แนะนำริเวียร่า...เริ่มต้นที่ Cassis


Frédéric Mistral นักเขียนซึ่งเป็นชาว Provence ผู้ได้รับรางวัลโนเบลทางด้านวรรณกรรม กล่าวว่า "ใครได้เห็นปารีส ถ้าไม่ได้เห็น Cassis ถือว่าไม่ได้เห็นอะไรเลย"

 

 

 

Riviera เชื่อว่าหลายๆท่าน คงจะเคยได้ยินชื่อเสียงกันมาบ้างแล้ว หากใครยังจำได้ "ริเวียร่า" นี้ ก็อยู่ในบทเรียนวิชา ส.ป.ช. (รู้มั้ยครับแปลว่าอะไร... ส.ป.ช. คือวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต) ที่นั่นแหละครับ...ที่ผมรู้จักกับ "ริเวียร่า" เป็นครั้งแรก

"เฟรนซ์ ริเวียร่า" ที่ชาวฝรั่งเศสมักเรียกหรือรู้จักกันในนาม Côte d'Azur (โกต ดาซูร์) เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (méditerranée) อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ติดกับชายแดนอิตาลี เริ่มต้นตั้งแต่เมือง Cassis จนไปถึงเมือง Menton มีเมืองสำคัญๆที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้ อยู่หลายเมือง เช่น Cannes, Grasse, Antibes, Nice, Monaco Monte-Carlo เป็นต้น




แผนที่แสดง "เฟรนซ์ ริเวียร่า" ลองดูเอานะครับ ขอบคุณภาพประกอบนี้จากเว็บ Wikipedia ด้วยครับ

ผมคิดว่าตัวเองโชคดีมากนะครับ ได้โอกาสจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้มาศึกษาอยู่ที่นี่ แถมยังส่งมาให้อยู่ในที่ดีๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลายๆคนฝันหา เอาเป็นว่าถ้าผมยังอยู่เมืองไทยทำงานต่อไปเรื่อยๆ ก็คงอยากมาเที่ยวบ้าง แต่ไม่มีทางได้มา

แต่ในเมื่อมีโอกาสแล้วมาอยู่ถึงตรงนี้แล้ว เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง (อันนี้เป็นการเปรียบเปรย) แล้วจะไม่ไปได้อย่างไรครับ ..ข้างบ้านผมเค้ายังไปเลย...

ต่อไปนี้ "นาย Pompier" จะค่อยๆ พาเพื่อนๆ เลาะชายฝั่ง "เฟรนซ์ ริเวียร่า" เที่ยวกันไปทีละเมืองสองเมือง ติดตามชมกันด้วยนะครับ

...ผมขอเริ่มต้นแบบใกล้บ้านที่สุด เหมาะกับการต้อนรับฤดูร้อนเช่นนี้ เดินทางไปไม่ไกลนักประมาณ 50 กิโลเมตร จะถึงเมือง Cassis (อ่านได้สองแบบ คือ กา-ซี หรือ กา-ซีส อันนี้ อ้างอิงจากพจนานุกรมฝรั่งเศส "Petit Robert" แต่พวกเราหลายๆคนชอบอ่านว่า กา-ซีส รวมทั้งผมด้วย) เมืองนี้ผมเคยไปมาแล้ว 2 ครั้งนะ สำหรับที่นี่ให้ไปอีกก็ยังอยากไป

ตอนที่ไปครั้งแรกนั้น ฝรั่งเศสเป็นช่วงที่เค้าส่งเสริมมรดกของชาติ เรียกว่า "Les Journées du patrimoine" ผมขอแปลว่า วันส่งเสริมมรดกชาติก็แล้วกัน เป็นช่วงสั้นๆ 3 วัน วันนี้มีดียังไงจะเอามาเล่าให้ฟังในตอนต่อๆไปก็แล้วกันนะครับ สำหรับวันนั้นทำให้ผมได้ตั๋วรถไฟไปไหนก็ได้ในราคา 5 ยูโร ใช้ได้ทั้งวัน ผมจึงเลือกที่จะไป Cassis นี่ล่ะครับ

ตอนนั้นเป็นช่วง ปลายฤดูร้อนกำลังจะเข้าฤดูใบไม้ร่วง อากาศจึงเริ่มเย็นแล้วจึงไม่ได้เล่นน้ำทะเล คงสงสัยว่า..แล้วไปทำไมกัน ไปดูกันครับ

วันนั้นผมและชาวคณะรวม 6 คน นั่งรถไฟแบบหวานเย็น (แน่ล่ะ 5 ยูโรเอง) จากสถานีรถไฟ Aix-en-Provence ถึงสถานีเมือง Cassis ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเห็นจะได้ เมื่อลงจากรถไฟพวกเราก็มองหารถ (ถ้าเป็นบ้านเราก็ต้องหารถสองแถวประมาณนั้น) หมายจะนั่งเข้าไปบริเวณชายหาด แต่ก็ไม่เห็นแวว จนมานึกได้ว่า "วันนี้ วันอาทิตย์" ผมรู้ดีว่าวันอาทิตย์ประเทศนี้ บริการสาธารณะต่างๆเป็นอันหยุดเกือบหมด ยิ่งเป็นเมืองเล็กๆแล้วไม่ต้องพูดถึง ถึงตอนนี้มีสองทางให้เลือก 1.รอรถไฟเพื่อนั่งกลับบ้าน และ 2.เดิน!

คำตอบคงทราบดีกันอยู่แล้วนะครับ ต้องเลือกข้อ 2 ไม่งั้นคงไม่มีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ ตอนออกเดินบอกตรงๆ ยังไม่รู้เลยว่าจากสถานีรถไฟไปชายหาด ระยะทางเท่าไรและต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหน แต่พวกเราก็ตัดสินใจออกเดินกัน...

โชคดีที่อากาศกำลังเย็นสบาย ทำให้การเดินดูยังพอมีความสุข สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปค่อนข้างเงียบมองไปรอบๆเขียวไปด้วยต้นไม้ ข้างทางเต็มไปด้วยไร่องุ่น...


...เดินต่อมาประมาณ 20 นาที เราก็มาพบกับป้ายๆหนึ่ง ทำให้พวกเรามีความหวังขึ้น บนนั้นมีข้อความที่ว่า "Cassis... la mer... la pierre... la vigne..." เป็นสโลแกนของเมืองนี้


...อันนี้แปลแบบตรงๆตัวได้ว่า "กาซีส... ทะเล... หิน... ไร่องุ่น..." หมายถึงเมืองนี้เค้ามีดีที่ทะเล และ “หิน” หมายถึง หินปูนสีส้มของเมืองนี้เค้ามีชื่อเสียงด้านคุณภาพ ซึ่งแต่ก่อนเอาไปสร้างถนนที่เมืองมาร์เซย์ สุดท้ายคือ “ไร่องุ่น” ที่มีอยู่ตลอดสองข้างทางที่เดินมา สำหรับที่นี่มีชื่อเสียงด้านไวน์สีชมพู ( Rosé ผมอ่านว่า โค-เซ่)

เดินจากป้ายนั้นมาอีกเกือบ 20 นาที ผมและชาวคณะก็มาถึงตัวเมือง Cassis สภาพที่เห็นเป็นเมืองขนาดย่อมๆกำลังน่ารัก มีตึกค่อนข้างเก่าแต่มีสีสันสวยงามเรียงรายโค้งไปตามท่าจอดเรือ ซึ่งมีเรือขนาดเล็กลักษณะแตกต่างกัน จอดเข้าซองอยู่เป็นจำนวนมาก

 


บรรดาตึกต่างๆเหล่านั้น เกือบทั้งหมดจะเปิดเป็นร้านขายอาหาร และขายของให้กับนักท่องเที่ยว เพราะปีๆหนึ่งที่นี่ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมาก (ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่นะ แต่มากจริงๆ)

 


มองไปมุมสูงหน่อยจะเห็นภูเขาที่เป็นหินๆ อย่างที่ว่า ด้านบนเป็นป้อมปราการเก่า "Château de Cassis" สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันถูกซื้อไปทำโรงแรม ราคาห้องสำหรับ 1 ท่านแบบถูกสุดตกอยู่ที่คืนละ ประมาณ 190 ยูโร ว่างๆก็มาพักนะครับ แต่อาจต้องจองล่วงหน้าด้วย


เดินต่อออกมาอีกประมาณ 50 ก้าว ก็ถึงชายหาด อย่างที่บอกว่าอากาศเริ่มหนาวแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ขอบาย...แต่ก็เห็นมีบางส่วนใจถึงลงเล่นน้ำกันอยู่ (น้ำมันเย็นจริงๆครับ ตอนรอบสองที่ผมมาเป็นฤดูร้อนแล้ว มันยังเย็นเลยคิดดู...ไม่รู้ลงกันไปได้ยังไง)


ได้เวลาแล้ว!!..  กิจกรรมสำคัญสำหรับวันนี้ คือการล่องเรือชม "Les Calanques" (เล-กาล็องก์) ซึ่งหมายถึง "หน้าผาหินที่ยื่นเข้าไปในทะเล" โดยเริ่มต้นที่ ท่าเรือ St. Pierre เค้ามีเรือให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.30-17.30 น. ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพอากาศด้วย โดยมีสามแพ็กเกจให้เลือก เล็ก-กลาง-ใหญ่ หรือ 3-5-8 ...งงล่ะสิครับ

3-5-8 ที่ว่าคือจำนวน Calanques ที่เรือจะพาเราไปสัมผัสอย่างใกล้ชิดครับ ไหนๆก็มาแล้วจึงเลือกแพ็กเกจใหญ่สุดให้สมฐานะ(รวย) เบ็ดเสร็จ 17 ยูโร จ่ายไปเรียบร้อย ฐานะก็เปลี่ยนไป(จน) สำหรับรูปเรือติดไว้ก่อน ปีนี้ถ้าได้ไปจะนำมาเพิ่มเติมให้ครับ

...จ่ายไปตั้ง 17 ยูโรแล้ว ต้องพาเพื่อนไปหลายๆคนหน่อย ตามไปดูด้วยกันกับผมนะครับ...

...ออกเรือ!!

เมื่อเรือมุ่งหน้าออกสู่ทะเล ตัวเมือง Cassis ก็เริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วของเรือทำให้ผมได้รับลมเย็นๆพอชื่นใจ ...ออกไปหน่อยก็เจอกับ Le phare de Cassis อ่านว่า เลอ-ฟา(เคอะ)-เดอ-กาซีส คือประภาคารที่มีไฟคอยให้สัญญาณกับบรรดาเรือที่สัญจรไปมาแถวนั้น

 

เรือล่องไปเข้าสู่ Calanques ต่างๆ 1-2-3..ตามลำดับ

 

  


ในแต่ละ Calanque มีเรือเล็กๆน่ารักๆ จอดพักเรียงรายสวยงาม

4-5-6.. เรือเริ่มเร่งความเร็วเพื่อทำเวลา..ลมเย็นๆพอชื่นใจนั้น เริ่มจะทำให้หนาวครับ

  

  

 

แต่ความหนาว ไม่ทำให้ความงามของ Calanques ลดลงไปเลยซักนิด ความรู้สึกส่วนตัวของผมที่นี่... "สวรรค์จริงๆ"

 


หากเป็นเจ้าของเรือลำเล็ก มาพักผ่อนตกปลาที่นี่ แบบนี้บ้างคงจะดีไม่น้อย (ฝันไปนู่น)


...มองไปที่ชายหาดใน Calanques เห็นผู้คนอยู่จำนวนหนึ่ง ทราบมั้ยครับว่าในจำนวนนั้นส่วนหนึ่งมาที่นี่ด้วยการปีนภูเขา อันเป็นกิจกรรมโปรดอย่างหนึ่งของชาวฝรั่งเศส เรียกว่า escalade (ผมอ่านว่า เอส-กา-หลาด) ก็ไต่เขานั่นแหละ ถ้าจะเหนื่อยนะครับ ผมเลยไม่ยอมลอง

ถัดมาพายเรือ "Kayak de mer" อันนี้น่าลุ้นขึ้นมาหน่อย ซักสองสาม Calanques คงพอไหว มีโอกาสก็น่าลองเหมือนกันนะครับ

 

 

ด้านล่างนี้ สังเกตดีๆมีชายหนุ่มนั่งตากอากาศอยู่คนเดียว สันโดษดีนะครับ ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว สงสัยจังว่าเค้าจะกลับบ้านยังไง??

 

 



...หรือว่าจะมีบ้านอยู่แถวนี้..

7-8...ครบแล้ว...ถ้าพาย Kayak มา คงตายไปตั้งแต่ Calanque ที่ 4 ...ภาพที่เห็น ทะเล หน้าผาหิน เรือน่ารัก ลมเย็นๆ(ที่ตอนหลังเริ่มจะหนาว) กิจกรรมของผู้คน ทำผมประทับใจ และช่วยตอบคำถามว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงชอบมากันนักนะที่นี่??

จากนั้นเรือก็เร่งความเร็วอีกครั้ง พาผมและคณะกลับมาส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือ St. Pierre ..ใจดีจัง ขอบคุณมากครับ..กัปตัน

...ระยะเวลาในการชม 8 Calanques นี้ รวมแล้วทั้งหมดหนึ่งชั่วโมงครึ่ง...กำลังดี

  


ทะเล Cassis ยามเย็นก็สวยงามไม่น้อย (ภาพนี้เป็นคราวที่ไปเที่ยวกันรอบสองตอนฤดูร้อน ไม่งั้นเย็นป่านนี้คงไม่มีใครลงเล่นน้ำเป็นแน่ หนาวตาย!) บรรยากาศทำเอาเคลิบเคลิ้ม...จนมานึกได้ว่าต้องเดินกลับนี่หว่า!


Frédéric Mistral นักเขียนซึ่งเป็นชาว Provence ผู้ได้รับรางวัลโนเบลทางด้านวรรณกรรม เมื่อปี 1904 (Prix Nobel de littérature en 1904) ได้กล่าวไว้ว่า "Qui a vu paris, s'il n'a vu Cassis, n'a rien vu" หมายความว่า "ใครได้เห็นปารีส ถ้าไม่ได้เห็น Cassis ถือว่าไม่ได้เห็นอะไรเลย"

หมายเลขบันทึก: 225298เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2008 06:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

แวะมาเที่ยวค่ะ

บรรยากาศสวยมากค่ะ

ขุนเขา  ทะเล  ท้องฟ้า

ขอบคุณค่ะ

มีความสุขในทุกๆวัน  นะคะ

อิ่มเอมใจ..จากเสียงเพลงและบรรยายชวนฝัน..ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและเพลงเพราะๆ

P สวัสดีครับคุณสายธาร

 

  • วันนี้พามานั่งเรือชมผาหินครับ
  • ธรรมชาติ ๆ ครับ
  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันอีกเช่นเคย
  • ...ขึ้นเรือรอบแรกเลยนะครับวันนี้...

P สวัสดีครับ ajankoy

 

  • ขอบคุณที่แวะมาล่องเรือด้วยกันครับ
  • แล้วแวะมาใหม่นะครับ...

แวะมาเที่ยว ริเวียร่า.ค่ะ..ชื่อคุ้นๆอย่างที่บอก..แต่ไม่เคยเห็นเลย..อีกนั่นแหละค่ะ..

เรียนจบแล้วกลับบ้านเรานะ..

P สวัสดีครับคุณลดา

 

  • ขอบคุณที่แวะมานั่งเรือด้วยกันนะครับ
  • แน่นอนครับ ผมเรียนจบแล้วก็ต้องกลับไปบ้านเราแน่นอนครับ
  • บ้านเรา แสนสุขใจ ถึงจะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา จริงๆครับ

สวัสดีค่ะ

  • มาติดตามอ่าน...ท่องเที่ยวด้วยค่ะ
  • น่าทึ่งกับ..ความเป็นธรรมชาตินะคะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
  • จะมาติดตามอีกค่ะ

 

P สวัสดีครับคุณครูคิม

 

  • ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
  • มานั่งเรือเที่ยวกันนะครับ
  • ขอบคุณครับผม

มาท่องเที่ยวไปกับP  Pompier  คุ้มค่าจริงๆ

ขอให้มีความสุขค่ะ

  • "ริเวียร่า" นี้ ก็อยู่ในบทเรียนวิชา ส.ป.ช. (รู้มั้ยครับแปลว่าอะไร... ส.ป.ช. คือวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต)
  • ถ้าได้เรียนวิชา  สปช. แสดงว่า อายุน้อยกว่า เป็นรุ่นน้องพี่ แน่นอน ค่ะ เพราะพี่เป็นรุ่นสุดท้ายของหลักสูตรเก่า
  • ตอนนี้ไม่มี วิชา สปช.แล้วนะคะ จัดเรียนรวมใน สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ค่ะ
  • ภาพสวยน่าเที่ยว เหมือนเดิม เจ้า
  • มาเที่ยวชายฝั่ง "ริเวียร่า"ที่บรรดาเหล่าคนดังชอบมานอนอาบแดด เล่นน้ำทะเล
  • หน้าร้อนคนคงคึกคักกว่านี้นะคะ ภูเขาที่เห็น สวยแปลกตามากๆ
  • ทักทายทั่วไป
  • มีความสุขครับ
  • อยู่กับทะเลมาตลอด หุหุ
  • สบายดีนะครับ
นางสาวชมัยพร ชูสุภาวดี(104)

สวยมากเลยค่ะ

อยากไปบ้างจัง

oh wow !!!

ไปทำงานดีกว่า อิจฉา !!!

นำเสนอได้เยี่ยมค่ะ ทำให้อยากไปเห็นจริง ๆ

เพลงนี้เข้ากับเรื่องจริงๆ ค่ะ La Mer เคยได้ยินมาว่าที่ริเวียร่าเมนูที่ขึ้นชื่อที่สุดคือนกยูงอบ แต่ไม่กล้ากินหรอกค่ะ สงสารมัน สัตว์สวยงาม ยอมกินแค่ไก่ก็พอแล้วล่ะ ^ ^ เพื่อนที่บอกว่าทำไร่องุ่นที่นั่นเขามีเรือยอร์ชสองลำด้วยค่ะ ถ้าได้ไปเมื่อไหร่ต้องขอให้พาออกไปแล่นกินลมชมวิวบ้างแน่นอน ฝันไว้ก่อนล่วงหน้า

  • ทั้งภาพและเพลง
  • ทำให้คิดถึงฝรั่งเศสค่ะ

 

สวยมากครับ

รอชุดต่อไป

ขอบคุณมากครับ

ขอตะเบ๊ะให้หนึ่งที ครับ ถ่ายภาพสวยมากๆ

P สวัสดีครับคุณ MSU-KM :panatung~natadee

 

  • ขอบคุณครับที่มาล่องเรือด้วยกัน
  • แล้วแวะมาอีกนะครับผม

Pสวัสดีครับพี่ครูใหม่ บ้านน้ำจุน และน้องๆพอเพียง

 

  • ...แบบว่าบทเรียน ส.ป.ช.ก็สามารถบอกอายุได้ด้วยนะครับเนี้ยะ
  • ถ้าถามเด็กสมัยนี้เค้าจะหาว่าเราเป็นคุณลุงไปแล้วหรือเปล่า
  • เด็กๆสมัยนี้เค้าเรียนอะไรที่น่าจะต้องแตกต่างกับสมัยผมเยอะนะครับ โดยเฉพาะ มานี มานะ คงไม่รู้จักกันแล้วหล่ะ
  • แล้วแวะมาเที่ยวอีกนะครับผม

P สวัสดีครับคุณ naree suwan

 

  • ใช่ครับ แถบนี้นักท่องเที่ยวจะล้นหลามยามเข้าหน้าร้อนครับ
  • ตามหินก็อาจจะแปลกตา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดกัน
  • นั่งเรือไปก็แอบเห็นอยู่หลายจุดเหมือนกันครับ...ก็เค้าอุสาห์ไปแอบแล้วนะ แต่ว่าเรือผ่านไปพอดีเลย
  • นั่งเรือ ชมธรรมชาติ ดูฟ้า ดูน้ำทะเล สบายใจจริงๆครับ

P Bonjour Monsieur คนผลัดถิ่น..

  • สบายดีนะครับ
  • คราวนี้พามานั่งเรือเมดิเตอร์เรเนียนบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศครับ
  • ทะเลสวย แต่ว่าหาดที่นี่ก็สู้บ้านเราไม่ได้ครับ
  • บางที่เป็นชายหาดหินกรวด จะว่าแล้วก็ไม่มีทรายสวยๆแบบเกาะพีพีบ้านเรา
  • เอาครับ...เปลี่ยนบรรยากาศมาชมความแปลกใหม่ของบ้านเค้าบ้าง..ไม่อย่างนั้น ท่านว่า...มาไม่ถึงครับ อิอิ

ไม่มีรูป สวัสดีครับ คุณชมัยพร ชูสุภาวดี(104)

ยินดีครับ แล้วแวะมาเที่ยวใหม่นะครับ

P สวัสดีครับพี่หมอเล็ก

 

  • แวะมานั่งเรือยามเช้านะครับ
  • มาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับผม

P สวัสดีครับคุณนานา

มาเที่ยวเลยครับ ... อยากให้เห็นกับตาจริงๆ

สวยงามครับ รับรอง...

P สวัสดีครับคุณซูซาน...

 

  • เอาไว้มาฝรั่งเศสคราวหน้าต้องหาโอกาสแวะมาแถวๆนี้บ้างนะครับ
  • เรื่องเรือยอชจ์ น่าสนใจจัง ขอติดไปด้วยคนได้ไหมครับ ...555 เห็นเค้าแล่นกันเต็มทะเล ท่าทางน่าสนุกนะครับ
  • ผมเองก็ยังไม่เคยกินเจ้านกยูงเหมือนกัน ต้องไปศึกษาซะหน่อยครับว่าเค้าเอาไปทำอะไร ว่าแต่ว่าก็น่าสงสารมันครับ กระต่ายพอว่า นกยูงนี่...ยังไม่เคยจริงๆครับผม
  • แล้วแวะมาอีกนะครับ อ๋อ La mer ..เพลงนี้เพลงโปรดอีกเพลงครับชอบแบบเวอร์ชั่นนี้ครับ classic ดี...

 

P Bonjour คุณ Lin Hui

 

  • ขอบคุณที่แวะมานะครับ
  • คิดถึงฝรั่งเศส ก็เข้ามาเที่ยวกับนาย pompier ก่อนนะครับ
  • อาจจะทำให้อาการคิดถึงหายลงบ้างครับ...

P สวัสดีครับคุณเกษตรยะลา

ขอบคุณครับ แล้วแวะมาเที่ยวกับผมอีกนะครับ...

P สวัสดีครับคุณกวิน

 

  • ขอบคุณครับสำหรับคำชม ได้กำลังใจมาเยอะเลยครับ
  • อากาศ และ ฟ้าเป็นใจครับ แต่อย่างไรก็ยังคงต้องฝึกปรือฝีมืออีกเยอะเลยครับ

มาเที่ยวด้วยคะ

สวยมากคะ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสเห็นของจริงหรือไม่

ดูจากภาพที่นำมาให้ชม ดีใจและมีความสุขแล้วคะ

สวัสดีครับ

  • ตามมาเที่ยว มาตากอากาศ Online ด้วยอีกครั้ง
  • ไม่ผิดหวังอีกแล้วครับ .. ภาพสวย  เรื่องชวนติดตาม
  • เหมือนได้เที่ยวไปไกลๆด้วยดีจัง .. ตังก็ไม่ต้องจ่าย
  • ฝรั่งเศสเคยเฉียดไปครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน เสียดายที่มีเวลาสั้นๆ
  • ขอบคุณครับ

P สวัสดีครับคุณประกาย

 

  • ขอบคุณที่แวะมาล่องเรือด้วยกันนะครับ
  • เอาว่ามาเก็บข้อมูลกับนาย Pompier ก่อนแล้วกันนะครับ
  • มีโอกาสก็แวะมานะครับ

P สวัสดีครับคุณ Handy

 

  • ยินดีต้อนรับอีกครั้งกับ นายpompier ทัวร์ @ G2K
  • ขอบคุณครับ...
  • แล้วแวะมาเที่ยวอีกนะครับผม

 

สวัสดีค่ะ

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ

ได้สัมผัสบรรยากาศ เข้าสู่ธรรมชาต เย็นสบาย    และให้ความสดชื่น

น่าติดตามไปเที่ยว

ขอบคุณมาก

  • มาแล้วจ้า ตามมาเที่ยวช้าหน่อย
  • ถูกใจค่ะ ตอนนั่งเรือ แหม น่าลองปีนเขาด้วยนะ
  • สวยงามมากค่ะ เห็นแล้วก็ชื่นใจ เหมือนได้ไปด้วย

P สวัสดีครับคุณ MSU-KM :panatung~natadee

 

  • ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันกับ นายpompier ทัวร์ @ G2K นะครับ
  • เอาไว้แวะมาอีกนะครับ

 

P สวัสดีครับคุณ จินตมาศ

 

  • ไม่ช้าครับ เรือลำใหญ่ รอไปพร้อมกันหลายๆคนครับ สนุกสนานดี
  • เรื่องปีนเขาคงต้อง...เก็บไว้ก่อนครับ ยังไม่เคยลองเหมือนกันครับ แต่ว่าก็น่าสนใจดีครับ
  • แล้วแวะมาเที่ยวอีกนะครับผม

คุณ Pompier

เป็นนักเขียนคอลัมน์ในนิตยสารไหนรึป่าวคะ...

อยากรู้ อยากรู้

P สวัสดีครับคุณ tuk-a-toon

  • โอโห อ่านแล้วยิ้มแก้มปริเลยครับ " v "
  • ไม่ถึงขนาดนั้นครับ ฝีมือยังอ่อนชั้น ตอนนี้เป็นมือสมัครเล่นให้ใน G2K เขียนให้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อ่านไปก่อนครับ
  • ขอบคุณนะครับสำหรับกำลังใจ อ่านไปยังยิ้มอยู่เลยหล่ะ...

 

  • สวยแต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว
  • ตกลงไปมีหวัง
  • กับทะเลภูเก็ตบ้านเรา
  • ที่ไหนมีมนต์ขลังกว่ากันคะ
  • ขอได้รับความขอบคุณจากลูกทัวร์ค่ะ

P สวัสดีครับคุณมนัญญา

 

  • จริงๆแล้วตอนไปล่องเรือเพื่อนข้างๆก็แอบกลัวอยู่ครับ
  • ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็หวาดไปตามๆกัน ที่สำคัญเรือไม่ได้ใหญ่มากครับ แต่ก็ดูเซฟดีเหมือนกัน เค้าจำกัดจำนวนแบบว่านับหัวกันเลย
  • ห้ามเดิน ห้ามยืน พวกนักท่องเที่ยวก็โดนดุ (เป็นภาษาฝรั่งเศส) ครับว่าห้ามยืน เดินไปเดินมา
  • เลยสังเกตุว่าพวกที่เดินๆ ยืนๆ ถ่ายรูปก็พวกเดียวกันนี่หว่า อิอิ ฝรั่งเค้านั่งสงบเรียบร้อย เหมือนมานั่งกินลม ชมวิว พวกเราเห็นขอบแปลกๆก็ไม่พลาดครับ ต้องเก็บภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน
  • ขอได้รับความขอบคุณจาก นาย Pompier ทัวร์ @ G2K เช่นกันครับ

สวัสดีค่ะตามรอยมาจากบล็อกอาจารย์แฮนดี้ค่ะ

คิดว่าตัวเองคงต้องแก่กว่าคุณแน่ๆ ขอเรียกตัวเองว่าพี่ก็แล้วกันนะคะ

พี่ก็เคยเป็นนักเรียนฝรั่งเศสเช่นกัน แต่ใช้ทุนส่วนตัวเรียนป.เอกค่ะ ที่ Universite de Poitiers แต่ภาษาฝรั่งเศสพี่ไม่ได้เรื่อง เพราะเรียนใน International program ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ ยังเสียดายเหมือนกัน แต่หากให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสละก็ป่านนี้คงยังไม่จบค่ะ

Provence เป็นสถานที่ในฝันของพี่เช่นกัน พอใกล้จบเลยได้เที่ยวพอสมควรแต่ไม่ได้ไป Cassis ค่ะ ได้ไปตามเมืองเล็ก เมืองน้อย ลักษณะคล้ายCassis อยู่เหมือนกัน ชอบทุ่งลาเวนเดอร์ ประทับใจกับการไปทานไอสครีมบนเขาเตี้ยๆ เมืองMiramas ในวันที่จันทร์เต็มดวง

พี่ยังไปไม่ถึง Cassis แปลว่าก็ต้องหาโอกาสไปProvence กันอีกครั้งซีค่ะนี่

ขอให้สนุกกับการเรียนและการใช้ชีวิตในฝรั่งเศสนะคะ

P สวัสดีครับ พี่คุณนายดอกเตอร์

 

  • ดีใจครับที่ได้รู้จักรุ่นพี่ศิษย์เก่าฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนครับ หากมีโอกาสพี่มาเที่ยวทางตอนใต้อีก ยินดีต้อนรับนะครับ
  • ผมกับเพื่อนๆมีโอกาสไปทานไอศครีมบนปราสาทเก่าที่ Miramas ครั้งหนึ่งครับ ประทับใจมากเลย เอาไว้วันหลังจะมาเขียนแนะนำร้านไอศครีมให้เพื่อนๆ G2K มาชมบ้างครับ
  • ติดใจกับไอศครีมหลากหลายรส มีแม้กระทั้งเอาดิกป๊อปปี้มาทำไอศครีม ได้อร่อยมากๆด้วยสิครับ
  • คิดถึงแล้วอยากกลับไปทาน แต่ว่าตอนนนี้คงไม่ไหวครับ อากาศหนาวแล้วด้วย คิดว่าหร้าร้อนนี้น่าจะมีโอกาสได้กลับไปครับ
  • แล้วแวะมาเที่ยวอีกนะครับพี่

 

 

P สวัสดีครับคุณแตงไทย

 

  • ขอบคุณที่แวะมาล่องเรือนะครับ
  • สุขสุนต์วันพ่อเช่นกันครับ

สวัสดีค่ะ คุณ Pompier

  • ตามมาเที่ยวด้วยคนนะค่ะ
  • อิจฉาจังเลยค่ะที่ได้เที่ยวตลอดเลย
  • คุณ Pompier สบายดีนะคะ ช่วงปีใหม่กลับเมืองไทยหรือเปล่าคะ

P สวัสดีครับ คุณแม่นีโอ

 

  • ขอบคุณที่ตามมานั่งเรือด้วยกันครับ
  • ได้โอกาสมาอยู่ที่นี่แล้ว นอกจากการเรียนที่ต้องทำเป็นงานหลัก ก็ต้องหาโอกาสเที่ยวเป็นกิจกรรมรองครับ โอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ จริงไหมครับ
  • เมืองแถบที่ผมอยู่ก็น่าเที่ยวซะจริงๆ คนอื่นเค้าต้องข้ามน้ำ ข้ามทะเลมา ผมอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ไม่ไปไม่ได้แล้วครับ
  • มีโอกาสมาแถวนี้ อย่าลืมมาเที่ยวนะครับ
  • ปีใหม่นี้ไม่ได้ไปไหนครับ ช่วงนี้ต้องปั่นงานส่งอาจารย์ เอาไว้สบายๆ หลังปีใหม่ หรืออาจเลยไปกลางปีหน้าแล้วค่อยหาเรื่องกลับบ้านครับ
  • แล้วแวะมาเที่ยวอีกนะครับผม

อีกไม่นานผมก้อจะไปเหมือนกันครับเย้ๆดีใจจัง..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท