เป็นเรื่องของกีต้าร์ตัวแรกในชีวิตของผมครับ
เป็นกีต้าร์โปร่งธรรมดาๆตัวนึงยี่ห้อ Plombrossom(สะกดประมาณนี้มั้งครับ) ตัวละ 700 ที่ผมขอคุณย่าซื้อให้ช่วง ม.2 เพราะเห็นเพื่อนเล่นกันเลยอยากเอามาหัดบ้าง
จำได้แม่นว่าเพลงแรกๆที่หัดเล่นคือ โรงเรียนของหนู/พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ และ เสือธนพลชุดแรก น่าจะสักช่วงประมาณปี 2536-37 นี่แหละครับ จากนั้นกีต้าร์ตัวนี้ก็เป็นคุณครูสอนผมหลายต่อหลายเพลง หลายแนว เล่นทั้งวันทั้งคืนด้วยความสุขและผูกพันธ์ ในฐานะเพื่อนคนแรกในชีวิตของผมเลย
จนเข้าเรียนปวช. ผมก็ยังเล่นยังฝึกฝนตลอด ตอนนั้นหูและใจจะเริ่มแยกออกแล้วว่าตัวเองต้องการเสียงและคุณภาพกีต้าร์แบบไหน เพราะช่วงนั้นเริ่มเล่นพอฟังได้แล้วครับ และก็เริ่มประกวดโฟล์คซองกับเพื่อนๆแล้วด้วย ประมาณว่าอยากอัพเกรดแหละครับ อยากมีกีต้าร์ตัวที่เสียงดีขึ้น เป็นโปร่งไฟฟ้ายี่ห้อดังๆหน่อย เพื่อเล่นแล้วจะยืดได้ทั้งรูปทรงและพลังเสียง
วันหนึ่งผมแบกกีต้าร์ไปแกะเพลงเล่นกับเพื่อนที่หอพักเช่นเคยๆ จู่ๆก็มีพี่ชายผอมคล้ำคนหนึ่งเดินมาทักและลักษณะเหมือนมาขายอะไรบางอย่าง เราก็เลยให้เค้าลองเอาเข้ามาเสนอดู แกมาขายกางเกงยีนส์ครับบอกว่าเป็น ลีวายส์แท้(ที่ผมและเพื่อนดูเป็นบ้างหรือแกล้งเป็นเท่านั้น)ขายตัวละ 1,000
แล้วท่าทางพนักงานขายนี่เป็นสูตรสำเร็จมากเลยครับคือ ดูน่าสงสาร ผอมๆดำๆ แล้วพูดแบบหอบหอบแหบแหบ พอเราบอกไม่เอา ไม่มีตังค์ก็เสนอขายอย่างอื่นพวกแว่นตา ฯลฯ สุดท้ายก่อนจากเจอไม้ตายครับ บอกว่า "แลกกับยาม้าก็ได้นะ" พวกเราก็ฮื๊อ!!?? ตกลงนี้จะขายยาบ้าเหรอเนี้ย และก็พูดซ้ำคำเดิมสองสามเที่ยว แล้วชี้มาที่กีต้าร์ผม พวกเราเลยแปลเอาว่า ที่แกพูดว่า "แลกกับยาม้าก็ได้นะ" น่ะคือ แลกกับยามาฮ่าก็ได้ เพราะกีต้าร์ดังๆตอนนั้นก็มีแค่ยี่ฮ้อพวก YAMAHA แล้วพี่แกคงรู้จักแค่ยี่ห้อเดียวเลยคิดว่ากีต้าร์ผมเป็นยามาฮ่า เลยอ๋อกันว่าแกอยากจะแลกยีนส์กับกีต้าร์ผม
คือตอนนั้นไม่รู้อารมณ์ไหน หรือเพื่อนคนใดมายุผมให้ตอบตกลง อาจจะเพราะเห็นว่ามันคุ้มมั้ง? ก็เลยตกลงยกให้แกไปอย่างไม่คิดอะไร แลกกับบลูยีนส์ และแกก็ถือกีต้าร์, เพื่อนของผมเดินจากไป โดยที่ผมคนนี้ไม่แม้แต่จะเดินออกไปส่ง หรือชะเง้อมองจนลับสายตาเช่นคนรักเค้าทำเมื่อจากกัน
ผมและเพื่อนก็คุยถึงกางเกงกันสักพัก แล้วเล่นกันเสร็จผมก็กลับบ้าน จำไม่ได้ว่าแม่ผมถามมั้ยว่ากีต้าร์หายไปไหน ความทรงจำหลังจากนั้นไม่กระจ่างชัดนักหรอกครับ ประมาณว่าแค่เอากางเกงมาลองใส่ดูแล้วก็ใส่จริงเพียง 2-3 ครั้งเองมั้งครับ แล้วเมื่อใดผมว่างจากการเรียนและเหงา คิดอยากเอากีต้าร์มาเล่น...เค้าก็ไม่อยู่แล้ว
จำไม่ได้ว่าพี่คนนั้นให้ผมมา 2 ตัวหรือเปล่าเพราะคล้ายว่าผมจะเอากางเกงอีกตัวนึงไปขายต่อนี่แหละครับ แล้วคนที่จะซื้อบอกว่า ไม่ใช่ของแท้ หน้าซีดเลยครับผมตอนนั้น จากที่คิดว่าจะเอาเงินมาซื้อกีต้าร์ตัวใหม่ก็กลายเป็นฝันสลายไป และพอไปถามขายถูกๆ 200-300 ก็ยังไม่มีเพื่อนคนไหนพยักหน้าตอบรับซื้อซักคน
ถึงตอนนั้นแหละครับที่ผมรู้ซึ้งว่าเราตัดสินใจทำอะไรลงไปเนี่ย กางเกงตัวนั้นผมไม่ได้ใส่อีกเลยครับ มันไม่ได้สวยหรือจำเป็นกับชีวิตผมมากอย่างที่คิด นึกโทษตัวเองว่าตัดสินใจไปโดยแทบไม่คิดเลยที่ยอมแลกของรักไป หรือก็สุดแท้แต่อะไรมาบดบังให้ผมมืดบอดจากสติก็ไม่รู้ เสียใจมากเลยครับตั้งแต่วันนั้น
อยากบอกว่าผมคิดถึงกีต้าร์ของผมที่สุดเลยครับ ผมยอมแลกทุกอย่างกับเค้า หากรู้ว่ายังอยู่ดี อยู่ที่ไหนผมจะตามไปเอามาคืนครับ รู้สึกอย่างนี้จริงๆ ไม่มีวันไหนที่ผมไม่เศร้าเมื่อนึกถึงกีต้าร์ตัวนั้นเลยครับ แม้ผมจะมีกีต้าร์ตัวใหม่ ตัวที่สอง หรือตัวที่สาม
จากวันนั้นมาผมไม่เคยขายหรือแลกสิ่งใดออกจากห้องหรือชีวิตผมอีกเลย
แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆที่เหมือนไม่สำคัญ แต่ผมก็จะเก็บเค้าไว้ก่อน
จนทุกวันนี้ของเต็มห้อง ไม่มีที่จะนอนแล้วครับ :)
แต่ผมก็นึกขอบคุณอดีตในวันนั้นนะ ที่ส่งผลเตือนให้จำเสมอว่า อย่าให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นอีก
เพราะเงินนี้ไม่นานก็หาใหม่ได้มาเป็นแบงค์เหมือนๆกัน ใช้จ่ายได้และมีค่าเท่ากัน แต่ของที่เราเสียไปนั้นมีชิ้นเดียว เป็นสิ่งที่พิเศษที่สุดของเรา เพื่อเราคนเดียวเท่านั้น ที่ตกลงว่าจะผูกพันธ์กัน อย่างที่ใครก็ไม่รู้สึกได้ดีเท่าเค้าและเราครับ
คิดถึงที่สุดในชีวิตเลยครับ ฮือ ฮือ
อย่าเป็นเหมือนผมน๊า:)
เค้าคงไปดีแล้วตัดใจลืมเค้าเถิดนะคะ พี่ชายคนนั้นอาจจะดูแลเค้าได้ดี เป็นศิลปินมีฝีมือเพราะเค้าแล้วก็ได้ค่ะ
สวัสดีครับคุณเต้าเจี้ยวและคุณเทียนน้อย
ขอบคุณมากเลยครับสำหรับการมาเยี่ยมและเป็นกำลังใจ
ผมก็ภาวนาให้เพื่อนผมคนนั้นไปสอนคนอื่นให้เล่นเก่งๆละกันน๊าา และดูและเค้าแทนผมด้วยครับ :)
นำดอกมหาหงส์มาให้ดูครับ
สวัสดีครับคุณ สิงห์ป่าสัก
- เพราะคุณค่ามันอยู่เหนือมูลค่ามากมาย
- เป็นประวัติศาสตร์ของเราเอง
ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะครับ
เห็นด้วยที่สุดเลยครับ
ดีใจที่กีต้าร์ตัวนั้นได้คุณเป็นเจ้าของนะครับ :)
และเค้าคงจะบอกคุณเช่นนั้นทุกวันแน่ๆเลย ลองเงี่ยหูฟังดูนะครับ :)
แวะมาอ่านครับ คุณ adayday
สวัสดีค่ะ พอลล่าก็มีกีตาร์ตัวแรกที่เก็บเงินซื้อเองตอนม. 5 ค่ะ ยังเก้บไว้อยู่เลยค่ะ
คุณชอบเล่นกีตาร์หรือคะ ดีจังเลย..ค่ะ
สวัสดีครับคุณแสงศรี
ไม่ได้ทักทายกันนานสบายดีใช่มั้ยครับ เดี๋ยวแวะไปเยี่ยมที่บล็อกนะครับ
คุณพอลล่า
ว๊าว...ถึงขนาดเก็บตังค์ซื้อเองนี่แสดงว่าใจรักจริงนะเนี่ย
ดีใจมากเช่นกันที่รู้ว่ามีผู้หญิงเล่นกีต้าร์เพิ่มอีกคนนะครับ :)
เล่นกันต่อไปนะครับ
http://gotoknow.org/blog/childendream/239440?page=2#
เขาก็อยู่กับเรามาระยะหนึ่งแล้วละค่ะ ให้ความสุขเรามาก็พอสมควร คิดว่าเจ้าของตัวจริงมาทวงคืนแล้วกันน่ะค่ะ ชาติที่แล้วเราอาจไปยืมของเขามา .......จริงหรือเปล่านี่ แต่อย่างไรก็ขอให้มีความสุขกับทุกๆวันนะค่ะ
ขอบคุณมากนะครับพี่นิตยา จรัสแสง
รึว่าชาติที่แล้วผมยืมเค้ามาเล่นแล้วไม่คืนแน่ๆเลย ว่ามั้ยครับ :) ตามมาทวงกันก็ให้เค้าไปอย่างยินดียังไงไม่รู้ อิอิ
ขอบคุณนะครับ ขอให้พี่มีแต่ความสุขสบายใจเช่นกันครับ :)
คุณเดย์ ลองเอาเสียงที่คุณเดย์เล่นกีตาร์โหลดให้ฟังบ้างสิคะ
พอลล่าชอบฟังค่ะ
คุณพอลล่าครับ
เอาเพลงที่ผมชอบมาลงจะน่าฟังกว่าเย๊อะๆๆๆๆน๊า อิอิ
เดี๋ยวจะไปขอคำแนะนำการโหลดเพลงลงบล็อกได้มั้ยครับ อยากมีมั่ง :)
สวัสดีค่ะ เข้าไปหา code เพลงที่พอลล่าชอบ เอ๊ย ที่คุณชอบ แล้วก็อบปี้มาวางลงในบล็อก หรือถ้าจะให้ติดประจำบล็อกเลยให้ไว้ที่ข้อความด้านข้างค่ะ ถ้าไว้ที่บันทึกให้ เอาcode วางโดยกดที่ HTML ก่อนนะคะ แต่ควรระวังเรื่องลิขสิทธิ์ พอลล่าไม่ทำแล้วค่ะ เอาเพลงเราร้องดีกว่านะคะ อิอิ พอลล่าร้องเพลงเพราะ ค่ะ เชื่อไหม คริคริ
สวัสดีค่ะ
* สังขารกีตาร์เหมือนนาฬิกานะคะ
* เก็บไว้ในความทรงจำ
* สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีครับคุณพอลล่า
ขอบคุณมากๆนะครับเรื่องเพลง เอาไว้มีไอเดียดีๆแล้วจะทดลองดูนะครับ :)
ขอบคุณพี่พรรณาเช่นกันครับที่มักจะมาอวยพรให้เราสุขกายสุขใจเสมอเลย :)
ชอบจังค่ะ เรื่องราวของคุณเดย์ มีแง่มุมที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเรื่องเศร้าของคุณ แต่แป๋มอยากให้คุณพลิกมันให้เป็นโอกาส นำประสบการณ์เหล่านั้นมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดีกว่าค่ะ
บางอย่าง การคร่ำครวญไป ก็มิอาจทำให้อะไรดีขึ้น สู้เปิดมุมมองใหม่ๆแล้วก้าวต่อไปเพื่อวันแห่งชัยชนะที่สดใส รอเราอยู่ข้างหน้า ลิบๆๆๆๆนั่นไงคะ..
เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ
สวัสดีครับคุณแป๋ม
อิอิ เดย์ก็ขอมีด้านนี้บ้างนะครับ ซึ่งเป็นรสชาติที่เรียกได้ว่าเข้าปากเราเองโดยตั้งใจหรือไม่ก็แล้วแต่ และต้องลิ้มลองมัน
ผมบันทึกเรื่องนี้ไว้เพื่อเป็นการขอบคุณกีต้าร์ตัวนั้นที่ทำให้ผมสำนึกน่ะครับ :)
อยากบอกคุณแป๋มว่าที่ผมเดินทางอย่างระมัดระวังมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะการสูญเสียครั้งนี้แหละครับ :)
ผมขอบคุณเค้าทุกครั้งที่คิดถึงครับ ให้ผมไม่พลาดเรื่องใหญ่ๆต่อๆมาในชีวิต :)
"บางอย่าง การคร่ำครวญไป ก็มิอาจทำให้อะไรดีขึ้น สู้เปิดมุมมองใหม่ๆแล้วก้าวต่อไปเพื่อวันแห่งชัยชนะที่สดใส รอเราอยู่ข้างหน้า ลิบๆๆๆๆนั่นไงคะ.."
เป็นประโยคที่ปลอบโยนกันและกันได้อย่างดีเลยนะครับ ต้องขอบคุณมากๆที่เป็นกำลังใจให้ผมและเพื่อนๆชาวG2Kเสมอมานะครับ
ครูแป๋มก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่ผมยกย่องด้วย...เห็นมั้ยครับ :)