๖๔.ข้อห้ามในการทานอาหาร


ข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร

       



เขาว่ากันว่า  มีข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร  ซึ่งครูแป๋มว่าน่าสนใจใคร่หาคำตอบประกอบเหตุผล (ว่าไปโน่น...) ไม่ทราบว่าทุกท่านจะเห็นเป็นประการใด คำถามทุกข้อขึ้นต้นด้วยคำว่า  "ทำไม" ตัวอย่างข้อแรกค่ะ


1  ทำไมห้ามทานอิ่มเกินไป


2   .........ห้ามทานอย่างรีบร้อน


3   .........ห้ามทำหลายอย่างขณะทานข้าว


4   .........ห้ามกลืนโดยไม่เคี้ยว


5   ..........ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด


6   .........ห้ามเลือกกิน


7  ..........ห้ามดื่มน้ำก่อนทานอาหาร


8  ..........ห้ามอดอาหารมื้อเช้า


9  ..........ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร



ตื่นเต้นจังเลย..ใครน๊าจะตอบถูกทั้งหมด ลุ้นค่ะลุ้น..อิอิ

 

หมายเลขบันทึก: 244268เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2009 01:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:21 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ตอบ

ข้อ ๑ กระเพาะอาหารทำงานหนัก อาจเป็นโรคไหลย้อน

ข้อ ๒ การย่อยที่ปากน้อย ก็จะไปหนักทางกระเพาะ ลำไส้

ข้อ ๓ น้ำย่อย ทำหน้าที่ไม่ดี จริงๆแล้วเวลากิน ไม่ใช่เวลาทำงาน ไม่ใช่เวลาเล่นเกมอยู่แล้ว

ข้อ ๔ คล้ายข้อ ๒

ข้อ ๕ ก็ลวกปาก ตับ ไต ไส้ พุง น่ะซีครับ

ข้อ ๖ จะได้อาหารไม่ครบ ๕ หมู่

ข้อ ๗ น้ำย่อย ถูกน้ำบุกเสียก่อน

ข้อ ๘ เราต้องใช้พลังงานมาก ช่วงเช้า ถึงกลางวัน

ข้อ ๙ เด็กจะเครียด รำคาญผู้ใหญ่ด้วย เวลากินเป็นเวลาแสวงหาความสุขอย่างหนึ่ง ผู้ใหญ่กลับเอาความทุกข์มาใส่ เอาไว้อบรมตอนอื่นดีกว่า

  • เห็นด้วยกับคำตอบของ อาจารย์พิสูจน์ ครับ (ตอบอย่างนี้ได้รางวัลไหมครับ คุณครู)
  • อิ่มเกินไป ---จุกแน่น ไม่สบายตัว และอ้วนง่าย
    รีบร้อน ---ติดคอ
    ทำหลายอย่าง ---พลาดทำจานหล่น/ข้าวหกเรี่ยราด
    กลืนโดยไม่เคี้ยว --ติดคอ
    ซดน้ำแกงร้อนจัด --เซลล์บุช่องปากตาย
    เลือกกิน  ---เสียมรรยาท
    ดื่มน้ำก่อนทานอาหาร ---นิดหน่อยไม่เป็นไร เต็มแก้วเจือจางน้ำย่อย
    ห้ามอดอาหารมื้อเช้า  --ร่างกายขาดอาหารเป็นระยะเวลานานเกิน (ทั้งคืน) ฯลฯ
  • ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร --เด็กไม่มีสมาธิ จดจำได้ไม่ดี
  • เห็นด้วยกับทั้งอาจารย์พิสูจน์และอาจารย์พันคำค่ะ (ได้รางวัลด้วยไหมคะ)
  • 9  ..........ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร
    ข้อ 9 ข้อเดียวที่ขอเสริมว่า เด็กจะทานไม่อร่อย ทานได้น้อยลง ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ ที่ตอบแบบนี้ เพราะน่าจะเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับประทานอาหารเป็นหลักค่ะ
  • ไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไรค่ะ มาเชียร์

ถ้าจะขอใจเหม่อลอยถึงใครบางคนระหว่างทานอาหารจะได้ไหมครับ...อิอิ

  • ขออภัยครับ เขียนคำไทย ผิดอีกครับ มรรยาท ขอแก้ไขเป็นคำที่ถูกคือ มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท มารยาท
  • ทำโทษตัวเองแล้ว คัดมา 10 คำ หวังว่าไม่ถูกหักรางวัลนะครับ
  • ข้อ 9 ในเชิงการรับประทาน น่าจะเป็นคำตอบที่ อ.ศิลา ให้ไว้มากกว่า คือ ทำให้อารมณ์ ไม่จอย "ไม่มีอารมณ์เลย กะว่าจะทานอาหารให้อร่อยสักหน่อย ไม่กงไม่กินแล้ว ไปเที่ยวบ้านเพื่อนดีกว่า"....ว่าแล้วก็ลุกพรึบไป(เลย)....อ้าว..เดี๋ยวๆ กลับมานี่ก่อน.........ทำนองนั้น :)

อิอิ...น่ารักจังสำหรับคำตอบจากผู้มีอุปการคุณทุกท่านค่ะ

- อาจารย์พิสูจน์ ท่านมีภูมิรู้และชั้นเชิงการตอบไม่ธรรมดาเลยค่ะ เอ่อ..โรคไหลย้อนจากข้อ 1 เป็นยังไงคะ เป็นแบบแป๋มคิดหรือเปล่าน้อ... อีกข้อค่ะ ข้อ 7แป๋มนั่งอมยิ้มนานมาก นึกถึงกองทัพมดแดงถูกกองทัพมดดำบุกรังนอนสิคะ..จินตนาการไปโน่น.. แต่ขออุบคะแนนไว้ก่อนนะคะ ไม่ได้โกงแต่ยังไม่บอกค่ะ อิอิ...

- คุณพันคำ ตอนเด็กๆแป๋มเคยใช้การตอบแบบนี้ค่ะกับท่านผู้อาวุโส (มาก)เจอมะเหงก 1 ที นี่แน่ะ!! คำตอบของคุณพันคำก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้อาจารย์พิสูจน์เลยค่ะ ชื่นชมที่เป็นแบบอย่างที่ดี (ให้กับแป๋ม)ในการแก้ไขคำที่เขียนผิด ขอบคุณค่ะ

- พี่ศิลาคนสวย ใช้วิธีเดียวกับที่แป๋มเคยใช้เลยนะคะ ดูเป็น original ดีค่ะ แม้จะเสริมมา 1 ข้อ แต่ก็มากไปด้วยเหตุและผล ขอบคุณค่ะ

- คุณย่ามแดง อันนี้อยู่นอกเหนือกฏกติกา ดังนั้นอนุญาตค่ะ แถมยินดีให้เหม่อได้ตลอดเวลาได้เลยนะคะ.

 

 

 

5. ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
    ข้อนี้แน่นอน ของร้อนจะลวกปากและลิ้นตลอดจนถึงหลอดอาหาร ทำให้บวมพอง เกิดการอักเสบของปากลิ้นและหลอดอาหารทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ บางครั้งทำให้เกิดแผลถ้าไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว คนที่ซดน้ำแกงร้อนๆ มักมีอาหารคอแห้งคอเจ็บ แกแห้งปากเจ็บ ลิ้นสากเจ็บลิ้น มีคนไข้มาหาบางรายต้องซักประวัติให้ดี บอกว่าเป็นบ่อยมาก ซักประวัติปรากฎว่าเป็นพ่อครัวต้องชิมอาหารร้อนๆวันละหลายๆอย่าง
 
มีรายงานว่าคนจีนที่นิยมจิบน้ำชาร้อนๆหรือชอบทานข้าวต้มร้อนๆมีโอกาสเป็นโรคเนื้อร้ายมากกว่าชนชาติที่ไม่จิบน้ำชาร้อนๆหรือไม่ทานข้าวต้มร้อนๆ
 
6.  การห้ามเลือกกิน เป็นการสอนให้เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย อาหารไม่ถูกจำกัดหมู่หนึ่งหมู่ใด ทำให้ร่างกายได้รับอาหารครบ 5 หมู่ การเลือกกินมีแต่จะเพิ่มโรคให้ร่างกาย เช่นกินแต่ขาหมู ของมันๆ ก็ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดไขมันอุดตัน ความดันโหตสูงเป็นต้น หรือบางคนเลือกกินโดยไม่กินผักเลย ทำให้ขาดสารอาหาร ฯลฯ
 
7.  ห้ามดื่มน้ำก่อนอาหาร

ข้อนี้ผมห้ามคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องนี้เสมอๆ เพราะ    

  • การดื่มน้ำก่อนอาหาร น้ำจะไปแทนที่อาหารทำให้ทานอาหารได้น้อยลง ระบบประสาทจะสั่งการไปยังสมองทำให้อยากอาหารน้อยลง น้ำที่ทานมากก่อนอาหารจะเจือจางน้ำย่อย ทำให้กระเพาะทำงานหนัก อาหารไม่ย่อย และถ้าทุกมื้อทำเช่นนี้ก็จะเป็นโรคทางเดินอาหารท้องอืดเฟ้อแน่นท้อง

8. ห้ามอดอาหารมื้อเช้า

เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารมากที่สุด อาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานส่งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย

ทำให้เรากระปี้กะเปล่า สดชื่น สมองต้องการอาหารมากในช่วงดังกล่าว ดังนั้นไม่ควรอดอาหาร เพราะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน

9.  ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร

การทำกิจกรรมขณะทานอาหารเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี การไปสอนคนอื่นในขณะที่เรากำลังทำแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เด็กจะขาดความเชื่อถือ เพราะผู้สอนกลับเป็นผู้กระทำที่ไม่ดีเสียเอง

และถ้าเด็กร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเด็กจะรับประทานอาหารไม่เต็มที่ เกิดการต่อต้านออกมาในพฤติกรรมหลายๆอย่าง รวมทั้งไม่ยอมรับประทานอาหารอีกด้วย

กว่าจะตอบเสร็จเหนื่อยมากครับคุณครู :)
 
 
 
 
 
 

P ครูแป๋ม
อีเมลติดต่อ
 

 

อ่าน: 49

ข้อห้ามในการทานอาหาร

ข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร

        เขาว่ากันว่า  มีข้อห้าม 9 ประการในการรับประทานอาหาร  ซึ่งครูแป๋มว่าน่าสนใจใคร่หาคำตอบประกอบเหตุผล (ว่าไปโน่น...) ไม่ทราบว่าทุกท่านจะเห็นเป็นประการใด  นึกว่าเป็นการฝึกสมองประลองปัญญารอบดึกกันนะคะ ...จะตอบทีละข้อ  หรือทุกข้อก็ได้คะ  รางวัลค่อยว่ากันอีกทีนะคะ....อิอิ

คำถามทุกข้อขึ้นต้นด้วยคำว่า  "ทำไม" ตัวอย่างข้อแรกค่ะ

1  ทำไมห้ามทานอิ่มเกินไป
2   .........ห้ามทานอย่างรีบร้อน
3   .........ห้ามทำหลายอย่างขณะทานข้าว
4   .........ห้ามกลืนโดยไม่เคี้ยว
5   ..........ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
6   .........ห้ามเลือกกิน
7  ..........ห้ามดื่มน้ำก่อนทานอาหาร
8  ..........ห้ามอดอาหารมื้อเช้า
9  ..........ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร



ตื่นเต้นจังเลย..ใครน๊าจะตอบถูกทั้งหมด ลุ้นค่ะลุ้น..อิอิ
เอ่อ..บางท่านไม่ตอบไม่เป็นไร แวะมาเยี่ยมก็ดีใจแล้วค่ะ

 

 

ออาสาตอบปัญหาในการชิงรางวัลนะครับ

ความจริงปัญหาที่เป็นคำถามนี้มีหลายข้อที่เกี่ยวกับวิชาชีพของผมครับ

คนไข้ที่มาปรึกษาด้วยอาการต่างๆ หลายครั้งหลายหน ผมให้ข้อห้ามถึง 7 ข้อกับผู้ป่วย ยกเว้นข้อ 6 และ ข้อ 9

 

แต่นี่เป็นคำถามที่เป็นข้อห้ามโดยทั่วๆไป ผมขออนุโลมตอบตามความรู้นะครับ

1. ห้ามทานอิ่มเกินไป

 

  • ท้องอิ่มเกินไปทำให้ย่อยยากครับและย่อยไม่หมด คือทำให้ท้องอืดแน่นเฟ้อเรอเปรี้ยวครับ เกิดแก๊ส อาหารจะตกค้างในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาการนี้จะทำให้เป็นโรคไหลย้อน (GERD) = (Gastroesophageal reflux disease ) ก็ได้ไม่เป็นก็ได้
  • การทานอาหารมากเกินกระเพาะทำงานหนักเลือดจะมาหล่อเลี้ยงที่กระเพาะมากขึ้น ทำให้เลือดไปที่สมองน้อยลง ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน หาวนอน ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
  • การทานอาหารอิ่มเกินไปเป็นประจำทำให้กระเพาะครากคือยืดขยายออกแล้วไม่คืนตัว

 

2. ห้ามทานอาหารอย่างรีบร้อน

  • เพราะการทานอาหารรีบร้อนทำให้อาหารไม่ได้รับการบดเคี้ยว ทำให้ย่อยยาก กระเพาะทำงานหนัก กระเพาะและลำไส้มีการเคลื่อนไหวตามปกติเพื่อให้อาหารผ่านลำไส้ไปในเวลาของมัน อาหารที่ทานข้าวไปยิ่งเคี้ยวละเอียดมากจะมีเนื้อที่ของพื้นผิวอาหารมากขึ้น (surface area) อาหารที่หยาบก้อนโตจะมีเนื้อที่พื้นผิวน้อยสัมผัสกับน้ำย่อยได้น้อย เมื่ออาหารที่บดเคี้ยวละเอียดมีพื้นที่พื้นผิวก็สัมผัสกับน้ำย่อยได้มากจึงย่อยง่ายครับ
  • ดังนั้นคนที่ทานอาหารรีบร้อนมักจะท้องอืดเฟ้อเรอเปรี้ยว
  • การทานอาหารรีบร้อนก็ทำให้สำลักติดคอเป็นอันตรายได้

3. ห้ามทำหลายอย่างขณะที่ทานข้าว

  • การพูดคุยกันขณะทานอาหาร โทรศัพท์ขณะทานอาหารหรือทำงานอื่นขณะทานอาหาร มีโอกาสสำลักอาหาร อาหารตกลงหลอดลมตายได้ ขณะเคี้ยวอาหารอาจกัดกระพุ้งแก้มหรือริมฝีปากตนเองของตนเอง
  • การทำหลายอย่างขณะทานอาหารเป็นการไม่สุภาพ เป็นการสร้างบุคคลิกที่ไม่พึงประสงค์

4. ห้ามกลืนอาหารโดยไม่เคี้ยว

เหตุผลคล้ายข้อ 2 แต่สาหัสกว่า

  • อาหารไม่ย่อยจุกเสียดแน่นท้อง ปวดทั้ง
  • อาหารอาจอุดตันลำไส้ได้ (Intestinal obstruction)
  • ทำให้เป็นโรคกระเพาะและลำไส้

5. ห้ามซดน้ำแกงร้อนจัด
    ข้อนี้แน่นอน ของร้อนจะลวกปากและลิ้นตลอดจนถึงหลอดอาหาร ทำให้บวมพอง เกิดการอักเสบของปากลิ้นและหลอดอาหารทำให้รับประทานอาหารไม่ได้ บางครั้งทำให้เกิดแผลถ้าไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว คนที่ซดน้ำแกงร้อนๆ มักมีอาหารคอแห้งคอเจ็บ แกแห้งปากเจ็บ ลิ้นสากเจ็บลิ้น มีคนไข้มาหาบางรายต้องซักประวัติให้ดี บอกว่าเป็นบ่อยมาก ซักประวัติปรากฎว่าเป็นพ่อครัวต้องชิมอาหารร้อนๆวันละหลายๆอย่าง
 
มีรายงานว่าคนจีนที่นิยมจิบน้ำชาร้อนๆหรือชอบทานข้าวต้มร้อนๆมีโอกาสเป็นโรคเนื้อร้ายมากกว่าชนชาติที่ไม่จิบน้ำชาร้อนๆหรือไม่ทานข้าวต้มร้อนๆ
 
6.  การห้ามเลือกกิน เป็นการสอนให้เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย อาหารไม่ถูกจำกัดหมู่หนึ่งหมู่ใด ทำให้ร่างกายได้รับอาหารครบ 5 หมู่ การเลือกกินมีแต่จะเพิ่มโรคให้ร่างกาย เช่นกินแต่ขาหมู ของมันๆ ก็ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดไขมันอุดตัน ความดันโหตสูงเป็นต้น หรือบางคนเลือกกินโดยไม่กินผักเลย ทำให้ขาดสารอาหาร ฯลฯ
 
7.  ห้ามดื่มน้ำก่อนอาหาร
ข้อนี้ผมห้ามคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องนี้เสมอๆ เพราะ    

การดื่มน้ำก่อนอาหาร น้ำจะไปแทนที่อาหารทำให้ทานอาหารได้น้อยลง ระบบประสาทจะสั่งการไปยังสมองทำให้อยากอาหารน้อยลง น้ำที่ทานมากก่อนอาหารจะเจือจางน้ำย่อย ทำให้กระเพาะทำงานหนัก อาหารไม่ย่อย และถ้าทุกมื้อทำเช่นนี้ก็จะเป็นโรคทางเดินอาหารท้องอืดเฟ้อแน่นท้อง
8. ห้ามอดอาหารมื้อเช้า

เพราะตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารมากที่สุด อาหารจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานส่งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย

ทำให้เรากระปี้กะเปล่า สดชื่น สมองต้องการอาหารมากในช่วงดังกล่าว ดังนั้นไม่ควรอดอาหาร เพราะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและพลังงาน

9.  ห้ามอบรมเด็กเวลาทานอาหาร

การทำกิจกรรมขณะทานอาหารเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี การไปสอนคนอื่นในขณะที่เรากำลังทำแบบอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เด็กจะขาดความเชื่อถือ เพราะผู้สอนกลับเป็นผู้กระทำที่ไม่ดีเสียเอง

และถ้าเด็กร่วมรับประทานอาหารด้วยกันเด็กจะรับประทานอาหารไม่เต็มที่ เกิดการต่อต้านออกมาในพฤติกรรมหลายๆอย่าง รวมทั้งไม่ยอมรับประทานอาหารอีกด้วย

กว่าจะตอบเสร็จเหนื่อยมากครับคุณครู :)
 
 

     เอ่อ...ท่านคะ  เห็นแล้วอย่าว่าแต่ท่านเลยค่ะที่เหนื่อยในการตอบ  แม้แต่แป๋มเอง  ยังเหนื่อยแทนเลยค่ะ  ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สุวัฒน์  เป็นอย่างสูงนะคะที่ให้คำตอบที่ชัดเจน  ตัวจริงเสียงจริงมาตอบแบบนี้  กำไรก็อยู่ที่ผู้อ่าน  ความสุขใจก็อยู่ที่ผู้ตอบ 
ขอบคุณค่ะ.. 

ขอบพระคุณทุกท่านครับ อ่านแล้วได้รับความรู้ดีมากเลยครับ

จะนำไปสอนลูกศิษย์ครับ

สวัสดีครับครูแป๋ม

มาอ่านความรู้ดีๆและคำตอบที่เป็นประโยชน์มากๆเลย

ข้อห้ามเดย์เหรอครับ.....

ห้ามสั่งอาหราก่อนดูราคาครับ เอิ๊กอ๊าก :)

นอกนั้นเห็นด้วยจ่ะ

ดีใจจังที่ข้อเขียนแป๋มพอจะมีประโยชน์บ้าง สำหรับข้อห้ามของคุณเดย์ครูแป๋มเห็นด้วยอย่างที่สุดค่ะ เพราะครูแป๋มเคยได้รับบทเรียนมาครั้งหน่ง ครั้งเดียวก็เกินพอค่ะ

ขอบคุณ คุณvisistorค่ะที่นำไปใช้ประโยชน์กับนักเรียน ดีใจที่สุดจริงๆค่ะ

ร้อนในมีหลากหลายอาการ เช่น แผลร้อนใน ลิ้นเป็นแผลหรือลิ้นแตก เจ็บคอ เหงือกบวม มีขี้ตามากหรือตาแฉะ ครั่นเนื้อตัว เป็นไข้ และอื่นๆ อ่านรายละเอียดและวิธีรักษา รวมถึงข้อควรปฏิบัติได้ใน

http://www.brand-a.com

http://www.brand-a.com/02Products/02antipyretic.html

  • สวัสดีค่ะ คุณ expert
  • เป็นความรู้เสริมสำหรับกระทู้นี้ (?)
  • งั้นขอเชิญเป็นกำลังใจที่ http://gotoknow.org/blog/kpam/274021
  • ขอบคุณค่ะ

       

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท