001 : เมื่อหมอเป็นมะเร็ง


 

มาแนะนำเพื่อนใหม่ที่ผมเพิ่งได้รู้จักครับ

เป็นเพื่อนที่รอบรู้ คุยสนุก แถมยังมีอารมณ์ขันทั้งแบบน่ารัก และแบบแสบๆ คันๆ อีกต่างหาก

เขาชื่อ 'เมื่อหมอเป็นมะเร็ง' ครับ

 

 

ชื่อของเขานี่ แม้จะฟังแล้วออกแนวหดหู่เล็กๆ

แต่ด้วยความที่เขาเล่าเรื่องเก่ง ก็เลยฟังกันเพลินๆ ได้ความรู้มากมาย

โดยเฉพาะเรื่องทางการแพทย์ซึ่งดูเหมือนเขาจะถนัดเป็นพิเศษ

อย่างพวกศัพท์แสงยากๆ ของพวกหมอนี่ เขาก็ตั้งชื่อใหม่ให้จำกันง่ายๆ เช่น

คิลเลอร์ ที.เซลล์ เรียก "ที.เซลล์พิฆาต"
ซัพเพรสเซอร์ ที.เซลล์ ก็เรียก "เซลล์ปราม"
ที.เฮลเปอร์เซลล์ ก็ "เซลล์สนับสนุน"

ระบบภูมิคุ้มกัน เป็น "เจ้าแม่" เพราะเป็นผู้จัดการงานน้อยใหญ่ให้ลุล่วง

สมอง เป็น "เจ้าพ่อ" เพราะคอยบงการความคิดและพฤติกรรม

พลิกไปดูหน้า 89 เป็นตัวอย่าง

 "นี่ ที.เซลล์สนับสนุน รับทราบจาก บี.เซลล์ ว่ามีเหล่าร้ายซุ่มอยู่ตามเส้นทางประสาทลำไส้ จะเริ่มปฏิบ้ติการนะครับ"

"เออดี ให้เป็นหมู่นำในการประสานงานกับ ที.เซลล์พิฆาต และที.เซลล์ปรามโดยด่วน แล้วรวมกำลังกันปฏิบัติได้"

ศูนย์ไทมัสสั่งการออกมา ข่าวสารกระจายไปทั่วสรรพางค์กาย

 

เทียบระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกับหน่วยรบอย่างนี้...ฟังง่ายขึ้นตั้งเยอะ...ใช่ไหมครับ ^__^ 

 

เพื่อนผมยังมีเทคนิคเล่าเรื่องแพรวพราวอีกต่างหาก

เขาใช้การย้อนเวลา (flash back) นึกถึงความหลังเมื่อครั้งก่อนแบบที่หนังจีนชอบใช้กัน

เขาใช้นิทานเปรียบเทียบ "ฟังความสามข้าง" (หน้า 52) เล่าเรื่อง ชีวญาณ (ชีวจิต) โดยให้ ดร.สารทิศ (ดร.สาทิศ - "กูแน่") คุยกับนายแพทย์สะกิด (ตัวแทนแพทย์สมัยใหม่) โดยมีพิธีกรโอทีวี...พยายาม...ดำเนินรายการ

เขาใช้การพูดคุยกับผู้รู้ ให้ผู้รู้เป็นคนให้ข้อมูล จะได้น่าเชื่อถือ

เขาใช้การให้ข้อมูลแบบเป็นระบบระเบียบ จะได้อ้างอิงได้

และอื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ

 

 เล่าไปเพลินๆ เขาก็มักจะมีข้อคิดดีๆ หลุดออกมาเสมอ อย่างอันนี้โดนใจมั่กๆ (หน้า 42)

 

"มะเร็งไม่ใช่ศัตรูตัวร้ายของชีวิต หากแต่เป็นมิตรที่ออกจะเคร่งระเบียบและเข้มงวด

ทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าเตือนภัย เพื่อคุ้มครองชีวิตทั้งระบบไม่ให้พลอยพังครืนไปด้วยกัน

แต่จะรวบรวมพิษจากอาหารที่ผิดและการใช้ชีวิตที่ผิดให้มาอยู่ในที่เดียวกัน

เพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดกวาดล้าง

เพียงแต่ท่านสนใจในตัวเองและอ่านรหัสอาการที่มิตรพยายามส่งสัญญาณมาให้ท่านทราบได้ทันเวลา"

 

เห็นไหมล่ะว่า...เพื่อนผมเล่มนี้...มีความคิดลึกซึ้งและมีมุมมองเฉียบคมแค่ไหน!

 

ผมว่าเขามีจุดเด่นอย่างน้อย 3 อย่าง

 

- หนึ่ง -

เขามีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์มาก อันนี้รู้สึกได้โดยตลอด

เพราะสิ่งที่เขาเล่าให้ฟังจะมีหลักฐานและเหตุผลเชื่อมโยงกันเสมอ

(เช่น เรื่องที่ว่าจิตใจมีอิทธิพลต่อกลไกการต่อต้านศัตรู เชื้อโรค สารพิษและมะเร็งอย่างไร ในหน้า 105-107) 

แถมเขายังมีทัศนคติแบบ skeptic คือ ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แบบแห่ตามกันอีกด้วย

 

- สอง -

เขามีความเป็นครูสูงมาก ดูเขาพูดในหน้า 44 นั่นสิครับ

 

"บุคคลที่เป็นครูที่ดีต้องเป็นคนที่เรียนไม่เลิก

และมีเมตตาต่อทุกคนที่สมัครเข้ามาเป็นศิษย์ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง

ฉันให้ความสำคัญต่อครูมาก

ครูมีเทียนจุดไฟเล่มเดียว มีเปลวสว่างวับแวม

สามารถต่อไฟให้คนอื่นๆ ที่มีเทียนของตัวเองคนละเล่ม

จนกระทั่งโลกนี้สว่างไสวไปทั่วพื้นพื้นผิวและบรรยากาศ"

เพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้น ลองอ่าน สารเปิดผนึกถึงโรงเรียนแพทย์ ที่เขายกทั้งบทที่ 21 ดูก็ได้

เขาเรียกร้องให้แพทย์ รักษาคน (ไม่ใช่แค่รักษาโรค) ป้องกันโรค (ควบคู่ไปกับการรักษา)

และที่สำคัญคือ มองผู้ป่วยเป็น "คน" ไม่ใช่เป็น "ราย (case)"

 

- สาม -

เพื่อนผมเขาเชื่อมั่นในพลังครอบครัวครับ

ดูสิ เขายกตัวอย่างครอบครัวของผู้ที่สร้างสรรค์เขาขึ้นมา

โดยเล่าเรื่องตอนที่ผู้ที่สร้างเขาขึ้นมาได้ขอร้องครอบครัว โดยเฉพาะลูกคนที่เป็นแพทย์

ว่าจะไม่ขอรับการบำบัดด้วยเคมี (คีโม)

เพื่อนผมเขาเล่าอย่างได้อารมณ์ ละเมียดละไมเหลือเกิน...

 

"ทันใดนั้น ฉันได้ทำให้ทุกคนตกใจสุดขีด ฉันร้องไห้โฮออกมาแบบกลั้นไม่ไหว

จิตใจฉันท่วมท้นไปด้วยความตื้นตันในความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของลูกตุ๋ม

ตามมาด้วยความสับสน

ทำให้น้ำตาไหลพรากแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...."

(หน้า 103)

 

ภาพนี้ เพื่อนผมเขาแสดงไว้เป็นขาวดำ (หน้า 105) แต่พี่ดาวได้เอื้อเฟื้อภาพสีมาให้

 

 

ส่วนภาพครอบครัวขยายนี้ แถมให้...

 ...เพราะเพื่อนผมฝากไว้ว่า

 

"ท่านผู้อ่านที่รัก โปรดอย่ามองข้ามพลังครอบครัว ในเมื่อท่านประสบปัญหาชีวิต

ครอบครัวเป็นหน่วยของสังคมที่มีบทบาทหน้าที่เทียบเท่ากับสังคมหรือชุมชนทั้งหมด

ถ้าครอบครัวดี สังคมก็ดีตาม

ถ้าครอบครัวเข้มแข็ง มีคุณธรรม ชุมชนก็เข้มแข็งและเจริญตามกัน"

 

 

 

 พบเห็นเพื่อนผมวางอยู่ที่ไหน...อย่าได้รอช้า...หาโอกาสเข้าไปทำความรู้จักโดยพลัน

ไม่ว่าจะ ซื้อ แอบอ่านในร้าน ยืม หรือแม้แต่...

ยึด! ;-)

(จากเพื่อนสนิท)

 

หากรู้จักเขาแล้ว ก็มาเม้าท์ถึงเขาให้ผมฟังบ้าง

จะได้สมดุลกัน...ดีไหมครับ?

 ^__^

 

 


 

หนังสือ : เมื่อหมอเป็นมะเร็ง

ผู้สร้างสรรค์ : ธันย์ โสภาคย์ - นามปากกาของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์หม่อมราชวงศ์ธันยโสภาคย์ เกษมสันต์

ผู้จัดพิมพ์ : บริษัทอัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)

ISBN : 978-974-623-831-1

เพื่อนเล่มนี้ฉันได้แต่ใดมา? : พี่ต๋อย มอบให้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. 2551 ที่เชียงใหม่

 


หมายเลขบันทึก: 234918เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2009 10:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)
  • สนใจมากถึงมากที่สุดค่ะ
  • แล้วครูวรางค์ภรณ์จะไปทำความรู้จักกับเพื่อนของคุณบัญชานะคะ
  • รู้จักแล้วจะมาเล่าให้ฟังเช่นกัน
  • ขอบคุณค่ะ

รบกวนอาจารย์ชิวลบความเห็นที่ 1 ให้หน่อยค่ะ  พิมพ์ผิดๆๆ เดี๋ยวพี่จ๊ะมาปรับ  T_T

  • ธุ  อาจารย์ชิวค่ะ..

เล่มแรก..ต้อมได้มาเมื่อตอนที่ได้เจอกันตัวเป็นๆ   ต้อมยังเอาเล่มที่มีอยุ่เดิม (ของเจ้คนสวย) มาเปิดดูหน้าที่มีรูปครอบครัวแล้วแซวพี่จ๊ะว่า "ไม่เห็นเหมือนในรูปเลย"    เธอตอบว่า.. "โห รูปไม่สวย  เอาลงทำไม?..ต้องไปโวยเสียหน่อยแล้ว"   (ใจความประมาณนี้  อิอิ)

เล่มที่สอง..ได้มาเมื่อสองสามวันก่อน   เพราะต้อมส่งเล่มแรกให้เพื่อนบล็อกเกอร์ G2K ยืมแล้วพี่จ๊ะบอกว่าไม่ต้องทวงคืนแล้ว  อิอิ

ตัวหนังสือของคนเขียน "เมื่อหมอเป็นมะเร็ง"  ต้อมอ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำความเข้าใจได้ไม่ยากนะคะ   อ่านรื่นรวดเดียวจบได้    ไม่อยากจะเชื่อว่าหมอเขียน  ^^

ขอบคุณพี่จ๊ะ..พี่คนโปรดมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  ^^ 

  • ยังไม่ได้อ่านเล่มนี้
  • แต่บ้านพี่ดาว
  • หน้าตาสำเนาถูกต้อง
  • อิอิๆๆ
  • ขอไปหาอ่านก่อนดีกว่า
  • ขอบคุณครับพี่ชิว

สวัสดีครับ

        คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน : ดีครับ ถ้าได้อ่านแล้ว ก็มาฝากความคิดเห็นไว้ที่นี่ก็ได้นะครับ

        น้องต้อม : มีเกร็ดล่าสุดด้วย ดีจัง ขอบคุณมากครับ ต้อมโชคดีที่ได้พบและรู้จักท่าน

สวัสดีครับ อ.แอ๊ด

        ออนไลน์อยู่พอดี ทางนครปฐม...หนาววววว...ไหมครับ?

สวัสดีครับ

เคยตามอ่านในนิตยสารชีวจิตครับ นานๆๆ ตั้งแต่พี่ดาวยังสาวๆ

อ.แอ๊ดหนีไปสอนเด็ก

มาตอบแทน นครปฐมหนาวๆๆ

อิๆ

จะตามไปรู้จักให้ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ อ้าว นั่นแน่...เปิดบล็อกใหม่(อีก) แล้ว ^^ "หนังสือคือเพื่อน"

ว้าว แบบนี้ต้องขออ่านใหม่อีกรอบแล้วค่ะ ว่าแต่ รูปใครนะน่าเกลียดจัง ฮือ เปลี่ยนเอารูปครอบครัวขยายลงกันเหอะ...เพื่อเสริมพลังแห่งครอบครัวไง ^^

อ้าว ไหนๆ ก็ผ่านตาคนตาไวมาได้(ยังไง) ตั้งสองคน มาปรับกันเสียดีดี งานนี้ขอปรับเลยไปถึง คุณ บก.หมู และน้องจ๊ะด้วยก็แล้วกันนะคะ

รวมกำล้งกัน   การใชชีวิต   ซื้อสัตย์

พี่เป็นคนแรกที่พิมพ์เรื่องนี้ค่ะ พิมพ์(แบบจิ้มดีด)ไปก็หัวเราะไปด้วย พ่อพี่สั่งการในห้องพักคนไข้ กองบัญชาการของท่านอยู่ตึกสูงสิบสี่ชั้น เอ้า! ลูกคนนี้ไปจัดการจัดห้องหับให้พ่อใหม่ พ่อจะย้ายลงมานอนห้องนี้ ลูกคนนี้ไปเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ คนนี้ไปออกแบบห้องอาบแสงตะวันให้พ่อ ส่วนเจ้าลูกคนนี้ เอางานของพ่อไปจัดการพิมพ์ไป พรุ่งนี้เอามาให้พ่อตรวจ...สั่งงานแบบนี้เรื่อยๆ มา จนพ่อกลับบ้านและลุกขึ้นมาทำงานตอนตีสามได้ หุๆ

พอมีเพื่อนใหม่ชื่อมะเร็งแล้ว พ่อเราคึกคักขึ้นมาทันทีทันใด อ้าวแล้วทำไมพี่ถึงมานินทาพ่อแบบนี้ล่ะ ไปทำงานๆ  ^^

สวัสดีค่ะอ.บัญชา

บล็อกนี้ชอบมากค่ะ ชอบและสนใจเกี่ยวกับหนังสือ

เคยผ่านตาหนังสือเล่มนี้มาบ้างแล้วค่ะ เพิ่งมาสังเกตว่า อ้าว...เรื่องของพี่ดาวลูกไก่ พี่สาวแสนดีคนใกล้ใจ (ตัวไกลกัน) นี่เองค่ะ

ชอบที่อาจารย์แนะนำและแยกแยะ ย่อย สาระของหนังสือให้แล้ว ...

แทบจะเพียงกลืนและย่อยได้ในทันที.....^_^....

แต่คิดเช่นนี้คงไม่ดีแน่ เพราะไม่เป็นการคิดแบบวิทยาศาสตร์....ไปโน่นเลยค่ะ...

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับ

       อ.หมู ธ.วั ช ชั ย : ตอนอ่านนี่ แสดงว่า อ.หมู ยังเป็นหนุ่มๆๆๆ อยู่หรือเปล่าครับ ;-)

             ทวงภาพเมฆจากอีสานคร้าบ...ไม่ลืมนะเนี่ย

      ครู add : ดีเลยครับ น่าจะเจอเพื่อนผมได้ไม่ยาก เพราะโดนทำโคลนนิ่งไป 15 ครั้งแล้ว (เป็นอย่างน้อย)

      พี่ดาว : มีเบื้องหลังกำเนิดเพื่อนผมด้วย...ดีจัง ^__^

             เปลี่ยนภาพให้ใหม่...สีสดใสปิ๊งๆ แล้วครับ

      คุณ คนไม่มีราก : เล่มที่มีอยู่นี่ พิมพ์ครั้งที่เท่าไรครับ ส่วนเรื่องอ่านไปอ่านมา พบคนรู้จักนี่ เกิดขึ้นบ่อยๆ ตามทฤษฎีโลกใบเล็ก หรือ Six Degrees of Separation มั้งครับ

อ.บัญชาคะ

มาสารภาพค่ะ ที่ว่าหนังสือเล่มนี้ที่เคยผ่านตา...ไปยืนพลิกดูที่ร้านค่ะ

ยังไม่ได้อุดหนุนค่ะ อาจเป็นเพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวค่ะ

สัญญาว่าจะต้องหาเวลาไปซื้อหามาอ่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ ค่อยกินอิ่มนอนหลับสบายหน่อยค่ะ ^^ แต่ได้ยินแว่วๆ ใครว่าพี่แก่ฮึ!

สวัสดีครับ

        คุณ คนไม่มีราก : ผมเองก็เหมือนกันครับ บางทีบางอย่างนี่มันมีเวลาเหมาะสมของมันเอง

        พี่ดาว : ขอบคุณที่ส่งภาพมาให้เช่นกันครับ

               ส่วนคำถามอันหลังนี่ ผมไม่เกี่ยวนะคร้าบ...ตัวใครตัวมันละเว้ย....

หน๊าย..ย..ย ไหนๆๆ ใครว่าพี่จ๊ะแก่  ^^

วันนี้ต้อมเข้าไปในเมืองเพื่อทำธุระให้เจ้านายและแวะไปหาซื้อ "เมื่อหมอเป็นมะเร็ง" เพื่อจะส่งไปให้ใครคนหนึ่งที่เธอก็กำลังมีเพื่อนสนิทชื่อ "เจ้ามะเร็ง" อยู่    แต่หาซื้อไม่ได้แล้วหง่ะ    ถ้าต้อมส่งเล่มที่เพิ่งได้ไปให้เธอ..พี่จ๊ะจะว่าไหมอ่ะ อาจารย์ชิว

น้องต้อม

      พี่คิดว่าการมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับคนที่มีเพื่อนชื่อ "มะเร็ง" อยู่ น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง เปรียบเสมือน น้องต้อม พี่จ๊ะ รวมทั้งท่านผู้เขียนหนังสือ ได้ร่วมทำบุญพร้อมๆ กันนั่นเชียว (ส่วนต้อมซึ่งเพียงแค่คิดว่าจะให้...ก็ถือได้ว่ามีจิตเป็นกุศลแล้วครับ)

พึ่งไปหาหมอมาวันนี้ค่ะพี่ ปวดท้องมาเป็นอาทิตย์ ท้องเสียด้วย ตอนแรกก็เสียวไปสารพัด กลัวพี่มะจะมาเยือน ตกลงหมอบอกว่าเป็นลำไส้อักเสบ ค่อยยังชั่วหน่อย เสียวแว้บ - - "

สวัสดีครับ ซูซาน

        แหม! ไม่ได้คุยกันซะนาน ปวดท้องเป็นอาทิตย์นี่แย่เหมือนกัน แต่ตอนนี้รู้สาเหตุแล้ว น่าจะเบาใจไปได้นะครับ

เจริญพร โยมอาจารย์บัญชา

โรคภัยมันไม่วงเล็บบ้างว่าเป็นหมอเป็นแพทย์นะอาจารย์

 

เจริญพร

หนังสือนี้มีคุณค่ามาก สำหรับครูแอน ที่สาวน้อยP เนปาลี นำพาข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝากถึงเมืองปาย โดยได้รับความเมตตาจากพี่ดาวP ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดีทายาทคุณหมอ เมื่อหมอเป็นมะเร็ง...ชีวิตของคุณพ่อธันย์ โสภาคย์ ครูแอนนำมาปฏิบัติ กับคุณพ่อ..เมื่อคุณพ่อเป็นมะเร็งค่ะ...ขอขอบคุณต้อม พี่ดาว และพี่ชิวที่ได้บอกกล่าวบันทึกนี้

เมื่อสามสี่วันนี้พี่มีเรื่องเศร้าอีกแล้วค่ะ คราวนี้มะเร็งกระโดดเข้าเกาะลำไส้ใหญ่ของคุณอา ซึ่งเป็นน้องชายคลานตามกันมาของคุณหมอธันย์ มาแบบประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนโชคชะตากำหนดไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม พวกเรายังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกัน ที่ทราบขณะนี้ฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้ในมือคุณหมอศัลยแพทย์กับอาวุธเคมีค่ะ แต่จะมีหนังสือภาคสามเขียนโดยน้องหมอที่เป็นมะเร็งไหม ไม่รู้...นะคะ

เวลาเราปวดท้องบ่อยๆ เราจะรู้สึกกังวลเหมือนที่คุณซูซานเขียนค่ะ

  • ธุ  อาจารย์ชิว..

พี่จ๊ะใจดี   มอบหนังสือฝากไปให้ "ใครบางคน" แล้ว   วันนี้ต้อมจะได้ส่งไปเสียทีค่ะ  ^^  คนรับคงจะได้นำข้อคิดและหลักปฏิบัติในการดูแลตัวเองไปใช้บ้าง   

ขอขอบพระคุณผู้เขียนหนังสือเล่มนี้  ตลอดจนพี่จ๊ะ  นะคะ อาจารย์ชิว   เธอน่ารักมาก  ^^ 

สวัสดีครับ

ภาพเมฆอยู่ในคอมฯ อีกเครื่องครับ ยังไม่ได้แวะไปก๊อปมาเลย

ดูภาพประตูเมืองสกลนครก่อนดีกว่า

 

Sdc12553

กราบนมัสการหลวงพี่ พระปลัด ครับ

       จริงด้วยครับ แต่หนังสือเล่มนี้นี่ ท่านผู้เขียนได้พลิกวิกฤติชีวิตให้เป็นการเรียนรู้ และเป็นการเรียนรูที่เกิดประโยชน์ต่อคนอื่นๆ อีกมากมายครับ น่าชื่นชมความเป็นครูของท่านจริงๆ

สวัสดีครับ ครูแอน

       หวังว่าคุณพ่อของครูแอนคงจะอยู่กับคุณมะเร็งอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยนะครับ

       น่าชื่นชมน้องต้อมและพี่ดาวที่กรุณานำข้อมูลที่มีประโยชน์ไปให้ครับ

สวัสดีครับ พี่ดาว

       อย่างที่คุณพ่อพี่ดาวเขียนไว้ในหนังสือ เจ้าตัวรู้ดีที่สุดว่าจะทำอย่างไร ขอเอาใจช่วยคุณอาของพี่ดาวด้วยครับ 

       แต่เชื่อว่า ด้วยพลังครอบครัวที่อบอุ่นและเข้มแข็ง คงจะประคับประคองสถานการณ์ให้ทรงตัว หรือแม้แต่ดีขึ้นได้

สวัสดีครับ ต้อม

         ใช่แล้วครับ ข้อมูลในหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์แน่ๆ

         ทำให้เห็นวิสัยทัศน์อันยาวไกลของผู้เขียนด้วย ที่แม้ตนเองจะเป็นอะไร แต่ก็แปรประสบการณ์เป็นความรู้ที่เป็นประโญชน์ และอาจช่วยคนอื่นได้ด้วย ส่วนพี่จ๊ะนี่ใจดีและน่ารักจริงๆ ครับ

สวัสดีครับ อ.หมู (อู๊ดๆ)

       ฟ้าใสไร้เมฆาจริงๆ สมกับเป็นหน้าหนาว (ของแท้) เลยะนะครับ

สวัสดีครับ

ขออนุญาตนำไปแปะไว้ในเว็บแนะนำหนังสือนะครับ อิๆ

แนวๆ นี้นะครับ

http://khamthai.com/word/The_Voyage_of_the_Beagle

สวัสดีครับ อ.หมู (อู๊ดๆ)

       เมื่อกี้แว่บเข้าไปชมแล้ว น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนรักการอ่านเขียนนะครับเนี่ย ไว้จะตามไปชมความก้าวหน้าอีกเรื่อยๆ

สวัสดีค่ะ..น้องซิว

พี่อ้วนเพิ่งตามมาพบเพื่อนของน้องซิวค่ะ

พี่อ้วนก็ได้รับน้ำใจจากน้องดาวเช่นกันค่ะ

เป็นเรื่องราวดังที่น้องซิว "อ่านเอาเรื่อง" แล้วมาเล่าแหละค่ะ

ท่านอารมณ์บรรเจิดมากทีเดียวแม้อยู่ใกล้กับความตาย

ท่านสมเป็น "ครูของครู"โดยแท้

คนอ่านเอาเรื่องก็สุดยอดเช่นกันค่ะ

นับถือๆ..

สวัสดีครับ พี่อ้วน

       ท่านผู้เขียนเป็นครูของครูจริงๆ ครับ ผมคิดว่าทั้งยังไม่ได้จากไปไหน เป็น "อมตะ" เพราะทุกครั้งที่เราเปิดหนังสือของท่าน ท่านก็จะชวนเราคุย แบบสนุก ไม่รู้เบื่อจริงๆ ครับ

สวัสดีครบ อ.ชิว

  • เป็นประสบการณ์ของคุณหมอที่ต่อสู้กับมะเร็งร้าย
  • เพื่อผู้อ่านจะได้ป้องกัน
  • และหาทางต่อสู้กับมะเร็งครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ ครูไข่

         ท่านผู้เขียนได้ทิ้งมรดกทางปัญญาไว้ให้กับพวกเราคนไทยครับ นี่ถ้ามีการแปลเป็นภาษาต่างประเทศนี่ ผมว่าเล่มนี้อาจจะเป็น Best Sellers อีกรอบก็เป็นได้ครับ

         ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

ธีรพนธ์ สุโขวัฒนกิจ

สวัสดีครับทุกคน เคยอ่านหนังสืมเล่มนี้แล้ว โดยได้รับมาจากพี่ที่ทำงานคนหนึ่งซึ่งทราบว่า แม่ผมเป็นมะเร็งตับอ่อน อ่านแล้วทำให้เข้าใจมะเร็งมากขึ้น ตอนนี้แม่ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แล้วเห็นจาก Internet ว่าอาจารย์ ธันญ์ ได้เขียนหนังสือ เมื่อหมอเป็นมะเร็ง ภาค2 ไว้ด้วย แต่ผมหาซื้อหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เลยครับ ไม่ทราบว่าใครรู้ว่ายังพอมีหนังสือเล่มนี้ขายที่ไหนบ้าง หรือใครพอมีให้ผมหยิบยืมอ่านบ้างมั้ยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ธีรพนธ์ 085-835-3868

ทราบว่าคุณหมอเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อไหร่คะ

เสียดายจังเลยค่ะ อยากทราบเรื่องราวที่มีอีกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท