ผมเป็นหวัดและเจ็บคอเรื้อรัง เป็นมาตั้งแต่ 1 ธค. 51 หมดยาปฏิชีวนะไปแล้ว 2 รอบ เริ่มจาก Amoxy 5-6 วัน และต่อด้วย Amoxi-Clav อีก 5-6 วัน ผลก็คือเกือบหาย ทิ้งช่วงมา 2-3 วันกลายเป็นกำเริบหนักชนิดกลืนน้ำกลืนข้าวไม่ค่อยลงอีกแล้ว และด้วยเหตุที่พรุ่งนี้มีนัดทั้งวันที่ชัยนาท โดยรถตู้จะออกจากมหาวิทยาลัยราว 6 โมงเช้า ตอนหัวค่ำจึงตัดสินใจหายาที่แรงกว่ามากินอีก คราวนี้ 7 เม็ด 450 บาทครับ เห็นว่าเป็นยานอก ชื่อ Augmentin ขนาด 1000 mg. อ่านฉลากที่อธิบายไว้ละเอียดพิศดารมาก มีข้อความบางตอนว่าอาจมีอาการแพ้ถึงตายได้ แต่ก็ยังเชื่อว่าคงยังไม่ถึงคิวเพราะเชื่อว่าผลกรรมเก่ายังมีอีกมากที่รอให้เราชดใช้
ผมกินยาก็ด้วยเกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีเสียงไปพูดที่ชัยนาท ประกอบกับรำคาญอาการเจ็บคอแบบรุนแรงที่ไม่ยอมหายเสียที
ที่มาของเรื่องการไปชัยนาทเที่ยวนี้ก็เนื่องจากท่านพี่ตุ่มของผม (ผศ.ศิริกุล ผลิศักดิ์) ได้โทรติดต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว จะเชิญไปเป็นวิทยากร อ้างว่าพบชื่อผมไปทำวิจัยร่วมกับโรงเรียนรุ่งอรุณ ก็เป็นงงเล็กน้อยเพราะจำได้ว่าไม่เคยทำ แต่ทบทวนดูก็นึกถึงงานวิจัยที่ทำกันเป็นทีมและมีการเชิญท่านรศ.ประภาภัทร มาเป็นหนึ่งในผู้ Comment งาน คุยไปคุยมาก็พบว่าเรื่อง "ฉลาดรู้" นั่นเอง ผมก็เลยคุยให้ฟังว่าได้ร่วมทีมวิจัยมาแต่ต้น ตั้งแต่งานวิจัยเอกสาร จนมาต่อยอดภาคทดลองนำไปใช้ และร่วมทีมไปเผยแพร่มาแล้วทุกภูมิภาค ส่วนหนึ่งก็เป็นงานโครงการของมูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพพระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโต) ที่มุ่งเสนอแนวทางการปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนา โดยอาศัยกรอบแนวคิดจากงานวิจัย คือยุทธศ่าสตร์ฉลาดรู้ ดังกล่าว ได้เรียนรู้อะไรมากมายทั้งที่ แพร่ อุตรดิตถ์ บุรีรัมย์ สงขลา และ กทม. น่าเสียดายที่งานดังกล่าวไม่ได้มีกระบวนการติดตามอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหมือนๆอีกหลายเรื่องในบ้านเราที่ สว่างวาบเหมือนไฟไหม้ฟางแล้วก็จางหายไป
งานวิจัย "ฉลาดรู้" นั้นเป็นความพยายามที่จะแสวงหายุทธศาสตร์ หรือรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ดี เหมาะสมกับสังคมไทยโดยมุ่งเน้นการศึกษาจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทั้งที่เป็น
- การเรียนรู้จากพระราชดำรัสและพระบรมราโชวาท
- การเรียนรู้จากบทพระราชนิพนธ์
- การเรียนรู้จากพระราชกรณียกิจ
- การเรียนรู้จากโครงการวิจัยและพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
พวกเราเรียกผลงานนี้ว่าเป็น รูปแบบการเรียนรู้ จากรอยพระยุคลบาท
หัวใจสำคัญกลั่นออกมาแล้ว ได้เป็น 4 องค์ประกอบดังนี้
1. มุ่งมั่นด้วยศรัทธา
2. ใฝ่หาความรู้คู่คุณธรรม
3. นำไปใช้อย่างฉลาด
4. ไม่ประมาทหมั่นตรวจสอบพัฒนา
ทั้ง 4 องค์ประกอบ มีคำอธิบายเพิ่มเติมดังนี้
มุ่งมั่นด้วยศรัทธา หมายถึง ความตั้งใจจริงที่จะศึกษาหาความรู้โดยมีศรัทธาที่ถูกต้องเกื้อกูลส่งเสริม ศรัทธาที่ถูกต้องนั้นเกิดจากความเพ่งพินิจพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลาง หนักแน่น สมบูรณ์ ด้วยเหตุผล
ใฝ่หาความรู้คู่คุณธรรม หมายถึง การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองในลักษณะต่อไปนี้
1. การพัฒนาตนเอง ต้องพัฒนาทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านวิชาความรู้ไว้ใช้ประกอบการ และฝึกอบรมคุณธรรม ความดี ไว้เกื้อกูลความประพฤติ
2. การเรียนรู้ ต้องให้เกิดความรู้จริง ด้วยการเรียนรู้ใน 3 ลักษณะ คือ เรียนรู้ตามความรู้ความคิดของผู้อื่น เรียนรู้ด้วยการขบคิดพิจารณาด้วยตนเอง และเรียนรู้จากการปฏิบัติ ซึ่งการเรียนรู้ทั้ง 3 ลักษณะนี้จะต้องสอดคล้อง อุดหนุน ส่งเสริมกัน การเรียนรู้เช่นนี้จะส่งเสริม คุณลักษณะที่สำคัญของชีวิต ได้แก่ ความขยันขันแข็ง ความเข้มแข็ง อดทน ความเพียรพยายาม ความละเอียดรอบคอบ
3. การเรียนรู้ ต้องเรียนรู้ด้วยจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปรกติ เที่ยงตรง และเป็นกลาง
4. การเรียนรู้ต้องศึกษาให้เห็นจริงและเข้าใจแจ่มแจ้งว่าวิชา ทั้งหลายมีความเกี่ยวโยงถึงกัน เป็นส่วนประกอบของกันและกัน และเป็นปัจจัยอุดหนุนกันอย่างแน่นแฟ้น
นำไปใช้อย่างฉลาด หมายถึง การใช้สติปัญญาประยุกต์ความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติไปใช้อย่างเหมาะสมด้วยความซื่อตรง บริสุทธิ์ใจ และมีความรับผิดชอบต่อหลักวิชาและส่วนรวม โดยมุ่งให้เกิดประโยชน์เกื้อกูลต่อตนและสังคม
ไม่ประมาทหมั่นตรวจสอบพัฒนา หมายถึง ความไม่วางใจในความรู้ว่าสมบูรณ์พร้อม ไม่เปลี่ยนแปลง ต้องหมั่นทบทวน ตรวจสอบ ปรับปรุง และพัฒนาความรู้ให้เหมาะสมกับสภาพของตนและสังคม
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เอาไว้ในทุกองค์ประกอบ ซึ่งหากนำมากล่าวถึงในที่นี้ก็จะยืดยาวเกินไป
จากผลงาน "ฉลาดรู้" ผมได้นำไปประยุกต์ ดัดแปลง เพิ่มเติม และทดลองใช้แล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทั้งที่เป็นงานวิจัยภาคปฏิบัติที่สุพรรณบุรี โดยทดลองจัดการเรียนรู้ให้กลุ่มเยาวชนที่บ้านท่าเสด็จ และการจัดการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัย ได้พบบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข สนุกสนาน และเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีกว่าแบบที่เคยทำๆมา
พรุ่งนี้ก็คงได้นำประสบการณ์ดังกล่าวไปเล่าสู่กันฟังกับนักศึกษาป.บัณฑิตวิชาชีพครู ประมาณ 30 คนที่ศูนย์การศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมที่ชัยนาทครับ .. ตั้งใจว่าจะดำเนินการดังนี้
- ชวนคิดชวนคุย เรื่องสังคมไทย กับปัญหาการศึกษาด้อยคุณภาพ
- แนะนำความเป็นมา และลักษณะของ ยุทธศาสตร์ "ฉลาดรู้"
- แบ่งกลุ่มระดมความคิดเพื่อ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวทาง "ฉลาดรู้"
ในเนื้อหาสาระที่แต่ละกลุ่มเลือก
- นำเสนอผลงาน และรับคำวิพากษ์วิจารณ์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
แต่ทั้งหมดก็คงปรับเปลี่ยน ยืดหยุ่นไปตามสภาพการณ์ครับ ผลเป็นอย่างไรคงได้นำมาบอกกล่าวกันในโอกาสต่อไป
ไม่ได้ติดสอยห้อยตาม เลยต้องแอบมารับความรู้ก่อนใคร ๆ ค่ะ ^_^
ขอบพระคุณค่ะ
ท่านอาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
-ขอบคุณค่ะ
-มาเรียนรู้ค่ะ
1. มุ่งมั่นด้วยศรัทธา
2. ใฝ่หาความรู้คู่คุณธรรม
3. นำไปใช้อย่างฉลาด
4. ไม่ประมาทหมั่นตรวจสอบพัฒนา
- 4ข้อหลัก ทำเป็นประจำจึงจะได้ชื่อว่าฉลาดรู้
ขอนำไปปฏฺบัติ และขยายผลกับเด็กน้อย และพัฒนาตนเองค่ะ
-ขอให้อใมีความสุข กายสุขใจยิ่งๆ ขึ้นไป
-จิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ครูต้อยเคยเป็นเรื้อรัง คือเป็นนาน เกือบ 1เดือน ทรมาน เพราะทำให้คอแห้ง หิวน้ำแต่กลืนไม่ลง คิดให้ขำ ก็ดี จะได้ลดน้ำหนักลง อิอิ
ขอให้อาจารย์หายเร็วๆนะคะ เรื่อง"ฉลาดรู้" นี่เป็นประโยชน์ลึกซึ้งมากค่ะ คงต้องมีคนซักถามพูดคุยกับอาจารย์มากมาย
ได้รับฟังท่านอาจารย์พินิจพูดคุยในหัวข้อ ฉลาดรู้ แล้วมีความศรัทธาในตัวของท่านอาจารย์มากๆ ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์มากๆเราได้รับความรู้และคำว่า ให้ อย่างไม่ไม่สิ่งตอบแทนนั้นเป็นอย่างไร (มันชั่งตรงกับคำที่ว่ายิ่งคุณให้ผู้อื่นมากเท่าไร ท่านจะเกิดความสุขแก่ตัวเองเท่านั้น)และที่ลืมไม่ได้เลยคือท่านอาจารย์ศิริกุล ที่เปิดโอกาสให้คณะเราได้รับรู้ในสิ่งที่ดีๆมาโดยตลอด ตัวกระผมและเพื่อนๆ ป.บัณฑิต รุ่น 4 เชื่อว่าการที่ได้มาเรียนที่ ม.รภ.จันทรเกษม(ชัยนาท สรรคบุรี)แห่งนี้เราได้รับโอกาสที่ดีที่สุดและมากกว่าการเรียน ป.บัณฑิตที่ใหนๆครับ ขอบพระคุณครับ
ขอฝากเรื่องฉลาดฟังเข้าไปแจมด้วยนะครับ
เรียน ท่านพี่ Handy มาเรียนรู้ และ ให้กำลังใจท่านพี่ครับ
สวัสดีครับ