บารัก โอบาม่า (ไม่ได้ตีพิมพ์)


บารัก โอบาม่า

อย่างนี้ก็มี...ลีมูซีนสุดไฮเทคของบารัก โอบามา และภาพประวัติศาสตร์สร้างจากตัวต่อเลโก้

บุคคลที่ทั่วโลกกำลังจับตามองในขณะนี้นั้นคงหนีไม่พ้นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐ นายบารัก โอบามา ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นที่สนใจไปเสียหมด ความพิเศษของท่านประธานาธิบดีคนนี้คือท่านเป็นประธานาธิบดีผิวดำเชื้อสายแอฟริกันอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้รับคะแนนเลือกตั้งอย่างท่วมท้นจากชาวอเมริกันที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากเป็นประวัติการณ์

ประวัติของนายบารัก โอบาม่า นั้น เกิดวันที่ 4 ส.ค.ปี 1961 ถือเป็นวุฒิสมาชิกหนุ่มไฟแรงแห่งสภาคองเกรส จากรัฐอิลลินอยส์ เขาเป็นชาวอเมริกัน-แอฟริกา คนแรก ที่ได้ถูกเสนอชื่อจากพรรคการเมืองใหญ่ของสหรัฐ คือพรรคเดโมแครต ได้เสนอชื่อแข่งขันศึกประธานาธิบดีสหรัฐ โดยสามารถสร้างปรากฎการณ์เหลือเชื่อ พลิกชนะนางฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก ซึ่งถูกมองว่ามีดีกรีการเมืองเหนือชั้นกว่า ก่อนผงาดกลายเป็นนักการเมืองผิวสีที่ได้เข้าสู่เส้นทางชิงชัยศึกผู้นำทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สหรัฐ ทำให้อเมริกาทั่วประเทศและทั่วโลกจับตามองเขาอย่างไม่วางสายตานับตั้งแต่นั้น   

"โอบามา"จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด  เริ่มแรกเขาทำงานเป็นผู้จัดงานชุมชนและประกอบอาชีพเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ก่อนดำรงตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ 3 สมัย ตั้งแต่ปี 1997-2004 โอบามามีโอกาสได้ร่วมร่างกฎหมายควบคุมอาวุธขีปนาวุธ และสนับสนุนความสามารถในการตรวจสอบของสาธารณชนต่อการใช้งบประมาณรัฐบาลกลาง และครั้งหนึ่งเคยช่วยร่างกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านการโกงการเลือกตั้งและการล็อบบี้,กม.ด้านอุณหภูมิโลกเปลี่ยนแปลง,ลัทธิก่อการร้ายใช้อาวุธนิวเคลียร์ และกม.ดูแลทหารอเมริกันที่กลับจากสมรภูมิรบ ขณะเดียวกัน ก็เคยมีประสบการณ์เดินทางเยือนต่างประเทศหลายประเทศ เช่น ภูมิภาคยุโรปตะวันออก,ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
            และในปี 2004 โอบาม่าได้เขียนและขึ้นแถลงปราศรัยต่อที่ประชุมแห่งชาติพรรคเดโมแครตเป็นครั้งแรก โดยโอบามาซึ่งได้บรรยายว่าปู่ของเขาเป็นอดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงความสำคัญต่าง ๆ ด้านสังคมและเศรษฐกิจ พร้อมทั้งตั้งคำถามต่อรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เกี่ยวกับสงครามอิรัก และและมุ่งเน้นเกี่ยวกับพันธะผูกพันต่อทหารอเมริกันที่ออกไปรบนอกประเทศ
            นอกจากนี้ เขายังได้วิจารณ์แง่มุมเกี่ยวกับคณะกรรมการเลือกตั้งที่ไม่เป็นกลาง และตั้งคำถามต่อชาวอเมริกันให้ลองค้นหาความสมัครสมานสามัคคีในความแตกต่างของสังคมอเมริกันโดยระบุว่า"ที่นี่ไม่มีอเมริกาสายกลาง และอเมริกาสายอนุรักษ์ มีแต่เพียงอเมริกาที่เป็นสหพันธรัฐของทุกคน ประโยคดังกล่าวกลายเป็นวรรคทองของเขา ส่งผลให้สื่อมวลชนจับตานักการเมืองหนุ่มไฟแรงผู้นี้ขึ้นมาโดยทันที และส่งผลให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองของสหรัฐเพียงชั่วพริบตา

ด้านประวัติชีวิตส่วนตัวนั้น โอบามา ถือกำเนิดที่เมืองฮอนโนลูลู รัฐฮาวาย เป็นบุตรของนายบารัก ฮุสเซน โอบามา ชาวเคนยา และนางแอนดันแฮม ชาวอเมริกันผิวขาว จากรัฐแคนซัส ก่อนที่เขาจะเผชิญชีวิตครอบครัวหย่าร้างเมื่ออายุเพียง 2 ปี โดยพ่อของเขากลับไปยังเคนยา ก่อนจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปี 1982  เขาได้รับการเลี้ยงดูในรัฐฮาวาย ก่อนถูกย้ายไปอยู่ในอินโดนีเซีย เมื่ออายุ 6 ปี เมื่อมารดาของเขาแต่งงานใหม่กับชาวอินโดนีเซีย ก่อนที่ภายหลังเขาจะต้องสูญเสียบิดาจากอุบัติเหตุรถยนต์ และสูญเสียมารดาจากโรคมะเร็ง
            ในวัยรุ่นช่วงศึกษาในร.ร.ไฮสคูล โอบามา ยอมรับว่า เขาเคยผ่านประสบการณ์การใช้กัญชา โคเคน และดื่มมากแล้ว ซึ่งเขาได้กล่าวในการประชุมหัวข้อด้านประธานาธิบดีเมื่อปี 2008 ว่า นั่นเป็นความผิดพลาดทางจริยธรรมครั้งใหญ่ของเขา นายโอบามาสมรสกับนางมิเชล โอบามา หรือมิเชล โรบินสันเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 1989 ในขณะที่เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาของกิจการกฎหมายเมืองชิคาโก้ โดยโอบามาและมิเชล ได้ทำงานร่วมกันในฐานะคณะทำงานเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหมั้นเมื่อปี 1991 และแต่งงานเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ปี 1992 และมีทายาทร่วมกัน 2 คนคือมาเรียแอนเกิดเมื่อปี1998และนาตาชาเมื่อปี2001
            และในโอกาสวันพิธีรับประธานาธิบดีของสหรัฐเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552  ที่ผ่านมาสิ่งที่พิเศษสำหรับในวันนี้ที่ขาดเสียไม่ได้คือการเปิดตัวรถประจำตำแหน่งของนายบารัก โอบามา ที่จะนำขบวนพาเหรดผ่านถนนย่านเพ็นซิวาเนีย ในวันนี้ ซึ่งรถที่ใช้เป็นรถลีมูซีนยี่ห้อคาดิแลคที่สั่งทำขึ้นพิเศษเพื่อต้อนรับรัฐบุรุษคนสำคัญ

คาร์ดเวลล์เปิดเผยว่ารถยนต์ประจำตำแหน่งคันนี้ มีสมญานามว่าสัตว์ร้าย (the Beast) แข็งแรงทนทานต่อการถูกยิงด้วยจรวดหรือถูกชนด้วยอุกาบาต กระจกกันกระสุน ตัวรถหุ้มเกราะอย่างหนา ขณะที่ล้อวิ่งได้แม้ยางแตกหมด และมีการปิดกั้นไม่ให้อากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวรถ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี

ในทางประวัติศาสตร์สหรัฐ รถลีมูซีนคาดิแลคได้ถูกนำมารับใช้ประธานาธิบดีสหรัฐมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว กล่าวกันว่ายุคของประธานาธิบดีคนใหม่ต้องเริ่มต้นด้วยรถลีมูซีนของคาดิแลคคันใหม่ ซึ่งจะเผยโฉมและเป็นส่วนสำคัญในพาเหรดนำขบวนในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว (Inauguration Day) นายมาร์ค แม็กแน็บ (Mark McNabb) รองประธานบริษัทรถยนต์คาดิแลคชาวอเมริกาเหนือกล่าวว่า “เป็นประเพณีของชาวสหรัฐว่าเราจะต้องสร้างรถคันใหม่ที่ดีที่สุด ออกแบบอย่างน่าทึ่งและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อพลเมืองหมายเลข 1 ของเรา”

ภาพของลีมูซีนคาดิแลคกับประธานาธิบดีอเมริกันเริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีวูดดรอ วิลสัน (Woodrow Wilson) ซึ่งรถประจำตำแหน่งจะถูกดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความทันสมัย สง่างาม และให้ประโยชน์การใช้งานสูงสุด

สำหรับรถของโอบามาที่มีฉายาว่าสัตว์ร้ายคันนี้ ตั้งแต่ด้านหน้าของรถเป็นศูนย์รวมของความประณีต หน้ารถยนต์ทั้งสองข้างสร้างจากโมเดลของรถสปอร์ตซีดาน รุ่น CTS และเอสคาเลด เพื่อให้เห็นภาพจะขอยกตัวอย่างภายในห้องโดยสารซึ่งถูกออกแบบด้วยความงามของศิลปะยุคเรเนซองค์ โครงสร้างภายในส่วนใหญ่เป็นงานแฮนแมท สร้างจากฝีมือช่างแทบทั้งหมด เช่นเดียวกับกระบวนการที่ใช้ในโมเดลของรถคาดิแลคสปอร์ตซีดาล รุ่น CTS ภายในเบาะที่นั่งมีพื้นที่กว้างขวางเพื่อการใช้งานเสมือนเป็นสำนักงานเคลื่อนที่

รถประจำตำแหน่งถูกออกแบบพัฒนาและทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยตลอดการใช้งาน ทางด้านหน้าขวายังมีธงชาติสหรัฐติดอยู่เพื่อแสดงตำแหน่งและมีไฟสปอตไลท์แอลซีดีส่องธงในเวลากลางคืนด้วย

คาดิแลคได้สร้างรถลีมูซีนและพาหนะพิเศษสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐ นักการทูต และแขกต่างประเทศคนสำคัญตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 มาจนถึงปัจจุบัน

ประวัติของรถยนต์คาดิแลคยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เครื่องยนต์คาดิแลคและรถยนต์ได้ถูกรับใช้นายทหารของรัฐบาลเพราะความทนทานสูงสุดและความทรงพลัง โดยประธานาธิบดีวิลสัน (Woodrow Wilson) เป็นผู้มีตำแหน่งสูงสุดที่ใช้รถยนต์คันนี้เป็นคนแรก ในขบวนพาเหรดฉลองชัยชนะจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ. 1919 ผ่านถนนบอสตัน

ต่อมาในปี ค.ศ. 1938 รถคาดิแลค 2 คันที่มีสมญานามว่าพระราชินีแมรี่และพระราชินีอลิซาเบท ได้ถูกนำมาใช้ในรัฐบาลสหรัฐ รถคันนี้มีความยาว 21.5 ฟุต น้ำหนัก 7,660 ปอนด์ และเต็มไปด้วยกระสุนเสมือนโรงแสงสรรพาวุธ คลื่นวิทยุรับส่ง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากความทนทานและความเชื่อมั่นในรถฉายาควีนทั้งสองคัน รถคาดิแลคจึงได้ถูกนำมาใช้เป็นรถประจำตำแหน่งเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดีแฟรงคิน ดีลูสเวล ประธานาธิบดีทรูแมน และประธานาธิบดี ดีไวท์ ดี ไอเซ็นฮาวซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่รู้จักกันดีในฐานะประธานาธิบดีสีเนื้อ จากสีรถคาดิแลครุ่นแอลโดราโด (Eldorado) รุ่นแรก ที่ใช้ในงานพิธีวันรับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี ค.ศ. 1953

ในปี ค.ศ.1956 รถรุ่นควีนแมรี่และควีนอลิซาเบทก็ได้ออกรุ่นที่ 2 ซึ่งรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมให้เป็นพาหนะที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงเต็มไปด้วยศิลปะแห่งการสื่อสาร นอกเหนือจากนั้นยานพาหนะรุ่นนี้ถูกลดขนาดขอบยางภายในให้แคบลงเพื่อป้องกันยางถูกยิง

ควีนทั้งสองถูกใช้ไม่เพียงแต่กับประธานาธิบดีไฮเซ็นฮาวเท่านั้น ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ แคนนาดี้ และประธานาธิบดีลินคอน บี จอห์นสันก็ด้วย รถรุ่นนี้ได้ปลดเกษียณในปี ค.ศ. 1968

ต่อมาในปี ค.ศ.1983 รถรีมูซีนคาดิแลคชื่อ ฟรีดวู๊ด รีมูซีน (Fleetwood limousine) และ ฟรีดวู๊ด บรูคแฮม (Fleetwood Brougham) ได้ถูกนำมาใช้กับบประธานาธิบดีโรนัล ดับเบิ้ลยู เรแกน ไปจนถึงประธานาธิบดีวิลเลียม เจ คลินตัน

ในปี ค.ศ.1993 ซึ่งเป็นรุ่นที่ต่างจากรุ่นก่อนเพราะมีการพัฒนาโดยบริษัทลีมูซีนโดยลำพัง รุ่นประธานาธิบดีบรูคแฮม ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้บริษัทเจเนอรัลมอเตอร์แอนด์คาดิแลคซึ่งเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยได้จนมาถึงปัจจุบัน

 รีมูซีนคาดิแลค ฟรีดวู๊ด รุ่นปี 1983 ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ห้องสมุดประธานาธิบดีโรนัล ดับเบิ้ลยู เรแกน ในหุบเขาซิมิ (Simi Valley) ประเทศแคลิฟอร์เนีย ในขณะที่ รีมูซีนคาดิแลคฟรีดวู๊ดบรูคแฮม รุ่นปี 1993 อยู่ที่ศูนย์ประธานาธิบดีคลินตัน เมืองอาคันซัส (Ark.)

คาดิแลคผลิตรถยนต์สำหรับประธานาธิบดีทั้ง 2 รุ่นนี้มาตลอด ในทศวรรษนี้ยังคงให้บริการเริ่มจากรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีจอส ดับเบิลยู บูส ในปี ค.ศ.2001 และในปี ค.ศ.2004 ได้สร้างโมเดล DTS สำหรับประธานาธิบดีบูสและนั่นเป็นรูปแบบใหม่ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นรุ่นเต็มรูปแบบของดีทีเอสซีดาน

ไม่เพียงแต่รถรีมูซีนคาดิแลคเท่านั้น ที่ประเทศแคลิฟอร์เนีย บริษัทผู้ผลิตสินค้าของเล่นเลโก้ยังได้จำลองภาพประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วยการสร้างเลโก้แลนด์ แคลิฟอร์เนีย เลโก้รูปประชาชนนับพันตัวเข้าร่วมจำลองพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายบารักโอบามาด้วย และเปิดให้เข้าชมจนถึงปลายเดือนพฤษภาคม 2552

และเจ้าสุนัขพุดเดิ้ลสีขาวสามขาตัวนี้ก็ได้รับผลบุญไปด้วย

ขอขอบคุณ ภาพตัวต่อเลโก้จาก www.telegraph.co.uk.

ข้อมูลรถลีมูซีนคาดิแลคแปลจาก 24 Cars blue Sky : http://audos.blogsport.com

 

คำแปลภาพส่วนประกอบภายในรถลีมูซีนประจำตำแหน่ง

คาดิแลค 1 รถที่เปรียบเหมือนกับรถถังก็ว่าได้

Petrol Tank /  ถังน้ำมัน ถูกออกแบบด้วยโฟมซึ่งป้องกันการระเบิด แม้จะถูกแรงกระแทกโดยตรง

Boot / ด้านท้าย บรรจุถังออกซิเจนและระบบอุปกรณ์ดับเพลิง

Factfile / เกี่ยวกับตัวรถ ราคา 3 แสนยูโร (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 14 ล้านบาท), ความยาว 18 ฟุต, กว้าง 5 ฟุต 10 นิ้ว, เครื่องยนต์ ดีเซล 6.5

ความเร็วสูงสุด 50 ไมล์ต่อชั่วโมง, ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ 8 ไมล์ต่อ 1 แกลลอน

Rear Seats / เบาะที่นั่ง แล็บท๊อปคอมพิวเตอร์หน้าจอพับเก็บได้ Wi-fi, โทรศัพท์สัญญาณดาวเทียมและสายตรงถึงรองประธานาธิบดีและกระทรวงกลาโหม

Defence Accessories / อุปกรณ์ป้องกัน กล้องสำหรับมองตอนกลางคืนและปืนสั้น ปืนใหญ่อัดแก๊ซน้ำตา ขวดเลือดประธานาธิบดีในกรณีให้เลือดฉุกเฉิน

Chassis / โครงรถ แผ่นสแตนเลสกันกระแทกขนาด 5 นิ้วใต้ท้องรถ เพื่อกันแรงระเบิดจากด้านใต้

Tyres / ยางรถ โครงสร้างเหล็กกล้าเพื่อการหลบหลีกแม้เมื่อเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดในขณะขับรถด้วยความเร็วสูง

Rear Compartment / ท้ายห้องโดยสาร ที่นั่นสำหรับ 4 คน พร้อมกระจกกั้นห้อง มีเพียงโอบามาเท่านั้นที่จะกดปุ่มเอาลงได้ กระจกด้านข้างใหญ่กว่ารถประจำตำแหน่งท่านก่อนๆและมีปุ่มฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ

Doors / ประตู โลหะหุ้มเกราะหนา 8 นิ้วฟุต น้ำหนักเท่ากับประตูห้องโดยสารบนเครื่องบินโบอิ้ง 757

Chauffeur / คนขับ ได้รับการฝึกจาก ซีไอเอ

Driver’s Window / หน้าต่างคนขับ กันกระสุน

Body work / ตัวรถ ประกอบไปด้วยเหล็กกล้า อลูมิเนียม ไททาเนียม และแม้แต่เซรามิกเพื่อการป้องกันสูงสุด

Driver’s compartment / ห้องโดยสารคนขับ มีอุปกรณ์สื่อสารและระบบ GPS ติดตามตัว



 

หมายเลขบันทึก: 239684เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2009 20:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณค่ะ ได้รับความรู้ มากเลยค่ะ

ติดตามอ่านต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากเลย ขออนุญาติcopyเก็บไว้น่ะครับ

ขอบคุณค่ะ ตัวข้อมูลประวัติคาดิแลคที่แปลมาน่าจะประมาณ 95% มีหายไปบ้างบางประโยคที่อ่านแล้วไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าจะนำไปใช้อ้างอิงรบกวนเข้าไปเช็คดูอีกทีที่

ข้อมูลรถลีมูซีนคาดิแลคแปลจาก 24 Cars blue Sky : http://audos.blogsport.com

ถ้ามีตรงส่วนไหนคลาดเคลื่อนรบกวนช่วยแจ้งด้วยน่ะค่ะ จะได้ลองเข้าไปเช็คดูใหม่อีกที

ส่วนรูปถ่ายถ้ามีเวลาจะเพิ่มรูปลงมาให้ดูกันน่ะค่ะ

ถ้าจะใช้รูปตอนนี้ก็ให้นำชื่อภาษาอังกฤษของรถเช่น Fleetwood limousine ไป search ใน google ก็จะมีรูปให้ดูอยู่พอสมควร

มนตรา---ตรีเมฆ---หมู---นนทบุรี

สวัสดีครับ-------เยี่ยมมาก-------ขอบคุณ---เจ้าของเว็บไซด์-----นี้---ครับ---

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท