ผมลงไปประสานการวิจัยเพื่อพัฒนาเครือข่ายการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วมด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต กับกลุ่มคนในพื้นที่ 8 จังหวัดของลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง โดยมีพื้นที่สำหรับประสานงานให้เป็นเป้าหมายการวิจัย 17 ชุมชนเทศบาล กระบวนการแต่เดิมนั้น ได้ส่งเอกสารโครงการและหนังสือติดต่อ รวมทั้งโทรศัพท์ประสานงาน ทั้งโทรเองและผู้ช่วยนักวิจัยช่วยกันโทร จากนั้น ก็นัดแนะกันเพื่อลงพื้นที่ ขอแนะนำโครงการพร้อมทั้งสอดส่องหาตัวจริงเสียงจริงตามแนวคิดที่เราต้องการ เพื่อชวนเชิญร่วมมาร่วมทำงานและเรียนรู้การจัดการเรื่องส่วนรวมด้วยกัน ผลการลงสนามรอบแรก แทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้อะไรเลย เอกสารโครงการที่ส่งไปล่วงหน้ารอบแรกนั้น เป็นเครื่องมือและวิธีประสานงานที่แทบจะไม่ช่วยในการริเริ่มงานกับพื้นที่เลย เหตุผลที่ได้จากตามลงไปดูก็คือ การถ่ายเอกสาร มันทำให้การประสานงานของท้องถิ่นลำบากมาก เขาประสานงานต่อไม่ไหว มันเป็นภาระเกินไป และในส่วนที่ทำหนังสือเวียนไปแล้ว การอ่านเอกสารโครงการก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว คนเขาเลยไม่อ่าน
พวกเราปรับตัวและทำเครื่องมือใหม่ขึ้นมาทันทีในการลงสนามวันรุ่งขึ้นในอีกพื้นที่หนึ่ง ผมเอาเอกสารโครงการมาทำเป็นแผ่นภาพ วาดและเขียนประเด็นย่อๆ อย่างสวยงาม บนแผ่นโปสเตอร์แผ่นใหญ่สุด โดนพื้นที่ตั้งคำถามตรงไหน และสื่อสารกันไม่รู้เรื่องตรงไหน ก็จะหยิบประเด็นนั้นๆขึ้นมาทำก่อน เสร็จแล้วก็วางแผนลงพื้นที่อีกรอบ พอเสร็จ งานทบทวนข้อมูลสนามข้อหนึ่งที่เพิ่มขึ้นจากการสรุปข้อมูลสนามทั่วไป จึงได้แก่การหารือกันเพื่อรวบรวมประเด็นสื่อสารและการชี้แจงต่อชุมชน ที่ประสบในแต่ละพื้นที่ เสร็จแล้วก็ทำสื่อและวางแผนการสื่อสารโครงการวิจัยสำหรับพื้นที่ที่จะลงในลำดับต่อไปอีก ผลการทำงานสนามจึงคืบหน้าไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
พอประสานงานสนามในรอบแรกเสร็จ พบกลุ่มปัจเจกและเครือข่ายองค์กรท้องถิ่น ที่มีแนวโน้มว่าพอจะมีแนวคิดสอดคล้องกันและพอจะคุยกันรู้เรื่อง อาจจะพัฒนาโครงการด้วยกันในลำดับต่อไปได้ ก็พบว่า ได้ก่อเกิดผลพลอยได้เกิดขึ้นมาด้วยเป็นกองพะเนินเลยคือ สื่อ แผนการลงพื้นที่ และการออกแบบเวทีสำหรับการสื่อสารโครงการวิจัยกับพื้นที่
ประสบการณ์ครั้งนี้ ให้บทเรียนที่มีคุณค่ามากอย่างยิ่งว่า สื่อ ภาษาศิลปะ และทักษะการถ่ายทอด เป็นตัวแปรและเครื่องบ่งชี้เชิงคุณภาพ ในการดำเนินโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งเน้นการสร้างความตื่นตัวของพลเมืองและการมีส่วนร่วมที่พลเมืองจะสามารถกำกับกระบวนการต่างๆให้สนองตอบต่อสิ่งที่ตนเองต้องการในทุกระยะ (Citizen control and Participatory Management Research) ที่สำคัญ และมีความหมายต่อการทำงานของเราเป็นอย่างยิ่ง
เข้ามาแวะอ่านบันทึกนี้เพราะชื่อ Blog น่าสนใจ
คุณวิรัตน์ก็มีประวัติและผลงานที่น่าชื่นชมมาก
สุดท้ายอ่านบันทึกนี้แล้วน่าสนใจค่ะ...เป็นประสบการณ์ที่ดีคนที่ทำงานภาคสนามต้องศึกษา ...การลงพื้นที่แม้จะส่งเอกสารโครงการและหนังสือติดต่อ รวมทั้งโทรศัพท์ประสานงานก็ยังไม่ work น่าเป็นข้อคิดที่ดีโดยเฉพาะการทำงานกับชุมชน