เรื่องราวความเคลื่อนไหวของชาวเมืองหงสา ในระยะนี้เป็นช่วงของการม่วนซื่นในเทศกาลออกพรรษา ลาพระเจ้าครับ ผู้สังเกตการณ์ที่ดีอย่างผมเลยต้องติดตามไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างใกล้ชิด
ในวันออกพรรษา ตอนเช้าหลังจากทำบุญตักบาตรแล้ว ตอนค่ำผมไปไหลเรือไฟครับ
บ้านเรือนพี่น้องทุกหลัง จุดประทีปวับแวมสวยงาม ที่วัดศรีบุญเรืองคืนนี้คึกคักเป็นพิเศษ เสียงฆ้องกลองจังหวะกระชั้น เสียงโฆษกประกาศแจ้งรายชื่อเจ้าศรัทธาที่แห่ “บอกไฟดอก” เข้ามาถวายอยู่ไม่ขาด ที่ลานวัดมีเรือไฟกาบกล้วยลำเขื่องประดับประดาสวยงาม ผู้คนถือกระทง ถือธูปเทียนมาจุดเรียงรายบนกำแพงวัด และฐานเจดีย์
ผมได้เห็นประทีปที่ทำจากผลหมากส้าน ใช้น้ำมันจากผลหมากแตกก็คราวนี้ หลังจากที่เคยได้ยินพี่น้องดงหลวงเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนๆ บ้านเราแถวดงหลวงมุกดาหารก็ทำใช้กัน (ผลหมากส้านเป็นไม้ป่า ที่นำผลอ่อนมากินกับแจ่วได้ พี่น้องดงหลวงเอามาทำน้ำหมักชีวภาพสูตรบำรุงผลได้ดีเยี่ยม)
ยามเขาจุดบอกไฟดอกที่ลานวัด ผู้คนเฝ้าลุ้นกัน เด็กๆถูกแม่ดึงแขนไว้ไม่ให้เข้าใกล้ เมื่อยามบอกไฟดอกพ่นขึ้นฟ้า พ่อบ้านออกมาฟ้อนรำเฉลิมฉลองอย่างม่วนซื่น ผมเห็นลาย “ฟ้อนเจิง” ของคุณลุงหลายท่านสง่างดงามจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ คิดถึงเมื่อยามเด็กเคยเห็นปู่เห็นตาฟ้อนเจิง “ฟ้อนตบมะผาบ” ยามเดือนยี่เป็งที่บ้านหนองหล่ม ไม่นึกว่าจะได้เห็นอีก
งานไหลเรือไฟที่หงสาถือเป็นงานรื่นเริง เป็นประเพณีท้องถิ่น ที่ไม่มีการปรุงแต่ง หรือเจือปนด้วยนโยบายการท่องเที่ยวแต่ประการใด
เช้าวันนี้ แรมหนึ่งค่ำ ทุกหน่วยงานราชการต่างปิดทำการครับ แม้แต่ตลาดเช้าเมื่อเช้าผมไปหาซื้อกล้วย เห็นมีแม่ค้าเพียงหนึ่งส่วนสี่ของปกติ ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวลาวสูง และลาวใหม่ ห้องการของผมเลยปิดไปด้วย แต่เขามอบหมายให้ผมเป็นต่างหน้า เป็นตัวแทนไปร่วมในงานแข่งเรือ (บุญซ่วงเฮือ)ครับ
ที่แม่น้ำวันนี้คับคั่ง คนทั้งเมืองหงสามารวมกันอยู่ที่นี่ก็แทบจะว่าได้ บรรยากาศก็คึกคักดี ทั้งคนมาเที่ยว มาเชียร์ และมาขายของ ทั้งวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ แม่บ้านจูงลูกๆมา ผมนั่งที่ประรำพิธีกับท่านประธาน และคณะพรรคเมืองคณะเมือง ราวหนึ่งชั่วโมงก็ขออนุญาตท่านๆ ว่าขอไปเดินเลาะเล่น (ความจริงวางแผนหนีกลับรู้สึกหนาวๆร้อนเหมือนจะเป็นไข้หัวลม) มีพี่อ้ายหนานบุญนายทหารยศนายร้อย กรุณานำพาไป ช่วยลากจูงขึ้นลงตลิ่ง คอยแหวกผู้คนให้
ภาพที่น่าประทับใจในงานซ่วงเฮือนี้ที่ทำให้เหมือนกับว่าได้ขึ้นเครื่องย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง ผมเห็นแม่ค้าขายของกินเล่นพื้นเมือง เช่น ลูกเดือยต้มมัดเป็นพวง รวงข้าวระยะพลับพลึง กล้วย แตงร้าน อ้อยควั่น ขนมข้าวพอง เยอะแยะเต็มไปหมด พี่น้องต่างก็อุดหนุนกันทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ถือคนละพวงสองพวงแทะกันไปชมแข่งเรือกันไป เห็นแล้วนึกถึงงานปอยหลวงบ้านหนองหล่มเมื่อก่อน บรรยากาศอย่างนี้ทีเดียว
อยากหยุดเวลาของเมืองหงสาเอาไว้จริงๆ
สวัสดีครับคุณเป ลี่ ยน
อูย....ดูแล้วอิจฉาความสุขของเขาเหลือเกินครับ
โชคดีครับผม
สวยและน่าเที่ยวดีค่ะ
สวยมากเลยค่ะ พี่เปลี่ยน แวะไปชมที่บันทึกของน้องนะคะ
ม่วนๆๆๆๆๆ
ม่วนคักๆๆๆๆ
อยากไปเที่ยวงานไหลเรือไฟ
อยากไปเห็นวัฒนธรรมเก่าๆครับ
แม้เป็นคนใต้แต่ผมสนใจวัฒนธรรมทุกท้องถิ่นครับ
เมื่อไหร่อ้ายเปลี่ยนจะกลับครับ
สวัสดีค่ะ
ดีใจที่เห็นบันทึกค่ะ
การอยู่ต่างบ้านต่างเมือง
ทำให้อดคิดถึงบ้านเกิดไม่ได้
แต่ประสบการณ์ของคนจากบ้าน ก็น่าสนใจเสมอ
แล้วได้เห็นดวงไฟของวาดจันทร์ บ้างหรือเปล่าคะ
ประเพณีเหมือนแถวบ้านป้าแดงเลย