พาเที่ยวบ้าน Van Gogh ณ เมือง Arles


Van Gogh มาอยู่ที่นี่ เนื่องจากได้รับการบอกกล่าวถึงสีสันความสวยงาม ของทิวทัศน์แถบเมดิเตอร์เรเนียน ผมคิดว่าเค้าคงอยากมาเพื่อหาทิวทัศน์ดีๆสวยๆที่ว่า เป็นแบบในการเขียนภาพ...

 

 

 

 

วันนี้ผมว่างจากภารกิจประจำอีกครั้ง จึงตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ เป้าหมายของผมอยู่ที่ Arles เมืองนี้ออกเสียงยากหน่อยนะครับ ผมจะออกเสียงเป็น "อ๊ากเคอะ (เคอะแบบเบาๆสั้นๆในลำคอ) - เลอะ(เบาๆสั้นๆ)"  ประมาณนั้นน่ะ ..เป็นยังไงยากมั้ยครับ ผมเองยังไม่ค่อยได้เลย...

Arles ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ Aix-en-Provence ห่างกันประมาณ 80 กม. ผมขับรถ(เช่า)สบายๆเดินทางไป ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ...หาที่จอดรถได้ดีเดินนิดเดียวก็มาถึงตรงที่เป็นจุดท่องเที่ยวของเมือง

...แล้วผมก็มาพบกับ "หัวของ Van Gogh" คนไทยมักเรียกเค้าว่า "แวนโก๊ะ" คนฝรั่งเศสจะออกเสียงเป็น "วอง-โก๊ะ" ตั้งอยู่ในสวนหย่อม Jardin d'Eté...ทำไมถึงมี Van Gogh มาอยู่ที่นี่.....ผมได้รับฟังการบอกเล่ามาว่า...นาย Van Gogh ซึ่งไม่ใช่คนที่นี่หรอก(เค้าเป็นชาวดัตช์) แต่มาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ในช่วงปี ค.ศ 1888-1889

Van Gogh มาอยู่ที่นี่ เนื่องจากได้รับการบอกกล่าวถึงสีสันความสวยงาม ของทิวทัศน์แถบเมดิเตอร์เรเนียน ผมคิดว่าเค้าคงอยากมาเพื่อหาทิวทัศน์ดีๆสวยๆที่ว่า เป็นแบบในการเขียนภาพ...ดูน่ากลัวอยู่นะหัวนี้
 

 


เดินผ่านสวนมาก็พบกับ Théâtre antique อ่านว่า เต-อาทเทอะ(เคอะเบาๆในลำคอ)-ออง-ติก ซึ่งเป็นโรงละครโรมัน สร้างเมื่อประมาณ 100 ปีก่อนคริสตศักราช เดิมเป็นโรงละคร 3 ชั้น จุผู้ชมได้ประมาณ 10,000 คน และได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ.1981

ปัจจุบันหลงเหลือจากเดิมเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามโรงละครแห่งนี้ ก็ยังสามารถใช้เพื่อจัดการแสดงอยู่.. ค่าเข้าชมโรงละครแห่งนี้ (แบบว่างเปล่า) ราคา 3 ยูโร

 

เดินต่อมาอีกไม่กี่ก้าว ผมก็พบกับ Amphithéâtre Romain หรือ les Arènes (les Arènes คือ สนามสนามกีฬาโบราณ) เป็นสนามสู้วัวกระทิง สร้างในสมัยโรมัน เช่นเดียวกับโรงละครด้านบน มีความจุ 25,000 คน

 

ที่สำคัญได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1981 จาก UNESCO อีกเช่นกัน ปัจจุบันที่นี่ยังถูกใช้จัดงานแสดงสู้วัวกระทิง ประจำปีของเมือง Arles ซึ่งในปีนี้จัดเป็นปีที่ 76 แล้ว...สำหรับค่าเข้าชมสนามสู้วัว (เฉพาะสนาม) ราคา 5.5 ยูโร ครับผม ถ้ามีการสู้วัวก็ปาเข้าไป 13.5-35.5 ยูโร ขึ้นกับทำเลแต่ละที่นั่ง ...อันนี้ผมยังไม่มีโอกาสเลยครับ

 


ใกล้ๆกับสนามสู้วัว เป็นที่ตั้งของมูลนิธิ "วองโก๊ะ" La Fondation Van Gogh ที่นี่ไม่ได้มีผลงานของ Van Gogh อยู่นะครับ มูลนิธิสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Van Gogh โดยรวบรวมผลงานจากศิลปินชื่อดังต่างๆทั่วโลก ซึ่งได้เขียนภาพเหมือน ภาพเขียนของ Van Gogh นำมาเก็บไว้ที่นี่



สังเกตรูปด้านบน..มีรูปหล่อโลหะคนไม่มีหัว...ผมสงสัยอยู่ว่าเค้าเป็นเจ้าของหัว ในสวนหย่อมข้างบนหรือป่าว !?!

ต่อจากนั้นผมก็เดินลัดเลาะ ตามซอยเล็กๆ เข้าไปในตัวเมือง ผ่านบ้านเรือนชาวบ้าน Les Arlésiens ("อากเคอะ-เล-เซียง" ใช้เรียกคนที่อาศัยอยู่เมือง Arles) ที่ยังคงรักษาความเก่าแก่แต่สวยงาม

 


มาสะดุดตากับบ้านหลังด้านล่างนี้ เค้าตกแต่งหน้าต่างบ้าน ได้สีสันสวยงาม โดยประดับประดาด้วยดอกไม้และตุ๊กตา...เห็นที่เป็นข้อความมั้ยครับ...มีส่วนหนึ่งที่บอกว่า "อย่าชมความงามอย่างเดียวนะ..ให้ช่วยบริจาคเงินช่วยด้วย"...อันนี้ผมงงจริงๆ

 จนมาถึงที่ว่าการเมือง Hôtel de Ville ของเมือง Arles


ด้านหน้าของ Hôtel de Ville มีลานกว้าง ที่เรียกว่า Place de la République มองไปเห็นเสา Obélisque du cirque เป็นเสาสมัยโรมัน(อีกแล้ว)ตั่ง(โด่)อยู่

 

...ลานแห่งนี้ในอดีตเป็นทางเดินและที่พักรถม้า ปัจจุบันผมเห็นเป็นลานอเนกประสงค์ ซึ่งมีน้ำพุให้คนมานั่งพักผ่อนยามร้อน จนถึงมานั่งอาบแดดยามร้อนมาก..



 

ขณะที่ผมเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆน้ำพุกลางลาน Place de la République ผมก็เห็นทหารโรมันกำลังตั้งแถวกันอยู่ ( ไม่ต้องคิดว่าผมไปลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางเค้าหรอกนะ)

เร็วๆนี้ ที่เมือง Arles คงจะมีงานใหญ่อะไรสักอย่างเป็นแน่ เค้าจึงมีการซ้อมกัน โดยมีผู้คนแต่ตัวในชุดโบราณแบบต่างๆ ..อย่างที่เห็นนี่ล่ะชุดทหารโรมัน


 

...ทหารโรมันตั้งแถวกันเสร็จ ก็เดินขบวนไปรอบเมือง ผมก็เลยถือโอกาสร่วมกิจกรรม เดินตามพวกเขาไปด้วย..แน่ละครับ ของดีจะพลาดได้อย่างไร


ผมเดินตามทหารโรมันไปไกลพอสมควร จนพวกเค้ามาหยุดอยู่ที่หนึ่ง (สงสัยเริ่มจะเหนื่อย ร้อนก็ร้อน ดูจากชุดแล้ว น่าจะหนักอยู่ ไหนจะโล่และอาวุธอีก ผมเดินตามตัวเปล่ายังเหนื่อยเลย)..โชคดีของผมจริงๆ บริเวณนั้นเป็นที่ที่ผมต้องการจะไปอยู่พอดี "Café la nuit"

ภาพที่เห็นด้านล่างนี้ ชื่อ "Terrasse de café de nuit" ซึ่งเขียนขึ้นโดย Van Gogh เมื่อปี ค.ศ.1888 ขณะที่เค้ามานั่งดื่มกาแฟ


และด้านล่างนี้คือร้านกาแฟชื่อ "Café la nuit" ร้านนี้เป็นของใครก็ไม่รู้ แต่โชคดีจริงๆ เพราะใครมาเมืองนี้ก็ต้องแวะมาดื่มกาแฟกันที่นี่...

 


แต่มีคนบอกมาว่าร้านนี้กาแฟไม่อร่อย!..ขนาด Van Gogh ยังไม่กินเลย (เพราะเห็น Van Gogh เขียนรูปร้านนี้ แสดงว่าน่าจะนั่งอยู่ร้านอื่นแล้วมองมา)...ตรงนี้อย่าคิดมากนะครับ ร้านของเค้าน่านั่งจริงๆ กาแฟก็อร่อย...ลองมาชิมนะครับ

 

 



จุดสุดท้ายของทริปนี้ ผมจะพาไป(ทอด)สะพาน..ผมคิดว่าสะพานแห่งนี้ก็น่าจะมีชื่อเสียงเป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากที่ Van Gogh คนดีคนเดิมของเรา เขียนภาพนี้ขึ้นมา เมื่อ ค.ศ.1888 เช่นกัน ชื่อว่า "Pont de Langlois avec femmes qui font la lessive" ซึ่งผมขอบังอาจแปลเป็นไทยเล่นๆว่า "สะพาน(ชื่อ)ลังกลัว กับสาวๆที่กำลังซักผ้า"


ตรงนี้สถานที่จริง..ปัจจุบันไม่มีใครซักผ้าแล้ว..สงสัยสาวๆมีเครื่องซักผ้ากันหมด...หรือไม่ก็นักท่องเที่ยวมากันเยอะ..ซักไม่สะดวก..อายเค้า!


ก่อนจบทริปอย่างสมบูรณ์ ผมได้ไปซื้อของที่ระลึกที่ร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่ง เลยถือโอกาสสอบถามเจ้าของร้านว่า นาย Van Gogh เนี่ยะ..บ้านเค้าอยู่ที่ไหน? (โดยผมหวังว่าเจ้าของร้านจะชี้แนะทางไปให้) ก็จริงครับ...

เจ้าของร้านผู้ใจดี เดินไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่ค่อนข้างเก่า แต่ดูถ้าว่าจะเก็บไว้เป็นอย่างดี (สงสัยคนถามกันบ่อย) เอามาให้ดู สรุปใจความได้ว่า "ปัจจุบันนี้บ้านซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของศิลปินชื่อก้องโลก นาม Van Gogh ไม่มีอยู่แล้ว"

ผมไม่ผิดหวังที่ไม่ได้เห็นบ้านจริงๆของ Van Gogh เพราะที่ผมได้ผ่านมาตลอด(ทั้งเมือง Arles)ทั้งวันนี้ ก็เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ของ Van Gogh แล้วนะ..ผมว่า

 

ท้ายนี้..นำภาพ Arles ยามค่ำคืนมาฝากครับ...

 

หมายเลขบันทึก: 223592เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2008 17:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 08:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (62)

มาพักผ่อนสมอง

แวะมาเที่ยวค่ะ

มีแต่สิ่งดีๆนะคะ

สวยยยยยยยยยยยมากกกกกกกกกก

P สวัสดีครับคุณสายธาร

 

  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันเป็นประจำครับ
  • สุขสันต์วันจันทร์นะครับ

ดินแดนในฝันเลยค่ะ

ขอสมัครเป็นผู้ติดตามอ่านประจำนะคะ

แต่ตอนนี้...ขอย้อนไปอ่านของเก่าให้ครบก่อน

ขอบคุณค่ะ :)

สวัสดีค่ะ ขอมาเที่ยวต่างประเทศบ้างค่ะ สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ อิอิ แต่อย่างไรก็ชอบประเทศไทยค่ะ สวยงามอ่อนช้อยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับประสบการณ์ที่ดีมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

P สวัสดีครับ คุณพอใจ

 

  • ขอบคุณนะครับ สำหรับการติดตาม
  • ดีใจครับ ที่มีคนชอบงานเขียนของผม
  • ชอบครับ ชอบอ่านคอมเมนต์อีกด้วย
  • ได้กำลังใจเขียนงานเยอะเลย
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

  • อ่านหนังสือมาไม่รู้กี่เล่ม
  • ไม่จุใจเท่ากับอ่านบันทึกของคุณ
  • แต่ละบันทึก..ได้เข้ามาอ่านหลายรอบค่ะ
  • สุดยอดค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะที่เอื้อเฟื้อความรู้

P สวัสดีครับคุณพอลล่า

 

  • ใช่ครับ ไม่มีที่ไหนสวยเท่าบ้านเรา ผมก็ภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย...อยู่บนแผ่นดินที่สวยงาม
  • แต่ว่าการรักษาความสวยงามนั้นยากครับ อยากให้บ้านเราเอาใจใส่และอนุรักษ์สิ่งที่มีอยู่เอาไว้ให้ลูกหลานดูอีกนานๆครับ
  • ฝรั่งเศสเค้าเป็นประเทศหนึ่งที่เราควรเอาเป็นแบบอย่างเรื่องการบำรุง อนุรักษ์ มรดกทางวัฒนธรรมครับ
  • ผมเองก็เที่ยวมาเยอะ แต่ไม่เคยเจอที่ไหนที่เค้าปล่อยสถานที่เที่ยวเอาไว้ให้รกร้าง เค้าบำรุงอยู่ตลอด เพราะว่าสิ่งนี้เป็นรายได้หลักของประเทศเค้าครับ
  • เช่นเดียวกับบ้านเราครับ...คงต้องหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้นนะครับ

P สวัสดีครับคุณครูโย่ง

 

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันเป็นประจำครับ

แล้วแวะมาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

P สวัสดีครับคุณครูคิม

 

  • ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันโดยตลอดครับ
  • เห็นเพื่อนๆ พี่ๆ ชอบบันทึกนี้ก็ปลื้มใจครับ ว่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งของผม สามารถสร้างประโยชน์ให้กับอีกหลายๆคน ครับ
  • สิ่งดีๆ ไม่ควรเก็บเอาไว้คนเดียว...จริงไหมครับ??

สวัสดีค่ะP MR. Pompier

  • ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
  • ไม่เคยผิดหวังเลย
  • ให้ความเพลิดเพลิน และได้สาระ เปิดโลกทัศน์ด้วย
  • ขอบคุณค่ะ จะติดตามทริปต่อไปค่ะ

P สวัสดีครับ คุณMSU-KM :panatung~natadee

 

  • ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
  • ตามมาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

 

  • สวัสดีครับ
  • ผมยังไม่เคยไปประเทศแถบตะวันตกเลย
  • ไปแต่ย่านแปซิฟิก  น่าสนใจนะครับ
  • ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับ
  • วันนี้มาเที่ยวอีก
  • แหมเที่ยวยิ้มละไม  ไม่ต้องจ่ายตังค์
  • แถมมีคนดูแลให้คำแนะนำ  ดีจริงๆ
  • เอาไส้อั่ว  อาหารเมืองเหนือมาฝากเจ้า

P สวัสดีครับ Col.boonyarit

 

  • ยินดีครับ ที่มาเที่ยวด้วยกัน
  • ถ้าเช่นนั้น เริ่มต้นเที่ยวยุโรป ไปกับผมก่อนนะครับ
  • รับรอง อิ่มตา อิ่มใจ สบายกระเป๋าครับ

P สวัสดีครับคุณมนัญญา

 

  • โอ้โห ไส้อั่ว มาทันเวลาอาหารกลางวันพอดีเลยครับ
  • เดี๋ยวขอไปหุงข้าวเหนียวก่อน
  • ขอบคุณครับ

แวะมาเที่ยวกับเขาด้วย..

พูดได้คำเดียวว่า..ไร้วาสนา ค่ะ

P สวัสดีครับคุณลดา

 

  • ยินดีที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะครับ
  • จะนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว และเล่าประสบการณ์ผ่านทางบันทึกให้ชมกันครับ
  • ขอบคุณครับผม
  • ตามมาใช้บริการครับ
  • ท่องเที่ยวแบบนี้ ประหยัด ปลอดภัย ไกลแค่ไหนก็ตามไปถึง
  • ขอบคุณครับ

P สวัสดีครับ

 

  • ขอบคุณครับที่มาใช้บริการ นาย Pompier ทัวร์ @ G2K..
  • จริงครับ ประหยัด ปลอดภัย เดินทางไม่ถึง 1 นาที ถ้าเครื่องโหลดช้าก็อาจจะเกินนิดหน่อย
  • ปล. ไกด์คนไทยด้วยครับ
  • แล้วแวะมาใหม่นะครับผม

ชอบภาพ การนำเที่ยว

สักวันหนึ่ง....จะไปเที่ยวที่นี่บ้างค่ะ

สวัสดีึค่ะคุณPompier

ดีจังค่ะที่ได้มีโอกาสเห็นภาพถ่ายเทียบกับภาพที่(แวน)วองโก๊ะวาดไว้ เล่าได้ละเอียด น่าติดตามไปชมและทำให้อยากไปนั่งจิบกาแฟที่ร้านนี้ซะแล้วค่ะ ขอบคุณคุณPompierที่ถ่ายภาพสวยงามพร้อมเรื่องราวที่ให้ทั้งความรู้และเพลิดเพลินไปพร้อมๆ กันหากมีโอกาสได้ไปแถวๆนั้น ขออนุญาตเชิญมาเป็นไกด์กิติมศักดิ์นะคะ

เคยมีโอกาสไปดูภาพวาดจริงของแวนโก๊ะที่เค๊านำมาแสดงที่ อาร์ตมิวเซียมที่สวิสฯค่ะ โชคดีจังบังเอิญไปช่วงที่เค๊าเวียนมาแสดงพอดีค่ะ ประทับใจมาก..

P สวัสดีครับคุณ ภูสุภา

 

  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวเมือง Arles นะครับ
  • มีโอกาสก็แวะมาเที่ยวด้วยตนเองก็ได้อีกรสชาติหนึ่งครับ
  • แต่ว่ายังไงอย่าลืมส่งข่าวนะครับ จะได้ไปทานกาแฟกันครับ
  • มาติดตามเรื่องดี ๆ ค่ะ
  • จะได้เรียกให้ถูก
  • ว่า..ไม่ใช่แวนโก๊ะ..หลงอ่านมาตั้งนาน

P a l i n_x a n a =)

สวัสดีครับ

  • รับคำเชิญครับ แต่ว่าไกด์กิติมศักดิ์มันดูเหมือนว่าต้องอาวุโสป่าวครับ
  • ...กลัวว่าอาวุโสจะไม่ถึง อิอิ
  • ไม่มีปัญหาครับ บอกมาก่อนล่วงหน้าแล้วกันครับจะได้ล๊อคโปรแกรมไว้ แล้วจะพาเดินชมเมืองนะครับ
  • ผมได้ไปดูภาพวองโก๊ะ เต็มอิ่มที่ musée d'orsay ที่ปารีสครับ ที่นั้นก็ว่าเยอะ แต่ว่าภาพของเค้าจะกระจัดกระจายไปตามประเทศต่างๆ คงต้องรอ Expo น่าจะได้ดูสมใจ
  • ที่นี่ศิลปินเยอะครับ บ้านผม Aix en Provence ก็มี Cézanne เป็นอิมเพรสชั้นนิสเหมือนกัน แต่ขานั้น..ภาพเค้าจะไม่แรงเท่าวองโก๊ะครับ
  • เคยคุยกันกับเพื่อนๆว่า วองโก๊ะต้องรวยที่สุดในบรรดาหมู่เพื่อน แน่ๆเลย เพราะว่าเค้าใช้สีเปลือง ...
  • คล้ายๆ colosseum ของอิตาลีเลยครับ
  • ชอบเพลงจังครับ
  • ขอฟังนานๆได้ไหมครับ
  • อิอิ
  • สบายกายและใจนะครับ

P สวัสดีครับคุณครูคิม

 

  • จริงๆ ผมว่าน่าจะอ่านได้สองแบบนะครับ แต่ไม่รู้ว่าภาษาบ้านเค้าที่เนเธอร์แลนด์เค้าอ่านว่าอะไรสิครับ
  • เหมือน จูเรีย โรเยริต์ ที่ฝรั่งเศสเค้าเรียกว่า จูเรีย โคแบ (ซะงั้น)
  • ฮิวเกรน ก็ ฮิวกร้อง...เรียกเจ้าตัวเค้าจะหันไหมน้อ??

P สวัสดีครับ คุณคนผลัดถิ่น

 

  • ครับผม เป็นยุคเดียวกันครับ
  • แต่โคลีเซียมที่อิตาลี ข้างในเค้าจะเป็นเกดีเอเตอร์ สู้สิงโตครับ เป็นคล้ายๆกับเขาวงกตครับ
  • แต่ว่าที่เมือง อาร์ก เป็นลานโล่งๆ ครับ เอาไว้สู้กระทิง
  • หน้าตาคล้ายๆกัน แต่ที่โรมใหญ่กว่าประมาณ  2 เท่าครับ

มาเที่ยวรอบที่ 5 คะ สวยมากๆ คะ

ชอบอ่าน ดูก่อน แล้วค่อยแสดงความคิด ขอเป็นคนท้าย ๆ จะได้อ่านคนอื่นด้วย

P สวัสดีครับคุณประกาย

 

  • ดีใจจัง แวะมารอบที่ 5 แล้ว
  • ขอบคุณมากๆครับ จะพยายามเขียนอาทิตย์ละบันทึกครับ
  • ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเพิ่มเติมเท่าไหร่ครับ
  • ต้องเร่งงานพอควร รอเดือนหน้าครับปีใหม่มีอะไรสนุกๆมาฝากครับ สีสันงานคริสต์มาส สนุกสนานไม่น้อยเลยครับ
  • เห็นด้วยกับคุณ Handy ที่ยกตำแหน่ง นาย Pompier ทัวร์ @ G2K.. ให้กับเจ้าของบันทึก
  • แล้วจะตามไปเที่ยวด้วยบ่อยๆ นะคะ
  • บันทึกที่นำมาฝากนี้ นอกจากฝีมือถ่ายภาพของเจ้าของบันทึกแล้ว ยังชอบภาพ Terrasse de café de nuit ด้วยค่ะ สีสวยจัง

P สวัสดีครับคุณtuk-a-toon

  • ยินดีค้อนรับสู่ นาย Pompier ทัวร์ @ G2K.. อีกครั้งครับ
  • แล้วมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆนะครับ
  • ขอบคุณครับ

มามาดูภาพ วองโก๊ะ ครับ

P สวัสดีครับ คุณกวิน

 

  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวนะครับ
  • ภาพของ วองโก๊ะ อย่างที่บอก กระจัดกระจายตามประเทศต่างๆครับ
  • แต่ถ้ามาฝรั่งเศสก็ต้องมาที่ Musée d'Orsay ครับ ยังมีอยู่เยอะเลย
  • ที่ Arles ก็มาชมร่องรอยชีวิตเค้านะครับ

บรรยายได้ดีมากเลยเหมือนไปเที่ยวด้วย ภาพก็สวย

บล็อกก็แต่งสวยคะ

ไม่มีรูป สวัสดีครับคุณนาขวัญ

 

ขอบคุณสำหรับคำชมครับ

แล้วแวะมาเที่ยวบ่อยๆนะครับ

มาเยี่ยมเยียน

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

P สวัสดีครับ คุณ นนทญา

 

ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมเยียนกัน

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ

แล้วแวะมาใหม่นะครับ

แนะนำหนังเรื่องหนึ่งให้ดูค่ะ เป็นหนังของปรามาจารย์ด้านภาพยนตร์ Akira Kurosawa บรรดานักผลิตหนังชั้นยอดอย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก, จอร์จ ลูคัส, มาร์ติน สกอร์เซซี และ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ก็ล้วนแต่ยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมาจากเขา 

เรื่องนี้ชื่อ Dreams แต่คนมักรู้จักในนาม Akira Kurosawa's Dreams เรื่องนี้มีหลายตอนแต่ตอนที่เอามาฝากคือ Crows ที่เอามาให้ชมก็เพราะมีตอนที่พาเข้าไปเดินในภาพเขียนของ Van Gogh ด้วยค่ะ ทำได้น่าทึ่งมาก จินตนาการสุดยอด

มาดูสถานที่ที่คงไม่มีโอกาสได้ไปด้วยตัวเอง. สวยมากค่ะ. เอามาให้ดูเยอะ ๆ นะค่ะ. ขอบคุณค่ะ

P สวัสดีครับคุณซูซาน

 

  • ขอบคุณมากๆเลยครับ ดู Dreams ไปช่วงหนึ่งแล้ว น่าสนุกดี แต่ที่หยุดไว้ก่อนเพราะว่าอยากหาเป็นภาคภาษาฝรั่งเศส แต่ยังไม่เจอเลย
  • น่าหาเก็บเอาไว้เหมือนกันนะครับ ได้ไปเห็นสถานที่จริงที่วองโก๊ะวาดรูป ทั้งที่สะพานที่มีผู้หญิงซักผ้าที่เมือง Arles หรือจะเป็น ภาพชายนอนบนกองฟาง ที่เมือง Saint Rémy de Provence ที่เค้าไปรักษาตัว
  • นึกภาพตามไปด้วย น่าติดตามมากครับ
  • ขอบคุณอีกครั้งนะครับ วันหลังมีหนังเรื่องอื่นน่าสนใจ อย่าลืมบอกกันอีกนะครับ

P สวัสดีครับ คุณหัวใจครูอาสา

 

ขอบคุณครับ แล้วตามมาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

  • แวะมาดูว่าวันนี้เขาไปไหนกันอีก
  • จะได้ไม่ตกรถ  ตกทัวร์  
  • อย่าลืมแวะไปบอกด้วยนะคะ
  • ถ้าคณะทัวร์จะเปลี่ยนที่ท่องเที่ยว
  • เอาแหนมอาหารอีสานมาฝากอีกค่ะ  คราวนี้

P สวัสดีครับคุณ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)

 

  • ไม่ตกรถหรอกครับ เพราะว่าทัวร์นี้มีตลอดครับ อิอิ
  • แต่คราวหน้าจะไปชวนมาขึ้นรถรอบแรกเลยนะ
  • ขอบคุณสำหรับอาหารกลางวันนะครับ โอ้วว หิวพอดีเลย
  • ต้องไปหุงข้าวเหนียวอีกแล้วสิครับ ทำไมมันน่ากินแบบนี้
  • นี่ถ้ามันส่งมาถึงบ้านได้แค่อึดใจ จะขอจานนี้เลยนะครับ..

ขอตามไปเที่ยวด้วยค่ะ สวยจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ๆ ในเมืองเลยนะค่ะ ... (ยกเว้นที่สวนสาธารณะ)

ร้านกาแฟก็น่านั่ง บรรยากาศก็ดี ช่วงนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงรึปล่าวค่ะ อากาศเย็นมั้ยค่ะ ... ที่บ้านเราอากาศก็เริ่มเย็นๆ แล้วค่ะ

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ ของคุณ Pompier และ Van Gogh ค่ะ

P สวัสดีครับคุณ paew

 

  • เรื่องต้นไม้ใหญ่ ในใจกลางเมือง Arles เป็นแบบโรมันที่มีแต่ตึกราม บ้านช่องครับ จะมีต้นไม้ใหญ่บ้างก็ตรงบริเวณที่เค้าเรียกว่า Place คือจตุรัสครับ
  • ดีที่เมืองนี้มีสวนรอบๆเมือง เลยเป็นปอดของชาว Arles ได้บ้าง Arles ไม่ใหญ่มากครับ ส่วนมากคนก็อยู่นอกเมืองกัน ที่นำมาให้ชมเป็นส่วนกลางเมืองประวัติศาสตร์ครับ
  • ช่วงที่ถ่ายมาเป็นช่วงหน้าร้อนครับ เดือน กรกฎาคมครับผม ถ้าสังเกตจากคน(ตัวเล็กๆ) บริเวณรูปจัตุรัสแล้ว เค้าเหล่านั้นใส่สายเดียวกันเลยครับ
  • ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันนะครับ
  • หวัดดีค่ะ
  • สบายดีนะค่ะ
  • แวะตามมาเที่ยว บ้านVan Gogh ด้วยคนค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณ Pompier

  • ชอบจังเลยค่ะแบบที่มีภาพวาดเทียบกันกับภาพของจริงเนี่ย
  • แต่ทำไมหัว วองโก๊ะ น่ากลัวจัง
  • ถ้าได้ไปนั่งจิบกาแฟร้านนี้นะ ต่อให้กาแฟไม่อร่อยก็ยอมค่ะ แหม..บรรยากาศออกจะน่านั่งขนาดนี้..ใช่มั้ยคะ :-)
  • จะรอชมสีสันวันคริสต์มาสนะคะ
  • โอย นั่งหัดอ่านชื่ออยู่ตั้งนาน อ่านยากเนอะ อ๊ากเคอะ (เคอะแบบเบาๆสั้นๆในลำคอ) - เลอะ(เบาๆสั้นๆ)"
  • ชอบเหมือนคุณแม่นีโอ ที่มีภาพวาดเทียบกับภาพจริง
  • Hôtel de Ville เคยหน้าแตกมาแล้ว ด้วยคิดว่าเป็นโรงแรม ก็เขาเขียน ว่า Hotel ไม่ใช่เหรอ
  • ว่างๆ ก็พาชมวิว ต้นไม้ ใบหญ้า สายน้ำ บ้างก็ดีนะ
  • แบบว่า เป็นคนแพ้ตึก หนะ

หวัดดีค่า

  • ขอบคุณนะคะที่ไปชวนมาเที่ยว
  • ได้มาร่วมทัวร์แล้วยังได้ความรู้กลับไปอีกต่างหาก
  • ไม่รับสมัครบล็อก..คงไม่ได้แล้วนะคะเนี่ย
  • ขอบคุณจริงๆ ที่ไปชวนมา คิคิคิ
  • ครูแอนเองก็ชอบเที่ยวค่ะ....แต่คงโอกาสน้อยกว่าคุณมังคะ  น่าสนุกจังนะคะชีวิตที่นั่น
  • มีความสุขกับทุกวันในชีวิตนะคะ...ขอบคุณค่ะ

P สวัสดีครับคุณอ้อยควั้น

 

  • สบายดีครับผม แต่ตอนนี้ที่นี่อากาศหนาวแล้ว หลายๆที่เค้าก็เริ่มเล่นสกีกัน หิมะตกแล้วครับ แต่ไม่ใช่ที่บ้านผมนะครับ ...
  • ขอบคุณครับที่มาเที่ยวด้วยกัน เพื่อนๆมากันเยะๆดีครับ ครึกครื้น สนุกสนานดี แวะมาอีกนะครับ

Pสวัสดีครับครอบครัวพอเพียง

 

  • มีความสุขวันหยุดสุดสัปดาห์นะครับ
  • เสาร์อาทิตย์นี้ น้องพอ น้องเพียง ไปแอ่วที่ไหนกันครับ?

P สวัสดีครับคุณจินตมาศ

 

  • ใช่ครับมันอ่านยากจริงๆ ภาษาฝรั่งเศสออกเสียงยากที่ต้องออกเสียงในลำคอด้วย ไม่ออกฝรั่งเค้าฟังไม่รู้เรื่องไปเลยนะครับ ในระยะเริ่มแรกก็ยากเอาการอยู่เหมือนกัน
  • เรื่อง Hôtel de Ville ถ้าแปลแบบไม่รู้มาก่อนก็คือ โรงแรมประจำเมือง 555 ไม่รู้ว่ามีไกด์ทัวร์ไหนบอกลูกทัวร์ว่า "นี่คือโรงแรมประจำเมือง" หรือเปล่านะครับ..เห็นมีกันทุกเมืองเลย สงสัยจะเป็นพวกโรงแรมเครือ แบบเดียวกับพวก novotel sofitel ประมาณนั้น 55
  • Hôtel ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า โรงแรมก็ได้ หรือที่ทำการก็ได้ครับ หากไปเจอ Hôtel de Police ก็อย่าไปเข้าใจว่าเป็นโรงแรมนะครับ ...สถานีตำรวจบ้านเรานี่เอง อิอิ
  • คราวหน้าจะพยายามหาที่ธรรมชาติมาฝากนะครับ ที่นี่ก็ไม่พ้น เขา และ ทะเล.. จองตั๋วรถทัวร์ล่วงหน้าเลยไหมครับ??  จะได้ไปเที่ยวกันรอบแรกเลยไงครับ

P สวัสดีครับคุณแอน

 

  • ขอบคุณครับที่มาใช้บริการทัวร์นาย Pompier @ G2K ...
  • ว่างๆก็แวะเข้ามาเที่ยวอีกนะครับ
  • อยู่ที่นี่ ไม่เที่ยวก็น่าเสียดายครับ เก็บไว้คนเดียวก็น่าเสียดายเช่นกัน ชวนเพื่อนๆ พี่ๆ มาเที่ยวด้วยกันดีกว่าเนอะ
  • ว่าแล้วก็..มาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

P สวัสดีครับ คุณแม่นีโอ

 

  • มาเที่ยวด้วยกันอีกครั้งนะครับ
  • จริงๆแล้วกาแฟร้านเค้าก็ใช้ได้ครับ นักท่องเที่ยวมานั่งจิบกาแฟ ดื่มบรรยากาศ ร้านเค้าสีสดกว่าใครเพื่อนเลยครับ
  • เสียดายที่ครั้งผมไปล่าสุดเปลี่ยนเก้าอี้ซะใหม่เลย ในความคิดผมเค้าน่าจะทำให้ใกล้เคียงในรูปมากที่สุดนะครับ สงสัยเก้าอี้แบบเก่าคงจะหมดอายุไปตามกาลเวลา เลยหาแบบใหม่มาซะโมเดิลเลยครับ
  • แล้วแวะมาเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ

  • มาเยี่ยมชมรูปภาพสวยงามด้วยคนค่ะ
  • ......
  • ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ

P สวัสดีครับคุณมนัญญา

 

  • กำลังอยากจะอ่านบทความสุขภาพอยู่พอดีครับ
  • ช่วงนี้กำลังเครียด แต่รับรองไม่แก่ก่อนวัย
  • ขอบคุณครับ

Pสวัสดีครับคุณหมอเจ๊

ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันนะครับ

แล้วแวะมาใหม่นะครับผม

  • แวะมาเยี่ยม "วอง-โก๊ะ" ค่ะ เมืองนี้สวยจริงๆ
  • เอ...ดูจาก หัวที่โชว์อยู่ วอง-โก๊ะ"  มีหูข้างเดียวใช่หรือปล่าวคะ

P สวัสดีครับคุณ naree suwan

  • ใช่ครับ ที่เห็นเค้ามีหูข้างเดียว...
  • ก็เพราะว่าวองโก๊ะตัดหูของตัวเอง ตอนที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนรักของเค้า...คือ Gauguin ครับ และเนื่องจากว่า van Gogh มีอาการทางจิต เกิดประสาทหลอนและคลุ้มคลั่ง เอามีดโกนไล่ทำร้าย Gauguin สุดท้ายเอามีดตัดใบหูซ้ายตัวเอง จนต้องเข้า โรงพยาบาล
  • ...แต่ว่าเคยไปอ่านจากหนังสือเล่มหนึ่งเค้าก็ว่า van Gogh ทะเลาะกันกับ Gauguin แต่ท้ายสุดแล้ว Gauguin หน่ะแหล่ะที่ไปตัดหูของ van Gogh จนต้องไปหาหมอ van Gogh เลยบอกหมอว่าเค้าตัดหูตัวเอง....ไม่รู้ว่าเค้าเขียนแก้ตัวให้ van Gogh หรือเปล่านะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท