เผ็ด เผ็ด เผ็ด


เผ็ด(อะไร) เผ็ด(มีอะไรดี) เผ็ด(ทำไงดี)

เผ็ด(อะไร) เผ็ด(มีอะไรดี) เผ็ด(ทำไงดี)

เผ็ด(อะไร)

            เมื่อพูดถึงคำว่าเผ็ดคุณนึกถึงอะไร…!!... แน่นอนมันต้องเป็น พริกซึ่งผู้ค้นพบพริกก็คือ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส แล้วรู้หรือเปล่าครับว่าทำไมพริกถึงเผ็ด คำตอบก็คือที่พริกเผ็ดได้นั้น เพราะในพริกมีสารชนิดหนึ่ง ชื่อว่า แคปไซซินอยด์ ซึ่งเป็นสารที่มีรสเผ็ด สารแคปไซซินอยด์นี้เป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ประกอบไปด้วย สารแคปไซซิน สารไดไฮโดรแคปไซซิน สารนอไดไฮโดรแคปไซซิน สารฮอมอไดไฮโดรแคปไซซิน และสารฮอมอแคปไซซิน สารแต่ละชนิดนั้นก็มีค่าความเผ็ดร้อน (SovilleHeat Unit : SHU)ต่างๆกัน

คุณคิดว่าส่วนใดของพริกที่ทำให้เผ็ด ผิวของพริก เมล็ด หรือแกนกลาง คำตอบก็คือ ความเผ็ดร้อนของพริกอยู่ที่แกนกลางที่มีเม็ดเกาะอยู่ มีผลทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเซลล์รับรส ที่อยู่ในปาก จมูก และลำคอ

ทราบไหมว่าพริกอะไรเผ็ดที่สุด ...นั่นแน่ะ ไม่ใช่พริกขี้หนูนะ แต่มันคือ พริก red savina habanero” เคยเห็นหรือเปล่า เรามีภาพมาให้ดู

แต่เร็วๆนี้ได้มีข่าวออกมาว่า Red Savina chili  ถูกแย่งอันดับความเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกแล้วโดย the Dorset Naga pepper  แต่ในกินเนสบุคยังคงระบุชื่อ Red Savina ในฐานะแชมป์ความเผ็ดอยู่

 (ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.arunsawat.com)

 

เผ็ด(มีอะไรดี)

ต่อไปนี้จะขอกล่าวถึงสรรพคุณของพริกกันสักหน่อย

พริก...ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าในพริกมีสารแคปไซซิน ซึ่งสารแคปไซซินที่อยู่ในพริกนี้มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือลดปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ นอกจากนี้สารแคปไซซินยังใช้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลายๆ ชนิด นอกจากนั้นในพริกยังมีสารเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอด

พริก...ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด ในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน

พริก...ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค

พริก...ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง สมัยก่อนนักวิทยาศาสตร์ชาวต่างชาติบอกว่า พริกเป็นพืชพิษรับประทานแล้วก่อให้เกิดมะเร็ง แต่ปัจจุบันบอกว่า รับประทานพริกแล้วกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น ช่วยไม่ให้เป็นมะเร็ง เนื่องจากพริกเป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้ คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลายเซลล์มะเร็ง สำหรับพริกบางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือ สามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน

พริก...ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น ซึ่งชาวบ้านรู้จักใช้ พริกผสมในยาทาถูนวดแก้ปวดเมื่อย สืบทอดกันมานานแล้ว นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้

พริก...ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี สารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร เอนดอร์ฟิน มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น
(ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
http://www.kroobannok.com )

 

 เผ็ด(ทำไงดี)

คุณคิดว่าเมื่อเราเผ็ดเราควรกินอะไรแก้เผ็ดดี ระหว่าง 1.น้ำเย็นๆสักแก้ว 2.น้ำอัดลมสักแก้ว 3.นมเย็นๆสักกล่อง หรือ4.ขนมปังสักแผ่น ที่ดีที่สุดคุณควรเลือกขนมปังเพราะขนมปังทำงานเหมือนกับฟองน้ำที่ช่วยซึมซับ Capsaicin ที่ติดอยู่ตามลิ้นออกไป ทำให้หายเผ็ด ส่วนน้ำและน้ำอัดลมนั้นไม่ช่วยให้หายเผ็ด เพราะ capsaicin เป็นสารในพริกที่ทำให้เรารู้สึกเผ็ด ละลายได้ในไขมันและน้ำมันไม่ละลายในน้ำ เมื่อกินน้ำเข้าไป จากที่อาจจะเผ็ดติดลิ้นแค่จุดเดียว กลายเป็นเผ็ดไปทั่วเพราะน้ำพาสารตัวนี้กระจายไปทั่วลิ้น ส่วนนมนั้นมีส่วนช่วยเพียงเล็กน้อย เพราะว่าในนมมีไขมันซึ่งช่วยละลาย capsaicin ออกไปจากลิ้นบ้าง

ดังนั้น ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรรับประทานขนมปัง หรืออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า น้ำละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดี...นั่นเอง

 

คำสำคัญ (Tags): #พริก#เผ็ดๆๆ
หมายเลขบันทึก: 249801เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2009 18:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 11:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

อืม ..มิน่าล่ะ

ตอนเผ็ดยิ่งดื่มน้ำ ก็ยิ่งเผ็ด

เพราะงี้นี่เอง

วิธีที่ไม่ต้องกินอะไรเมื่อเผ็ด

เขาว่าถ้าเผ็ด ให้คายน้ำลายทิ้งให้มากที่สุดจะช่วยได้

เพราะว่าเมื่อเราเผ็ดมากๆ น้ำลายจะมีเยอะขึ้นและเหนียว

แต่ต้องใช้เวลาทนเผ็ดสักหน่อย

แต่การกินอะไรเผ็ดๆช่วยให้เราสดชื่นได้ดีนะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ

ชอบวิธีแก้เผ็ดอ่ะ

กินขนมปัง

เอาไปแก้เผ็ดเพื่อนได้ปะ

อิอิ

*__*

เราสงสัยมานานแล้วว่าพริกเผ็ดที่ส่วนใด

เคยลองกินทีละส่วนแต่รู้สึกว่ามันเผ็ดเหมือนกัน

เลยแยกไม่ออก

เมื่อก่อนเราคิดว่าเผ็ดแล้วกินน้ำตาลจะหาย

พึ่งรู้ว่ากินขนมปังหายเผ็ดนะ

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆๆ

กินนมจืดก็หายเผ็ดนะคะ

แล้วรู้มาอีกว่า กินพริกที่ว่าเผ็ดๆเนี่ยช่วยคลายเครียดได้ด้วยนะ ถ้าอยากรู้ไปดูเรื่อง อาหารอารมณ์นะจ๊ะ

ขอบคุณทุกท่านมาก

ตอบ คห 3

ลองเอาขนมปังฟาดหน้าเพื่อนดูสิเผื่อจะแก้ได้ 555

ชอบวิธีแก้เผ็นนะ เพราะว่าเราไม่กินเผ็ด

ขอบคุนนะจ๊ะ...

ชอบวิธิแก้เผ็ดอะค่ะ

แล้วจะนำไปใช้นะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เราเนี่ยกินเผ็ดได้รางวัลตัวเเม่เลย

เเต่ว่าไม่เคยใช้วิธีเเก้เผ็ดเลย ปล่อยให้หายไปเองน้ำหูน้ำตานองหน้าไปเลยทีเดียว

เเต่เราเคยได้ยินมาว่าถ้าเผ็ดเเล้วให้อมเกลือนะ เเล้วจะช่วยให้ดีขึ้นเเต่ไม่รู้ว่าช่วยได้ยังไง

ก็ลองเอาไปใช้ดูเเล้วกัน ใครใช้เล้วได้ผลบอกกกต่อด้วยนา

มีประโยชน์ยอะจริงๆๆ พริกเนี้ย...

แต่พ่อบอกว่าให้อมเกลือ ลองดูแล้วก็หายนะ รู้ว่ากินแล้วเผ็ดก็ยังกินพริกกันอีก ถ้าไม่กินซิ กินข้าวไม่ได้ แต่ถ้ากินเผ็ดมากๆ ก็จะพาปวดท้อง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท