ฟันธง ( อีกแล้ว )
ฉันเคยเล่าเรื่องที่อธิบายไม่ได้ว่า ทำไมบางเรื่องที่แพทย์ชอบฟันธงว่าโรคหรืออาการบางอย่างไม่หายแต่กับหายมาแล้วในบันทึกก่อนหน้านี้
วันนี้ฉันจะเล่าเรื่องที่ฉันประสบกับตนเองอีกครั้ง
อาการชาจากเท้าเบาหวาน ฉันได้ยินหรือได้อ่านจากอาจารย์แพทย์ที่มีชื่อเสียงมากมายบอกว่า อาการเหล่านี้ถ้าเกิดแล้วไม่หาย อาจทรงๆหรือเป็นมากขึ้นเท่านั้น
แต่จากประสบการณ์การดูแลผู้ป่วย ฉันพบว่า การสอนให้ผู้ป่วยดูแลเท้าให้มากขึ้น ตาม 5 ขั้นตอน ได้แก่ เช็ด ตรวจ ทาโลชั่น นวด และบริหารเท้าด้วยตนเองทุกวันร่วมกับการย้ำเรื่องการดูแลตนเองตามหลัก 3 อ. คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ร้อยละ 100 ของผู้ป่วย ( จำนวนผู้ป่วยที่สุ่มติดตามทั้งหมดทั้งหมด 99 คน ) ที่ปฏิบัติตามที่สอนทุกวันอย่างสม่ำเสมอเมื่อมาตรวจตามนัดในครั้งต่อๆมา 2 - 3 เดือน ผลการตรวจเท้าพบว่า ทุกรายมีอาการชาดีขึ้น ยืนยันด้วยการตรวจโดยใช้ monofilament ที่ดีขึ้น และหลายๆราย ผลการตรวจ monofilament กลับมาป็นปกติได้
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะค่ะ
ชีวิตทุกชีวิตอยู่ได้ด้วยความหวัง อย่าฟันธงอะไรที่ทำลายความหวังของใครๆ
เห็นด้วยค่ะคุณเต้าเจี้ยว...ขอให้ทีมเบาวหวานอุดร ทุกคนมีความสุข สมหวัง ตลอดปีใหม่เทอญ
อ.ขจิต พี่สีตะวัน พี่sirirat คะ
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะค่ะ
สดชื่น รื่นเริง แจ่มใส สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
หนูเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า อาการชาเท้าของผู้ป่วยเบาหวานจะดีขึ้นหรือหายไป
หากผู้ป่วยควบคุมน้ำตาลได้ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นบริหาร นวดฝ่าเท้าเป็นประจำ
แต่พอไปคุยกับพี่ๆ ที่ทำงานด้วยกัน เค้าก็บอกว่า อาการชาเท้าจะไม่หายไป
พออ่านเรื่องเล่าเรื่องนี้แล้ว รู้สึกดีขึ้นค่ะ อย่างน้อยก็เป็นแนวทางที่จะหาขอ้ยืนยันไปบอกกล่าวให้ผู้อื่นได้เข้าใจใหม่
สร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ป่วยด้วยค่ะ....ขอบคุณค่ะ