ต้านลมหนาวสานปัญญา : ความพยายามอันแสนงามของหนุ่มสาวในรั้ว "มมส"


ไม่ได้ไปแต่ก็ยังได้ร่วมทำบุญ



ช่วงเที่ยงของเมื่อวาน(๙ธันวาคม๒๕๕๑) ผมถือโอกาสแวะเข้าไปให้กำลังใจแก่นิสิต ที่กำลังเล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่ที่โรงอาหารกลางเพื่อขอรับบริจาคเงินทองและสิ่งของต่าง ๆ เข้าสู่โครงการ “ต้านลมหนาวสานปัญญา”ที่กำลังจะขึ้นในห้วงวันที่ ๑๒ – ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๑ ณ บ้านหนองหญ้าปล้อง และโรงเรียนเหล่าภูพาน ตำบลแซงบาดาล อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์





ในราว ๆ ปี ๒๕๓๘พรรคชาวดินเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกจากนั้นก็จัดกิจกรรมดังกล่าวเรื่อยมาอย่างต่อเนื่องบางปีจัดเพียงองค์กรเดียว แต่บางปีเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่จากชมรมต่างๆ เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมนี้



กระทั่งปลายปี ๒๕๔๙ผมเข้ามารับงานบริหารของกลุ่มงานกิจกรรมนิสิต จึงมอบแนวคิดให้เจ้าหน้าที่ร่วมผนึกกำลังกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมดังกล่าวให้เข้มแข็งและเข้มข้นขึ้นโดยสร้างกิจกรรมแบบบูรณาการเข้ามาเติมเต็มการเรียนรู้และเน้นให้นิสิตนำทักษะความรู้ที่มีอยู่กับตัวเองไปให้บริการแก่สังคม



ด้วยเหตุดังกล่าวนี้“ต้านลมหนาวสานปัญญา”จึงไม่เพียงแค่เป็นกิจกรรมที่มุ่งเดินทางไปมอบสิ่งของเครื่องกันหนาวให้กับเด็กและชาวบ้านในท้องถิ่นที่ประสบภัยหนาวเท่านั้นแต่ยังเน้นกิจกรรมในด้านการศึกษาเข้าไปด้วยโดยบางปีมีทั้งการซ่อมแซมอาคารเรียนสร้างหอพระซ่อมบำรุงห้องสมุดผลิตสื่อการเรียนการสอนตรวจสุขภาพ ฯลฯ





นปีนี้ก็เช่นเดียวกันภายหลังการกลับมารับตำแหน่งเพียงไม่ถึงสัปดาห์ผมก็กระตุ้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับนิสิตและเจ้าหน้าที่ได้หยิบเอาโครงการนี้ขึ้นมาขับเคลื่อนโดยเร่งด่วนพร้อม ๆ กับการย้ำให้จัดกิจกรรมเป็นมหกรรมซึ่งหมายถึงการระดมพลังตั้งหน่วยรับบริจาคให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ้าเป็นไปได้ ก็ให้ทยอยเคลื่อนตัวออกไปยังชุมชนให้ได้มากกว่า ๑ ครั้ง



ในทุกปีเรามักประสบปัญหาเรื่องการระดมเงินทุนเสมอเพราะเมืองมหาสารคามเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เติบโตและหยัดยืนอยู่ได้ด้วยธุรกิจการศึกษาในยามที่ต้องตระเวนออกขอรับการสนับสนุนจากห้างร้านในจังหวัดจึงมักเต็มไปด้วยความฝืดเคือง ดังนั้นในแต่ละปีเราจึงจำต้อง “ขับพลัง”ภายในจิตใจของแต่ละคนออกมาหลอมรวมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สามารถเคลื่อนลำเรือแห่งความหวังนี้ไปสู่ฝั่งฝันให้จงได้



จากสภาพการณ์ดังกล่าวนี้นิสิตจึงจำต้องลงแรงกันขนานใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งทุนรอนและสิ่งของเพื่อเข้าสู่กระบวนการของกิจกรรมดังนั้นแนวทางที่จะให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงจำต้องหันเหมาสู่การ “วิธีการ”ที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด นั่นก็คือการทำเสื้อขายตีกลองร้องเพลงเพื่อขอรับบริจาคในทุก ๆ เย็นอย่างไม่ย่อท้อพร้อม ๆ กับการ “แอบ” ลงขันส่วนตัวของนิสิตก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งด้วยเหมือนกัน



ปีนี้, นิสิตยังคงเดินหน้าทำงานเรื่องนี้อย่างไม่ย่อท้อหลายคนและหลายองค์กร “เทใจ”ให้กับกิจกรรมนี้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยในวันที่ผมเดินทางไปสู่ “เมืองปาย”ก็ยังยกโทรศัพท์ถามถึงความคืบหน้ากับแกนนำอยู่เป็นระยะ ๆพร้อม ๆ กับการควักเงินส่วนตัวเป็นค่าจัดการเรื่องเครื่องเสียง เพื่อให้การเล่นดนตรีประชาสัมพันธ์กิจกรรมไม่หยุดชะงักโดยมีนิสิตหลายคนและหลายองค์กรก้าวขึ้นเวทีช่วยกันอย่างน่ายกย่อง



ลงแรงเย็บหนังสือทำมือเพื่อให้ชาวค่ายได้บันทึกและถอดบทเรียน




..

เหน็บหนาวสักปานใด
ทางไกลสุดมองเห็น
แต่ใจไม่ชาเย็น
พลังใจยังโลดเต้นเป็นศรัทธา




เสื้อที่จัดทำขึ้นเพื่อจำหน่ายสมทบทุนจัดกิจกรรม ในราคาตัวละ ๑๕๐ บาท




ในปีนี้ผมฝากแนวคิดให้นิสิตเพิ่มกิจกรรมมาอีก ๑ อย่าง นั่นคือแทนที่จะบรรจุเสื้อผ้าและสิ่งของต่าง ๆ ตามลำพังเฉพาะทีมงานแต่ให้นำออกมาจัดเตรียมในที่สาธารณะเพื่อให้หลายคนได้รับรู้และรับทราบถึงสิ่งอันดีงามที่เราปรารถนาจะให้มีขึ้นตามแต่ศักยภาพที่เราพอจะทำได้



วิธีการดังกล่าวนี้ผมเพียงแต่ต้องการให้นำเสื้อผ้า ตุ๊กตาต่าง ๆ มาซักและผึ่งแดดให้แห้งเป็นการทำความสะอาดต่อสิ่งที่จะนำไปมอบให้กับเด็กและชาวบ้านขณะเดียวกันก็แอบหวังอย่างลึกเร้นว่ากิจกรรมที่ทำขึ้นนั้นจะเป็นการประชาสัมพันธ์โหมโรงในอีกรูปแบบหนึ่งรวมถึงการเปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่ไม่สามารถเดินทางไปกับเราได้ก็ให้สามารถแวะเวียนมาร่วม “ลงแรง”จัดแต่งสิ่งของต่างๆ ร่วมกับเราได้อย่างไม่ตกหล่น เรียกเป็นภาษาพื้น ๆ ก็คือการ“ไม่ได้ไปแต่ก็ยังได้ร่วมทำบุญ”ดี ๆ นั่นเอง



ดังนั้นจากเมื่อวานจนถึงวันนี้ยุ่งยากสักแค่ไหนผมก็ไม่ลืมแวะไปให้กำลังใจแก่นิสิตที่ยังต้องลุยงานด้านนี้ทั้งภาคกลางวันและกลางคืนพร้อม ๆ กับการมอบเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นค่าขนมนมเนย เพื่อให้กองทัพมีพลังเดินทัพต่อไป









ถึงแม้ปีนี้เสื้อผ้าที่ได้มาจะมีจำนวนมากกว่าปีที่แล้วแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเสื้อกันหนาว ตุ๊กตาและผ้าห่มนั้นดูจะมีจำนวนน้อยนิดอย่างเห็นได้ชัดและเสื้อผ้าที่ว่านั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไม่มีเสื้อผ้าใหม่ ๆ เหมือนทุกปีเราจึงต้องคัดแยกสภาพที่ดีที่สุดไปมอบให้กับเด็กๆ และชาวบ้านรวมถึงการขับพลังในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้มีเงินพอที่จะซื้อผ้าห่มผืนใหม่เติมเต็มเข้ามาให้พอเพียงกับจำนวนนักเรียนที่มีอยู่ร่วม ๆ ๖๐ คน






จากสภาพการณ์ดังกล่าวเราเองก็วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เกี่ยวข้องซึ่งต่างก็พอสรุปโดยรวมได้ว่าทั้งเงินและสิ่งของที่ได้กลับมาต่ำกว่าเป้านั้นเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดีอีกทั้งในช่วงที่เกิดภัยน้ำท่วมนั้นหลายต่อหลายคนในประชาคมมหาวิทยาลัยที่ประกอบด้วยนิสิต บุคลการและพ่อค้าแม่ขายต่างก็เทใจช่วยเรามามาแล้วอย่างมหาศาลพอมาถึงภัยหนาวในจังหวะนี้จึงอาจช่วยเหลือเราได้อย่างไม่เต็มกำลังเหมือนที่เคย แต่ทั้งปวงนั้น ก็ถือว่า “สุดยอด” แล้ว



แน่นอนครับสำหรับการทำความดีของผองเรา- เราต่างตระหนักอย่างหนักแน่นเสมอมาว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นการทำกันด้วยใจไม่เกี่ยงงอนต่อจำนวนมากน้อยของสิ่งของเพราะจำนวนที่ว่านั้นหาใช่ตัวชี้วัดคุณค่าในสิ่งที่กำลังลงมือทำและการเทใจของนิสิตผู้ซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยก็หมายถึงการยืนยันให้รู้ว่าในความหลากหลายของหนุ่มสาวที่กรีดกรายอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อนั้นก็ยังมีคนดี ๆที่คิดดีและปรารถนาทำสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมอยู่อย่างไม่แห้งผาก



ความพยายามอันแสนงาม
มีอยู่ในทุกห้วงยามของจิตใจ
งดงามตามการ
“ให้”
ยิ่งใหญ่และไร้พรมแดน





นี่คือ บันทึกที่ผมปรารถนาจะเขียนเพื่อจารึกเรื่องราวของหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยไว้เพราะ “ความพยายามอันแสนงาม” ของพวกเขาควรค่าแล้วต่อการยกย่องและสถาปนาขึ้นเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของกิจกรรมในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างที่สุด



และระยะเวลามากกว่า ๑๐ปีที่กิจกรรมนี้หยัดยืนต้านลมหนาวมาอย่างยาวนานนั้น ได้พิสูจน์แล้วว่าความพยายามอันแสนงามของนิสิตนั้น เป็นความดีงามของโลกและชีวิตด้วยเช่นกัน


และเมื่อต้านลมหนาวสานปัญญาครั้งใหม่เกิดขึ้นผมเองก็เชื่อเหลือเกินว่าเราจะทำอะไรได้มากกว่านี้และดีงามได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน





ข้อมูลเพิ่มเติม
รายชื่อองค์กรนิสิตที่เข้าร่วม
“ลงแรง”เป็นส่วนหนึ่งกับกิจกรรมนี้

  • พรรคชาวดิน
  • พรรคช่อราชพฤกษ์
  • กลุ่มไหล
  • ชมรมนอกหน้าต่าง
  • ชมรมรักษ์พัฒนา
  • ชมรมสิ่งแวดล้อมเพื่อชุมชน
  • ชมรมยุวชนเพื่อประชาธิปไตย
  • ชมรมนักวิทยุสมัครเล่น
  • ชมรมทอฝัน
  • ชมรมสานฝันคนสร้างป่า
หมายเลขบันทึก: 228660เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2008 20:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มกราคม 2016 00:27 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

แวะมาดูกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมครับ

เห็นแล้วก็ชื่นใจ ครับ คณะครูและนิสิต ทุกคนครับ

ทำกันจริงจังมากครับ

ไม่ได้ไป..ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยคน..เหมือนกันค่ะ..

น้องนิสิตน่ารักจังค่ะ..

หอมกลิ่นบุญ..ตลบอบอวลเลยนะคะ..

^^

เป็นกิจกรรมที่ดีมากค่ะ เด็กๆช่วยกันทำงาน น่าชื่นชมค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • มาชื่นชมและให้กำลังใจค่ะ
  • ความพยายามอันแสนงาม
    มีอยู่ในทุกห้วงยามของจิตใจ
    งดงามตามการ “ให้”

    ยิ่งใหญ่และไร้พรมแดน
  • กิจกรรมดี เรียนรู้สู่สังคมนะคะ
  • นิสิตที่ มมส โชคดีมีพี่ชายคนนี้คอยชี้ทางเดินเพื่อการก้าวเดินอย่างเข้มแข็ง หนักแน่น สู่โลกกว้างด้วยตนเองในวันข้างหน้า เค้าจะไม่ลืมกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคมค่ะ

สวัสดีครับ  ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee

กิจกรรมนี้ทำกันมายาวนาน  ประสบการณ์หลายเรื่องถูกนำมาขยายผล และพลังใจก็ถูกสั่งสมไว้มากเช่นกัน

เรารอเวลาที่จะยกฐานะกิจกรรมนี้จากแค่ในระดับของกองกิจการนิสิต กับนิสิต ไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยอย่างเต็มรูปแบบ   และผมก็ยังตั้งใจไว้เช่นนั้นจริง

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะครับ...

 

มาชม เห็นเป็นกิจกรรมดีมีประโยชน์นะ

  • ตามมาชื่นชม
  • โอโหไปหลายกลุ่มมากๆๆ
    • พรรคชาวดิน
    • พรรคช่อราชพฤกษ์
    • กลุ่มไหล
    • ชมรมนอกหน้าต่าง
    • ชมรมรักษ์พัฒนา
    • ชมรมสิ่งแวดล้อมเพื่อชุมชน
    • ชมรมยุวชนเพื่อประชาธิปไตย
    • ชมรมนักวิทยุสมัครเล่น
    • ชมรมสานฝัน
    • ชมรมสานฝันคนสร้างป่า
    • มีกลุ่มขวัญใจของผมด้วย
    • กลุ่มไหล
  • ปีนี้หนาวจริงๆๆ
  • ขอให้นิสิตได้มีนิสัยเสียสละ
  • ไม่ทิ้งพื้นฐานที่เป็นชาวชนบทก็ดีแล้วครับ
  • ขอบคุณครับ
  • ส่งใจช่วยนะครับบอสส
  • ยังไงแล้วก็ยังคิดถึงอยู่เสมอ
  • แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยทั้งแรงงานและแรงศรัทธา
  • แต่ทว่าก็เอาแรงใจช่วยอย่างเต็มที่ครับ
  • สู้ๆ......แบบเก๋ๆ
  • ดีใจครับ ที่ได้เห็นกิจกรรมดีดี
  • สวัสดีครับ ท่านพี่แผ่นดิน
  • ผมเห็นแล้วนึกถึงตอนเรียนป.ตรี ตอนออกค่ายไปช่วยกิจกรรม ค่ายอาสา ครับ
  • หนุ่มสาว ดูท่าทางขันแข็งกันน่าดู
  • อิอิ(แหม กระผมเองก็ 25 เอง แต่พ้นช่วงนั้นมานานมากแล้วครับ สงสัย แก่แดด)

สวัสดีครับ . คนโรงงาน

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ.

กิจกรรมนี้  ผมคิดเองเงียบ ๆ ว่าปรารถนาที่จะยกระดับของกิจกรรมขึ้นสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยฯ  ซึ่งหมายถึงการเป็นกิจกรรมหลักที่บรรจุไว้ในแนวคิดของการให้บริการแก่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม

และคิดว่า, ...  ถ้าไม่ท้อเสียก่อน  แนวคิดนี้คงเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างไม่ยากเย็น

ขอบคุณครับ

สวสดีครับ คุณครูแอ๊ว

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ  อย่างไรเสีย  ผมจะทำบุญเผื่อนะครับ และจะไม่ลืมหอบบุญกลับมาฝากด้วยเช่นกัน

ต้านลมหนาวสานปัญญา  เป็นอีกงานที่วัดกันด้วยใจ และทุกคนก็ "เทใจ"  ให้อย่างเข้มข้น  โดยพรุ่งนี้ชุดใหญ่จะเดินทางไปยังชุมชน  ส่วนผมจะตามไปตอนเย็น  คงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกมากเหมือนกัน

...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ พี่ใบบุญ

กิจกรรมครั้งนี้  ร่วมกันหลายชมรมครับ  บางชมรมถึงขั้นร่วมสมทบทุนเป็นหมื่น  ส่วนชมรมที่มีตังค์น้อยก็สมทบประมาณพันบาท 

นี่เป็นพลังที่สดใสและน่ายกย่องเป็นที่สุด..  ผมเองก็ชื่นชมในตัวของพวกเขาเป็นยิ่งนัก  ดังนั้น  วันสองวันจากนี้ไป  จึงต้องร่วมเดินทางไปให้กำลังใจกับพวกเขาอย่างเต็มที่ .

สวัสดีครับ ครูคิม

สัญญาครับว่าจะทำให้ดีที่สุด  และลมหนาวที่อีสาน  หนาวไม่แพ้ที่อื่น ๆ  ซ้ำร้ายยังมีลมพัดแรงอีกต่างหาก  ผิวพรรณจึงแห้งระแหง 

โครงการดักงล่าวนี้  มีกิจกรรมหลายอย่างน่าสนใจมาก  เป็นการทำงานอย่างเข้มข้นในเวลาอันจำกัด  และเท่าที่ทราบ  เห็นว่าจะมีคนเข้าร่วมโครงการมากมิใช่น้อย  ซึ่งนั่นหมายถึงไม่น่าจะต่ำกว่า 100  คนโน่นแหละครับ

 

  • กิจกรรมดี
  • สิ่งดีๆ ที่คนในสังคมร่วมกันทำ
  • ทำให้สังคมดีๆ ขยายออกไปมากขึ้น
  • ตามมาดูสิ่งดีๆ เพื่อเพิ่มกำลังใจในชีวิตค่ะ

สวัสดีครับ  ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

สำหรับกิจกรรมนี้เป็นความร่วมมือกันขององค์กรต่าง ๆ รวมถึงกองกิจการนิสิต  โดยผมเป็นคนให้แนวคิดว่าควรทำกันแบบเป็นเครือข่ายและทำกันให้ต่อเนื่อง  ถ้าไม่นับที่ "พรรคชาวดิน"  จัดมาเองหลายปีสิบี กิจกรรมนี้ก็เดินทางมาเป็นครั้งที่ 3  แล้ว  จากชยภูมิ มาอุดรธานี และปีนี้ก็ กาฬสินธุ์

 

 

สวัสดีครับ อ. umi

กิจกรรมนี้กองกิจการนิสิต นำงบประมาณส่วนหนึ่งไปสมทบ  ที่เหลือองค์กรนิสิตต่างช่วยกัน  ทั้ง "ลงขัน"  และขอรับบริจาค  โดยมหวังว่า กิจกรรมนี้จะสอนให้นิสิตเรียนรู้การทำงานร่วมกันอย่างหลากหลายองค์กร

และคิดว่า มาถึงตอนนี้แล้ว  นิสิตคงมองประเด็นนี้ชัดขึ้นแล้วด้วยเช่นกัน

ขอบคุณครับ

สวัสดครับ พี่ ขจิต ฝอยทอง

กิจกรรมนี้  นิสิตเลือกพื้นที่ที่ไม่ไกลนัก  เพราะไม่อยากประสบปัญหาเรื่องงบประมาณในการเดินทาง  แต่ถึงขนาดนี้ ยังต้องเช่าเหมารถหกล้อตั้ง 4 คันเลยนะครับ เนื่องจากมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมค่อนข้างมาก

จึงหวังแต่เพียงว่า  น้องนิสิตจะเห็นมิติของการทำงานร่วมกัน  เรียนรู้วัฒนธรรมของเพื่อนต่างองค์กร  รวมถึงเรียนรู้การช่วยเหลือชุมชน ภายใต้กรอบความเป็นจริง  ซึ่งหมายถึงความต้องการของชาวบ้าน และความสอดคล้องกับศักยภาพที่ตนเองมีอยู่

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  ขุนแผ่นดินเย็น

  • ขอให้ฝึกงานอย่างมีความสุข
  • อย่าห่วงทางนี้มากนัก อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
  • แต่ทางนี้ก็มีขุมกำลังพอขับเคลื่อนงานได้
  • สำคัญก็คือ ...
  • ชาว มมส เราไม่สิ้นศรัทธาที่มีต่อสังคม -
  • ....
  • คิดถึงเช่นกัน ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท