วันที่ 10 เมษายน ตื่นนอน 6.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม (ไข่ออมเลตของศรีลังกาเหมือนไข่เจียวบ้านเรา) ออกเดินทางเวลา 8.30 น. มุ่งสู่ "มหินตเล" มหินตเล มาจากคำว่า "มหิน + ตะเล" คำว่า "มหิน" หมายถึง พระมหินทเถระ พระโอรสของพระเจ้าอโศกแห่งอินเดีย ส่วนคำว่า "ตะเล" เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่า ดอยหรือภูเขา สรุปก็คือภูเขาที่พระมหินทได้เสด็จมาพบกับพระเจ้าเทวานัมปิยะติสสะ (กษัตริย์ลังกาในสมัยนั้น) ณ ที่แห่งนั้นได้มีการสร้างเจดีย์อัมทิตา (Ambattha Cetiya) ซึ่งแปลว่า เจดีย์บนเนินต้นมะม่วง (รูป 1) เพื่อบรรจุพระธาตุของพระมหินทเถระ ผู้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในเกาะลังกาเป็นครั้งแรก
1 2 3
หลังจากนั้นเดินขึ้นบันได (รูป 2) ไปยังยอดเขาอันเป็นที่ตั้งของพระมหาเสยยเจดีย์ (รูป 3) ด้านใต้ขององค์เจดีย์มีวิหารพระพุทธไสยาสน์ (รูป 4) บนลานพระเจดีย์มองออกไปเห็นโบราณสถานเรียงรายอยู่โดยรอบ (รูป 5) ได้ทราบในภายหลังว่าเป็นบริเวณวัดอัมพตาลราชวิหาร บนยอดเขาลูกหนึ่งจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาว (รูป 6) ประทับนั่งปางปฐมเทศนาที่สวยงาม (สร้างขึ้นมาในสมัยหลัง)
4 5 6
ออกจากมหินเลเดินทางต่อไปยังเมืองอนุราธปุระ (Anuradhapura) เมืองหลวงแห่งแรกของศรีลังกา (ช่วงประมาณปีพ.ศ. 293 ถึง พ.ศ. 1598) ซึ่งอยู่ห่างจากมหินตเลไปทางตะวันตก 12 กิโลเมตร ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก ระหว่างทางผ่านเชตวันมหาวิหารและอภัยคีรีวิหาร เข้าสักการะพระเจดีย์ถูปาราม (รูป 7) พระสถูปแห่งแรกบนเกาะศรีลังกาที่มีอายุมากกว่าสองพันปี เป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญ (ไหปลาร้า) เบื้องขวาของพระพุทธเจ้า คณะของเราได้เข้าสักการะบริเวณด้านหน้าของเจดีย์ แล้วได้เวียนเทียนประทักษิณโดยรอบองค์เจดีย์สามรอบ พร้อมสวดมนต์บท "อิติปิโส" ไปด้วยเพื่อเป็นพุทธบูชา (บริเวณเจดีย์ต้องถอดร้องเท้า ถอดหมวก แดดค่อนข้างแรงและพื้นก็ร้อนมาก)
7 8 9
ต่อมาได้ไปนมัสการ สุวรรณมาลิกเจดีย์ (รูป 8) ซึ่งเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ 1/8 ส่วนของพระพุทธองค์ที่อยู่คู่อาณาจักรนี้มาช้านาน องค์เจดีย์สร้างด้วยอิฐถือปูนทาสีขาวทั้งองค์ มีฐาน 3 ชั้น บนองค์ระฆังมีบัลลังค์ขนาดใหญ่ และปล้องไฉนยอดแหลมอยู่ข้างบน (รูป 10) ฐานด้านนอกทำเป็นรูปช้างโผล่ออกมาจากผนังเพียงครึ่งตัวล้อมรอบอยู่รวม 362 เชือก (รูป 9)
เดินต่อไปเพื่อนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์ (รูป 11) ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นหน่อเดียวกันกับต้นโพธิ์ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่พุทธคายา ที่พระนางสังฆมิตตา (พระราชธิดาพระเจ้าอโศกฯ) ได้นำมายังเกาะลังกากว่า 2300 ปี ตอนที่จะเข้าไปยังบริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ จะต้องผ่านการตรวจค้นอาวุธในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กแยกเป็นชายและหญิงคนละห้องเพื่อป้องกันเหตุร้าย เพราะเคยมีผู้ที่ไม่หวังดีพยายามจะวางระเบิด ลูกชายคนโตของผมใส่กางเกงขาสั้น เจ้าหน้าที่ได้นำผ้าโสร่งมาให้ใส่ก่อนจึงจะเข้าได้
101112
บริเวณด้านหน้าของต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นที่ตั้งของโลหะปราสาท แห่งที่ 2 ของโลก ในโลกมีโลหะปราสาท 3 แห่ง แห่งแรกอยู่ที่อินเดีย และแห่งที่สามอยู่ที่เมืองไทย (วัดราชนัดดา) โลหะปราสาทแห่งที่ 2 นี้ (รูป 12) เป็นอาคารสี่เหลี่ยมสูง 9 ชั้น แต่ละชั้นมี 100 ห้อง หลังคามุงกระเบื้องทำด้วยโลหะทองแดงผสม ที่นี่เป็นที่ที่พระภิกษุใช้พักอาศัยและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ปัจจุบันหลังที่เห็นเป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพราะของเก่าถูกไฟไหม้เสียหายเหลือแต่ซากที่เป็นเสาหินตั้งเรียงรายอยู่ 1,600 ต้น (40 แถวๆ ละ 40 ต้น)
วันนี้รับประทานอาหารค่ำ (เกือบ 3 ทุ่ม) และพักค้างคืนที่ Palm Garden Village Hotel วันนี้เข้านอนประมาณห้าทุ่ม นับเป็นวันที่ยาวนานวันหนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามาอยู่ศรีลังกาหลายวันแล้ว !! (การเขียน blog นี้ก็เช่นกัน ใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะเนื้อหามากและต้อง upload รูปภาพหลายรูป !!)
เพิ่มเติมให้นะครับ
สำหรับต้นโพธิ์ เมื่อมีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรก
ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า Ficus religiosa
ซึ่ง religiosa นี้หมายถึง ศาสนา คือศาสนาพุทธ
เพราะต้นโพธิ์มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธครับ
ขอบคุณอาจารย์ดนัย และคุณชาลฤทธิ์ ครับ ...หวังว่าผู้อ่านทุกท่านคงจะอ่าน Comment ด้วยนะครับ เพราะหลายท่านจะช่วยเสริมและเติมความถูกต้อง ความสมบูรณ์ให้ ...ขอบคุณอีกครั้งครับ