อย่านินทา อย่าวิจารณ์ อย่าติเตียนผู้อื่น
ชีวิตคนเราทุกวันนี้ย่อมมีความผูกพันธ์กับผู้อื่นมากมาย ในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันย่อมมีการกระทบกระทั่ง มีทั้งส่วนดี และไม่ดีในตัวเราเอง ซึ่งเราจะไม่ค่อยรู้ตัว ใช่ใหมคะ การนินทาว่าร้ายกันจึงเป็นธรรมชาติของคนในสังคม
คนส่วนมากพยายามบอกว่าเขาเป็นคนใจกว้าง สามารถรับการวิพากษ์ วิจารณ์ได้
แต่จริง ๆ แล้วเขาอยากได้รับคำชมเชยจากผู้อื่นมากกว่า
และจงอย่าสำคัญตัวเองผิด คิดว่าตัวเองมีสิทธิ มีอำนาจ หรือมีความสามารถที่จะพิพากษาการกระทำใด ๆ ของผู้อื่นได้ว่าถูกหรือผิดนะคะ
การนินทา วิจารณ์ ติเตียนนั้น ส่วนมากเป็นการยกตนเองและจับผิดคนอื่น ผลก็คือ เราก็ไม่เป็นสุข คนถูกติเตียนก็ไม่เป็นสุข
บรรยากาศไม่น่าอยู่ เกิดพลังความร้อนของความก้าวร้าวรอบ ๆ ตัวมากขึ้นทันที
เป็นการสร้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีให้คนอื่น
และเป็นการสร้างปมปลอมให้กับตนเอง ทำให้เสียนิสัย ชอบยกตน ทำให้ชอบคิดว่าตัวเองเป็นเทวดา คนอื่นเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ด้อยกว่า
จึงเที่ยวไปว่า ตำหนิ หรือตัดสินคนอื่นเขาอย่างไม่เกรงใจ
และเป็นการสำคัญตัวเองผิด หลงตัวเองอย่างน่าเกลียด
ซึ่งจะกลายเป็นนิสัยที่น่ารังเกียจต่อไป
มีคาถาแห่งการอยู่อย่างมีความสุข และอยู่ในสังคมได้อย่างสบาย คือ "ให้อภัย ไม่ถือสา ไม่ให้ด่า ไม่ให้โกรธ"
ท่องให้ขึ้นใจนะคะ แล้วเราจะมีความสุขค่ะ
เจริญพร โยมครูมาลี
โทษคนอื่นเห็นเท่าภูผา
แต่โทษตนเองไม่เห็น
นั่นเป็นธรรมชาติของคนที่มักจะมองคนอื่น
เจริญพร
"ให้อภัย ไม่ถือสา ไม่ให้ด่า ไม่ให้โกรธ"
สวัสดีคะ
ไม่อยากให้มีการนินทา
ตอนนี้เริ่มเบื่อมาก ๆ
เมื่อมีคนมาเล่าเรื่องของคนอื่นให้ฟัง
ชอบจัง..อย่านินทา.งอย่าวิจารณ์..อย่าติเตียนผู้อื่น
จงมองเชิงบวก..พูดอย่างสร้างสรรค์นะคะ
การอยู่อย่างมีความสุข และอยู่ในสังคมได้อย่างสบาย คือ "ให้อภัย ไม่ถือสา ไม่ให้ด่า ไม่ให้โกรธ"
มีความสุขนะคะ
เห็นด้วยคะ รู้ดีขึ้นเยอะเลยคะเมื่อได้อ่านข้อความที่เป็นคำสอนเหล่านี้
สุขภาพทางจิตใจดีขึ้นมากคะ