การจัดการความรู้ (Knowledge Management ) คือ การที่บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป นำความรู้ของตนที่มีอยู่ในเรื่องเดียวกัน แต่อาจต่างมุมมองหรือความรู้สึก ต่างความเข้าใจ นำมาแบ่งปัน ร่วมกันวิเคราะห์ วิจารณ์ ตามหลักเหตุผล ช่วยกันสรุปเป็นองค์ความรู้ใหม่ แล้วนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างหลากหลาย
1. เรารู้ว่า ...เรารู้อะไร
2. เราไม่รู้ว่า...เรารู้อะไร
3. เรารู้ว่า...เราไม่รู้อะไร
4. เราไม่รู้ว่า...เราไม่รู้อะไร ดีเลย ทีนี้
การจัดการความรู้ (KM) เป็นสิ่งที่มีมานานนับร้อยๆ ปี ตั้งแต่การถ่ายทอดความรู้ และภูมิปัญญาจากคนรุ่นหนึ่งสู่รุ่นต่อไป หลายชั่วอายุคน โดยใช้วิธีธรรมชาติ เช่น พูดคุย สั่งสอน จดจำ สังเกต แต่ในปัจจุบันเป็นยุคแห่งการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านความรู้ เทคโนโลยี ดังนั้นองค์กรจึงต้องมีกระบวนการที่เป็นระบบ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถทำให้บุคลากรได้ใช้ความรู้ที่ต้องการ ได้ทันเวลา เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กรและการนำไปสู่องค์กรที่เป็นเลิศต่อไป(ก.พ.ร.)
การจัดการความรู้ (KM) เป็นกระบวนการรวบรวมความรู้ ประสานเชื่อมส่วนที่เป็นแหล่งความรู้ และช่วยกระจายความรู้ไปสู่ทุกภาคส่วน ซึ่งในปัจจุบันนอกจากสื่อสิ่งพิมพ์แล้วได้อาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลาง เป็นฐานความรู้ระดับผู้เชี่ยวชาญอย่างหลากหลาย เกิดเป็นคลังความรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าไปค้นหาเรียนรู้ได้อย่างอิสระ เป็นการจัดการความรู้ระดับสากล แต่ในกรณีการปฏิบัติงานในองค์กรทั่วไป วิถีทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากคนต่อคนยังคงดำเนินอยู่ ถ้านำระบบเข้าไปจัดการส่งเสริมให้เกิดวิธีการที่ถูกต้อง ผู้บริหารให้การสนับสนุนมุ่งส่งเสริมการปฏิสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีเป้าหมาย ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกคนในลักษณะคล้ายกับการระดมสมอง ( Brain Storming ) จะเกิดประโยชน์
ทั้งทางวิชาการ และการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรอันเป็นส่วนหนึ่งของงานบริหารจัดการองค์กร ตลอดจนเป็น
การพัฒนาบุคลากรโดยตรง ซึ่งมีวิธีการน่าสนใจหลายประการ แต่มีปัญหาในการจัดการความรู้ ส่วนใหญ่ที่พบมักเกิดจากบุคคลไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง อยู่ๆ ไป ยังไงก็ได้ ไม่รับรู้ ไม่อยากรู้ ไม่รู้ว่าตัวเองรู้หรือไม่รู้อะไรใครคิดคนนั้นทำ (คุณนะทำ) ท่านใด มีแนวทางในการจัดการความรู้ในโรงเรียน ที่ดำเนินการแล้วประสบผลสำเร็จจริงๆบ้าง
แนะนำด้วยค่ะ
ร่วมด้วยช่วยกันจัดการความรู้ให้ที
โปรดให้ข้อเสนอแนะ ปรับปรุงผลงานทางวิชาการที่กำลังจะส่งนี้ด้วยนะคะ
แบบฝึกทักษะเรื่องสมการ
ชุดที่ 4 คำตอบของสมการ
นักเรียนศึกษาและพิจารณาตัวอย่างสมการต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 ก + 5 = 7
นักเรียนคิดว่า จำนวนอะไร (ก) + 5 แล้วได้ 7
โดยพิจารณา สมการ ก + 5 = 7
ถ้าแทน ก ด้วย 1 จะได้ 1 + 5 = 7 ซึ่งเป็นสมการที่เป็นเท็จ
ถ้าแทน ก ด้วย 2 จะได้ 2 + 5 = 7 ซึ่งเป็นสมการที่เป็นจริง
ตอบ ดังนั้น 2 คือ คำตอบของสมการ ก + 5 = 7
ตัวอย่างที่ 2 8 × a = 72
นักเรียนคิดว่า 8 คูณกับจำนวนอะไร(a) แล้วได้ 72
โดยพิจารณา สมการ 8 × a = 72
ถ้าแทน a ด้วย 5 จะได้ 8 × 5 = 72 ซึ่งเป็นสมการที่เป็นเท็จ
ถ้าแทน a ด้วย 9 จะได้ 8 × 9 = 72 ซึ่งเป็นสมการที่เป็นจริง
ตอบ ดังนั้น 9 คือ คำตอบของสมการ 8 × a = 72
สรุป
จำนวนที่แทนตัวไม่ทราบค่าในสมการแล้ว ทำให้
สมการเป็นจริงเรียกจำนวนนั้นว่า คำตอบของสมการ
การหาคำตอบของสมการ คือ การหาค่าของตัวแปรหรือ ตัวไม่ทราบค่าในสมการนั่นเอง
แบบฝึกทักษะ 4.1
คำสั่ง จงเขียนเครื่องหมายวงกลม ล้อมรอบจำนวนที่เป็นคำตอบของสมการ
(ข้อละ 1 คะแนน)
สมการ |
จำนวนที่เป็นคำตอบของสมการ |
ตัวอย่าง ง + 30 = 68 |
48 30 |
1. ข – 30 = 15 2. ค – 21 = 83 3. ง ÷ 9 = 34 4. 49 + 67 = ช 5. ข × 28 = 420 6. 208 ÷ จ = 26 7. y – 21 = 42 8. 75 × b = 225 9. 2.5 + p = 5.6 10. น ÷ 2 = 12 |
45 55 103 104 306 304 116 126 15 16 6 8 63 62 2 3 3.1 3.2 24 28
|
แบบฝึกทักษะ 4.2
คำสั่ง จงเติมคำตอบของสมการให้ถูกต้อง (ข้อละ 1 คะแนน)
1. 16 × A = 8 × 16 คำตอบของสมการ คือ .
2. 8 × ( ก × 9) = (8 × 6) × 9 คำตอบของสมการ คือ .
3. 5 × (6 + B) = (5 × 6) +(5 × 3) คำตอบของสมการ คือ .
4. 12 + (9 + 6 ) = (12 + 9) + X คำตอบของสมการ คือ .
5. 45 × ก = 6 × 45 คำตอบของสมการ คือ .
6. 25 × (ข + 4) = 25 ×( 6 + 4) คำตอบของสมการ คือ .
7. 125 = 100 + ง + 5 คำตอบของสมการ คือ .
8. C × 12 = 12 × 15 คำตอบของสมการ คือ .
9. 12 × ข = 3 × 12 คำตอบของสมการ คือ .
10. 28 ÷ ช = 7 × 4 คำตอบของสมการ คือ .
kkkkkkkkkkk
แบบทดสอบ
คำสั่ง จงหาคำตอบของสมการ (ข้อละ 1 คะแนน)
1. A – 35 = 41 A มีค่า..................................
2. 4 × ก + 7 = 27 ก มีค่า..................................
3. ...............................
พี่ตุ๋ย ดีมากครับ
ขอบคุณที่ไปเยี่ยม
ว่างๆๆ ไปตอบให้ด้วยค่ะที่นี่
ผมแวะมาเยี่ยม
การที่คนไม่ยอมรับความเห็นซึ่งกันและกันนี่เป็นประเด็นสำคัญจริงๆค่ะ
ถึงจะไม่ได้ทำงานด้านนี้เหมือนกัน แต่ก็มีคนรู้จักกันที่ทำงานด้านนี้ค่ะ
แนวทางแนะนำไม่มีนะคะ แต่มีความคิดว่าถ้าลองสร้างสัมพันธภาพและผ่อนปรนซึ่งกัน
และกันในบางเรื่องล่ะก็ น่าจะได้ผลดีนะคะ เพราะถ้าเราสร้างสัมพันธภาพกับใครซักคน
เพียงน้อยนิดแล้วล่ะก็ เปรียบเสมือนเราได้เข้าไปในจิตใจและการยอมรับของคนๆนั้นมาก
ขึ้นค่ะ สู้ๆนะคะ
ช่วยวิจารณ์ผลงานด้วยค่ะ มิตรแท้ทุกคน
แบบทดสอบ หลังฝึกทักษะเรื่องสมการ(ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6)ชุดที่ 4
คำสั่ง จงหาคำตอบของสมการ (ข้อละ 1 คะแนน)
1. A – 35 = 41 A มีค่า........
2. 4 × ก + 7 = 27 ก มีค่า........
3. ข + 4 = 7 ข มีค่า.........
4. ด – 30 = 17 ด มีค่า.......
5. 100 ÷ Z = 50 Z มีค่า........
6. ก + 35 = 48 ก มีค่า..........
7. ฉ – 95 = 108 ฉ มีค่า...........
8. 90 – J = 13 J มีค่า.........
9. 8 × จ = 64 จ มีค่า..........
10. 48 ÷ 3 = ง ง มีค่า........