องรักก็ได้  แต่ครูไม่สนใจผม  เพราะผมเรียนไม่เก่ง  ทำดีครูก็ไม่สนใจ  จึงคิดว่าทำไม่ดีเผื่อครูจำผมได้..

           ขณะอ่านเรียงความ  น้ำตาดิฉันไหลหยด  โดยไม่ได้ตั้งใจ  จะหาตัววิทยาที่ไหนได้  เขาจบไปแล้ว  และไม่รู่ว่าไปเรียนอะไร

            25  ปี ผ่านมา  ดิฉันได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามโครงการรุ่งอรุณ ที่โรงเรียนประถมศึกษา  ชนบทแห่งหนึ่ง  ดิฉันอ่านป้ายนิเทศผลงานนักเรียน  พบชื่อ "ครูวิทยา..."   ที่นั่น  รู้สึกขนลุก  ใจสั่นระรัว 

           โอ้วิทยาของครู  ถามหานักเรียนก็บอกว่า  ครูวิทยาอยู่ในแปลงผักบุ้ง  ครูวิทยาของหนูดีและเก่ง  หนูรักครูวิทยา  ดิฉันให้นักเรียนไปตามวิทยา

            ศิษย์ที่ค้นหามาถึง 25 ปี  เดินขึ้นมา  ถึงแม้จะมีอายุมากขึ้น  แต่กิริยาท่าทาง  ดิฉันจำได้เสมอ  น้ำตาเอ่อเต็มสองตาดิฉัน  คำพูดแรกก็คือ 

           "วิทยาจำครูได้หรือไม่" เขานิ่ง เงียบ  แววตาเหมือนพยายามทบทวน  ดิฉันพูดต่อ

           "ครูสุนันท์  ไงเล่า  ครูอ่านเรียงความเรื่อง ทำไมผมจึงเป็นเช่นนี้  ของเธอแล้ว" 

           วิทยามีแววระลึกได้  น้ำตาวิทยาเริ่มคลอเต็มตาเช่นกัน  ดิฉันเดินไปกอดวิทยา  ร้องไห้ออกมาจริงๆ พูดว่า

           "วิทยาครูตามหาเธอ  25  ปี  ครูดีใจมาก  วันนี้ครูอยากจะบอกกับเธอว่า  ครูขอโทษ..."

          (ครูวิทยาเรียนทางเกษตร  บรรจุเป็นครูประถมที่ชนบท  ถ้าไม่มีโครงการรุ่งอรุณ  ดิฉันคงเป็นบาปที่ไม่มีวันได้สารภาพจนวันตาย)

          จบบันทึกครับ

คำสำคัญ (Tags): #ครูขอโทษ
หมายเลขบันทึก: 251122เขียนเมื่อ 26 มีนาคม 2009 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 00:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เมื่อวานจะโพสแล้วค่ะอาจารย์ เนตล่ม เลยอดค่ะ

คุณครูทำผิดกะเด็กนักเรียนอาจมาจาก กำลังท้องฮอร์โมนเปลี่ยนค่ะ และคงรีบๆสอนไม่สนใจนักเรียนที่ช้าๆค่ะ

แต่ ณ เวลานี้คิดกลับกันสิค่ะ เด็กน้อยคนนั้นเรียนครูเพราะใคร เนื่องจากจิตใจเด็กน้อยคนนนั้นดีค่ะ คิดดี มั่นคงค่ะเข้าใจครูทั้งๆที่ครูไม่เข้าใจเค้าเลย

บางอย่างบางเวลาเราอาจทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัวค่ะ 

อิอิอิดิฉันก็อาจเคยทำค่ะ  แต่ยังไม่รู้กับใครค่ะอาจารย์

เรื่องนี้สอนได้ดีนะคะนี่

ถึงว่าอาจารย์หายไปนานๆๆ ค่ะ

ดีใจอาจารย์กลับมาจะๆได้อ่านเรื่องใหม่ๆต่อค่ะ

เป็นเรื่องดีที่น่าประทับใจ และ เข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

รออ่านเรื่องใหม่ๆ อยู่ด้วยเหมือนกัน ~_~

บันทึกของครูสุนันท์.....ทำเอาครูคนอื่นตาแดงๆ มาแล้วหลายคน ไม่เว้นแม้แต่ครูชาย...

เห็นด้วยครับว่า...บางอย่างบางเวลาเราอาจทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้ตัว.....

แต่...สำหรับผม คิดว่าคงมีน้อยมากๆ หากเป็นสาวสวย...คงทำร้ายคนอื่นมากมาย...

(หนุ่มหลงรัก....อกหักช้ำทรวงไงครับ...ฮิฮิ ฮ่าฮ่า)

สวัสดีครับ คุณ สายลมและแสงแดด (ผมเข้าใจว่าอย่างนี้....ฮิฮิ)

คงต้องขออภัยที่ให้รอนานนะครับ เพราะช่วงนี้งานเข้า ขอบคุณที่แวะมาอ่านครับ

ปิดเทอมแล้ว คงมีเวลาเขียนท่องอีสาน ให้คนไกลบ้านได้อ่านนะครับ ขอบคุณที่แวะมาเยีี่ยม

มาชม

ยังจำไม่เคยลืมเลือนเลยนะครับ...

เพื่ออนาคตที่สดใสนะครับผม

สวัสดี umi

สิ่งทีดีงาม เราควรจำไว้ตลอดไป

ควรลืมสิ่งที่ทำให้เราเสียใจ หากเราจำไว้ ก็เหมือนเราทิ่มแทงตัวเองอยู่ตลอดเวลาครับ

  • ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเพราะงานยุ่งค่ะ
  • สบายดีนะคะ
  • นำภาพหิ่งห้อย..มาฝากค่ะ

 แวะมาฟังเพลง  ที่นี่ นะคะ

★•._.•★ ด้วยรอยยิ้ม & เสียงเพลง ★•._.•★

หิ่งห้อยสวยมาก ขอบคุณครับ

ผมก็งานยุ่งมาก นี่ก็เพิ่งกลับจากเมืองหลวง

จะไปฟังแน่นอนครับ

ร้อนไหมค่ะ

ทานน้ำก่อนนะคะ

โอ....ชื่นใจ....วันนี้ร้อนมาก ได้ดื่มน้ำส้มเย็นๆ ชื่นใจจริงๆ ครับ

ขอบคุณมาก

อิอิ  สัคมG2Kทำให้คนในนี้อิ่มทิพย์กันเป็น แถววว.

ครูต้อยก็อิ่มเหมือนกันหรือครับ ดีจริงๆ

หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ท่านบอกว่า

มิตรภาพเสริมส่งให้      เบิกบาน
ยามเมื่อเราสราญ         นั่นแล้
อีกช่วยปลดรำคาญ     ได้กึ่ง หนึ่งนา
ยามเมื่อทุกข์เทวษแท้   ท่วมท้นหฤทัย

อิ่มทิพย์เพราะมีมิตรดีครับ

 

โครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน ก็ช่วยแก้ปัญหา ให้ครูได้มีโอกาส  รู้จักนักเรียนที่แท้จริงได้  ว่าเขาไม่สนใจเพราะอะไร  ก็เพราะครูสอนเอาแต่ใจตนเอง ไม่ดูนักเรียน ไม่ศิลปะการสอน

และคุณครูก็คิดเอาเอง ว่าเด็กไม่เก่ง ก็คือไม่ดีขี้เกียจเรียน ก็เลยไมสนใจ

และเหตุที่เขาถูกครูทำโทษบ่อยๆ  เด็กคงรู้ซึ้ง  ว่าครูตีคือครูรักและหวังดี เลยเป็นผลดี เป็นแรงผลักดัน ให้เขาเข้มแข็งข้น และได้ดี

แต่คนที่มารู้ทีหลังนี่ซิ  บาปกรรม  ฉะนั้น อย่าทำกรรมทางใจกันเลย

รักนักเรียนให้เท่ากัน  อย่าลำ(ไม่ตรง)เอียง เพราะเมื่อเด็กโตขึ้นมาเขาคิดได้  และจำได้  มันน่าอาย  เขาก็จะว่า ครูคนนี้ตีเก่งๆ ตีไม่มีเหตุผล

ตีเพื่อระบายอารมณ์ หงุดหงิด  ซึ่งไม่ควรทำ ลูกเขามีพ่อมีแม่  บอก

 

อุปสรรค  แค่ไหน  ก็ไม่หวั่น

คืนและวัน จะโหดร้าย  ซักเพียงไหน

ร้อยและพัน  ปัญหา  จะฝ่าไป

เพียงมีเธอ  ยิ้มให้ที่ปลายทาง

 

จะรอที่ปลายทางนะคะ  สู้  สู้  คะ

 

 เห็นด้วยครับ ว่า การที่ครูตีเด็กอย่างไม่มีเหตุผล ตีเพื่อระบายอารมณ์ หงุดหงิด ไม่ควรทำอย่างยิ่ง 

และจะให้ดีที่สุด ไม่ต้องตีครับ 

(หากสงสัย..ให้ไปอ่านที่รักวัวให้ผูก.... ฮิฮิ)

ปลายทางคงอยู่ไม่ไกลนะครับ (แก่แล้ว กลัวไปไม่ถึง อ๊ะ ฮิฮิ ฮ่าฮ่า)

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท