ปีใหม่ปีนี้ ๒๕๕๒ ผู้เขียนไปบิณฑบาตที่บ้านโยมหาดใหญ่... เมื่อวานตอนเย็นใกล้ค่ำได้กลับมาวัดยางทอง สงขลา ก็ได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนสหธรรมิกในวัดว่า พระไปบิณฑบาตในโอกาสเทศกาลปีใหม่ที่สวนสองทะเล แหลมสมิหรา เจ้าหน้าที่ยังไม่เอาของแห้งจากที่บิณฑบาตมาส่ง และทราบข่าวว่าวัดดอนแย้ก็เช่นเดียวกัน...
สาเหตุที่เพื่อนสหธรรมิกได้บอกเล่าผู้เขียน เพราะปีที่แล้ว เค้าไม่ได้นำมาส่ง ผู้เขียนจึงได้ไปโพสต์ไว้ที่เวบของเทศบาลซึ่งยังคงปรากฎอยู่ (คลิกที่นี้เพื่อดูความเห็นที่ทักท้วงไปเมื่อปีที่แล้ว) และปีนี้ก็เป็นเช่นเดิม...
สำหรับปีที่แล้ว หลังจากทวงถามแล้ว ผ่านไปประมาณ ๑๐ วัน ก็มีของแห้งส่งมาที่วัด จำนวน ๒ กระสอบ ทั้งๆ ที่พระ-เณรจากวัดยางทองไปทั้งหมด ๓ รูป ซึ่งตามปกติ พระ-เณรจะได้ไม่ต่ำกว่ารูปละ ๒ กระสอบ... เพื่อนสหธรรมิกพูดเปรียบเปรยกันว่า เอามาส่งให้หลุดเหมย ! (ตามสำนวนปักษ์ใต้บ้านเรา)
และวันนี้ (หลังจากผ่านหนึ่งวัน)... เพื่อนสหธรรมิกที่ไปบิณฑบาตนั้น ได้โทรสอบถามจากเบอร์โทรตามใบฏีกาที่นิมนต์มา แต่ปรากฎว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รับสายโดยตรง อาจเป็นเพราะวันหยุด หรือความเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่เทศบาล...
ดังที่ผู้เขียนเคยแจ้งไปเมื่อปีที่แล้วว่า ท่านนายกเทศบาลฯ คงไม่ทราบเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำซาก น่าจะเป็นเพราะความเหลวไหลหรือความอยากได้ของเจ้าหน้าที่บางคนบางกลุ่มซึ่งจัดการเรื่องนี้โดยตรง...
ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอใช้บันทึกนี้ ทวงถามเทศบาลนครสงขลาว่า ของแห้งบิณฑบาตปีใหม่ปีนี้ (๒๕๕๒) อยู่ที่ไหน ? ถ้ายังมีอยู่ก็ช่วยส่งมาให้ถึงมือพระวัดยางทองและวัดดอนแย้ด้วย แต่ถ้าหาไม่เจอแล้ว ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องธรรมดา...
ผู้เขียนปรารภกับเพื่อนสหธรรมิกเมื่อวานว่า เป็นพระ-เณรนี้ช่างลำบาก เพราะถ้าเค้านิมนต์แล้วไม่ไป ก็ถูกกล่าวหาว่า ขี้เกียจ ไร้เมตตา ไม่สงเคราะห์ญาติโยม...
ถ้าไปนิมนต์แล้ว กิริยาบางอย่างที่แสดงออกมา ก็อาจถูกตำหนิว่า อยากได้ ไม่ลดละเลิก ไม่น่าจะบวชเป็นพระเป็นเณร เช่น การทวงถามของแห้งจากการบิณฑบาตปีใหม่ เป็นต้น...
แต่ ถ้าเพิกเฉย ปล่อยเลยตามเลย ก็อาจถูกหัวเราะเยาะ ทำนองว่า พระ-เณรโง่งม รู้ไม่เท่าทัน เป็นเครื่องมือให้เราแสวงหาผลประโยชน์ได้...
กิจกรรมบิณฑบาตของแห้งในยุคปัจจุบันนี้ ใช้พระ-เณรและรูปแบบเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ทำนองนี้ มีอยู่ทั่วไป...
เจริญพร
เป็นพระ-เณรนี้ช่างลำบาก เพราะถ้าเค้านิมนต์แล้วไม่ไป ก็ถูกกล่าวหาว่า ขี้เกียจ ไร้เมตตา ไม่สงเคราะห์ญาติโยม...
ถ้าไปนิมนต์แล้ว กิริยาบางอย่างที่แสดงออกมา ก็อาจถูกตำหนิว่า อยากได้ ไม่ลดละเลิก ไม่น่าจะบวชเป็นพระเป็นเณร เช่น การทวงถามของแห้งจากการบิณฑบาตปีใหม่ เป็นต้น...
แต่ ถ้าเพิกเฉย ปล่อยเลยตามเลย ก็อาจถูกหัวเราะเยาะ ทำนองว่า พระ-เณรโง่งม รู้ไม่เท่าทัน เป็นเครื่องมือให้เราแสวงหาผลประโยชน์ได้...
นมัสการท่านอาจารย์
ได้ทราบว่าหลายวัดก็ไม่ได้ ตอนนี้กำลังตรวจสอบนะครับ ไม่ปล่อยคนชั่วลอยนวล
เรื่องไม่ให้เด็กวัดมาและจัดแบ่งและส่งของกลับวัดทีหลังผมไม่เห็นด้วยมาตลอดเพราะเห็นว่าไม่ใช่กิจของชาวบ้านที่มาแบ่งของสงฆ์ วิธีการแก้ปัญหาเรื่องนี้กระผมเสนอหลายครั้งแล้วว่า ทำเหมือนเมื่อก่อน คือ พระพาลูกโยมไปด้วยเหมือนเดิม แล้วส่งของบิณฑบาตกลับวัดพร้อมกับพระจะไม่มีคำครหา ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เสียงเดียวของกระผมและเพื่อน 2-3 คนก็ไม่สามารถคัดค้านได้ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ 2 ปีแล้วนะครับ ขออาราธนาคณะสงฆ์ช่วยจัดการด้วยนะครับ ได้ข่าวว่าท่านเจ้าคณะอำเภอเมือง วัดของท่านก็ยังไม่ได้ ท่านก็ยังไม่ได้ด้วยครับท่านก็กำลังตรวจสอบว่าวัดใดยังไม่ได้บ้าง งานนี้จึงบอกได้ว่า "ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล" ครับ
นมัสการด้วยความเคารพครับ