มาถึงข้อที่ 3 ที่ดิฉันตั้งข้อสังเกตว่า ผ่านมา 5 ปี มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ขาดการมองภาพรวม เรื่องนี้ ท่าน ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย อธิบายได้เป็นอย่างดี และชัดเจนมาก ซึ่งตอนบรรยาย ดิฉันเปิด vedeo clip การบรรยายของท่านให้ดูและฟังกัน สรุปได้ดังนี้
การเสนอรายงานผลการดำเนินงาน
1. ต้องเสนอภาพรวมก่อน
แล้วจึงเสนอเฉพาะส่วนที่ต้องการรายงาน ยกตัวอย่างเช่น การเสนอข่าว
นักศึกษาชายฆ่ากันตายในหอพักเมื่อคืนนี้
ต้องมีภาพรวมก่อนว่า หอพักนี้มีสภาพเป็นอย่างไร อยู่กันกี่คน
มีกี่ห้อง นักศึกษาคนนี้อยู่ปี 1 หรือ ปี 2 ฯลฯ
แล้วค่อยมาว่ากันถึงเหตุการณ์นั้นๆ
มีประโยคที่ดีอยู่ประโยคหนึ่งกล่าวว่า In order to understand the whole you must
understand the parts and in order to understand the parts you must
understand the whole. ดังนั้น
ถ้าเราอยากจะรู้ภาพรวมทั้งหมด
ต้องเข้าใจส่วนของมันด้วย
2. เสนอภาพเคลื่อนไหวหรือภาพเปรียบเทียบด้วย ไม่ใช่เป็นแต่ภาพ static ให้เป็นแบบ dynamic หรือ comparative picture ด้วย
รูปแบบของรายงาน
อาจารย์เกษมกล่าวฝากมหาวิทยาลัยไว้ว่าอยากให้มีข้อ 3 และข้อ 4 ในรายงานด้วย จะได้รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ คิดในเชิงแข่งขันด้วยรึปล่าว?
ดิฉันได้รับความอนุเคราะห์ vedeo clip นี้มาจากท่านอาจารย์ JJ (รศ.จิตเจริญ ไชยยาคำ) นานมาแล้ว คราวที่ท่านมาเป็นผู้ประเมินคุณภาพภายในให้แก่คณะสหเวชศาสตร์ และยังเก็บไว้เตือนใจอยู่เสมอ ทั้งยังเผยแพร่ต่อๆไปตามแต่โอกาสจะอำนวย เช่นเดียวกับครั้งนี้ ขอขอบพระคุณอาจารย์ JJ เป็นอย่างสูง มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ
ขอบคุณครับ
คุณ naigod คะ ดิฉันได้แนบ File vedeo clip ไปยัง E-mail ที่ระบุไว้ เรียบร้อยแล้วนะค่ะ หากยังมีข้อขัดข้องประการใด สอบถามมาได้ทุกเมื่อค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งที่ให้ความสนใจ
อาจารย์วัลลภ คะ ดิฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถค่ะ เพราะดิฉันค้นพบแล้วว่า กำลังใจเป็นสิ่งทรงพลังเหลือหลาย ทำให้ดิฉันสามารถทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้หลายอย่างแล้ว