แม้การเดินทางครั้งนี้จะมีหลายองค์กรเข้าร่วม...ไม่เว้นแม้กระทั่งกลุ่มไหลน้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาร่วมสมทบทุนอาสาในครั้งนี้ด้วย...ผมถูกถามจากเวทีที่พี่พนัสได้มีการสัมภาษณ์และบันทึกวีดีโอ...
ว่าทำไมไหลจึงได้เข้าร่วมโครงการนี้...“ ถือว่าเป็นเรื่องอัตโนมัติ เข้าร่วมโดยไม่ต้องคิดและรีรอ...สืบเนื่องจากการที่ได้ให้และบรรเทาทุกข์ของกลุ่มไหลที่ร่วมกับกองกิจการนิสิต จากโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมรอบมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่ผ่านมา...ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี...เสื้อผ้า และเงินกองทุนก็ยังพอมีที่จะร่วมสบทบทุนแสดงน้ำใจต้านภัยหนาว”...ผมตอบผ่านไอหมอก จากใจที่แสดงถึงเจตนาอันบริสุทธิ์ของกลุ่มไหล แม้ว่าการมาครั้งนี้จะมีสมาชิกของกลุ่มมาร่วมเพียงแค่ 3คน รวมตัวผมเท่านั้น...
ท่ามกลางความเหน็บหนาวที่ยังคงพัดมากระทบทำร้ายกาย...ณ เวทีร่วมเสวนาของพวกเราอยู่ตลอดเวลา...แต่ผมก็ยังเชื่อว่าการพัดพาของลมหนาวครั้งนี้จะเป็นสัญญาณที่ดีและหวังว่ามันจะทำลายกำแพงของวัฒนธรรมต่างๆองค์กรหลากหลายที่มาร่วมกันทำกิจกรรมครั้งนี้ ให้มีการช่วยเหลือ พูดคุยแลกเปลี่ยน และทำงานร่วมกันได้ดีในงานครั้งนี้และเป็นภาคีที่จะร่วมงานกันอย่างต่อเนื่องและยาวนานตลอดไป...
ด้วยจิตอันบริสุทธิ์จากไหลต้นหนึ่ง...แด่ผองเพื่อนผู้มีจิตอาสาและศรัทธาอันแรงกล้า...
เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และท้าทายในมิติการทำงานร่วมอย่างหลากหลายองค์กรเป็นที่สุด กิจกรรมนี้อาจไม่หยั่งลึกลงสู่ประเด็นทางชุมชน ซึ่งหมายถึงสังคมวิทยา มนุษยวิทยา แต่ภายใต้เวลาอันจำกัดและการงานอันหลากหลาย (ที่เป็นรูปธรรม) ก้ถือว่า ประสบความสำเร็จกันมากโข
สิ่งที่เหลือคือการเดินหน้า... นี่คือสิ่งที่ชัดเจนกันโดยด่วย , กระมัง
ได้บรรยากาศจังน้องมะเดี่ยว
หวลกลับไปคิดถึงเมื่อพี่เรียนที่รามและไปออกค่าย จังหวัดปราจีนบุรี
(แก่ไปหรือเปล่านึกถึงความหลัง)
ฝากหมอนมาห่มหนาวด้วยคนนะเดีย
ไม่ได้ไปด้วยเสียดยจัง โอกาศหน้าคงมีแน่
ขอชื่นชมกับการทำกิจกรรมดี ๆ ซึ่งในขณะที่เราสบาย แต่เรายังนึกถึงบางคนที่เขาต้องเจอภัยหนาว อยากจะให้เยาวชนรุ่นใหม่ ๆ วันรุ่นหันมาทำอะไรดี ๆ เพื่อสังคมบ้างจัง
สวัสดีท่านประธาน