ดิฉันเกิดที่ชนบท เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน มีโอกาสดีหน่อยที่มีคุณพ่อเป็นครูใหญ่ แต่ดิฉันยิ่งภูมิใจกว่าเพราะมีคุณแม่เป็นชาวนา เชื่อไหมว่า ณปัจจุบัน 2008 คูณแม่ของดิฉัยอายุ 83 ปีแล้วแต่ท่านก็ยังดำรงอาชีพชาวนา ข้าวของท่านอร่อยเหนือใครๆเพราะเนื้อข้าวนุ่มปาก อร่อย ท่านไม่ได้ขายหรอกนะแต่ทำให้คุณลูกๆไปขอ
ก็ไม่อยากคุยนะคะว่าถ้าการทำอาจารย์ 3 เขาให้ดิฉันดำนาให้ดู ดิฉันได้ตั้งแต่อยู่ ป.1 แล้ว
ที่พูดว่าโชคดีก็คือมีโอกาสเข้ามาเรียนในตัวจังหวัดตั้งแต่อยู่ประถม เมื่อได้ทำงานก็จึงอยู่ในตัวเมือง เพราะว่าแรกเกิดเราผูกพันธ์อยู่กับธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน พอแก่ตัวไปเราจึงรู้ถึงสัจธรรมแห่งธรรมชาต(อันนี้บัญญัติศัพท์ขึ้นเอง ห้ามทำเทียมและเลียนแบบ) หมายความว่า ความเป็นจริงสิยั่งยืน ไม่ว่าเรื่องของสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ชีวิตที่ดำรงไปตามครรลองของพื้นเพแห่งขนบธรรมเนียม ประเพณี แบบเก่าๆ ที่ทุกวันนี้คนรุ่นเราๆห่างโหยหา ยังไงก็เรียคืนให้ลูกหลานไม่ได้แล้วแหละนะ
ณ วันี้มีความคิดว่าอยากไปเป็นผู้บริหารแถวๆบ้านเกิดเพื่อจะดูว่าช่วงระยะเวลา 40 ปี จะแตกต่างกันอย่างไร
รู้สึกหิวข้าวเช้าแล้ว จะไปหุงข้าวคุณแม่ทานก่อนนะคะแล้วจะมาบ่นต่อ