(ทฤษฎี)เขาว่าเป็นพยาบาล Empathy ได้..แต่ต้องไม่ Sympathy หมายความว่า.ให้ความเห็นอกเห็นใจได้..แสดงความสงสารได้.แต่ต้องไม่ร้องห่มร้องไห้ไปกับผู้ป่วย..ในทางปฏิบัติแทบจะแยกไม่ออกจนบางครั้งก็ลืม(ทฤษฎี)..อย่างกรณีนี้ค่ะ..
มีครอบครัวของผู้ป่วยรายหนึ่ง เป็นชาวหนองบัวลำภู ผู้ป่วยเป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 14-15 ปี เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ต้องนอนโรงพยาบาลด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือด มีพ่อกับแม่มาผลัดกันเฝ้าดูแล.. นอนรักษาอยู่เป็นเดือนๆ อาการไม่ดีขึ้น..กระทั่งใกล้วาระสุดท้ายของผู้ป่วย..ผู้ป่วยดูทุกทรมานอยู่แล้วแต่สีหน้าของพ่อกับแม่ดูทุกทรมานยิ่งกว่า..ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเกือบทั้งวันทั้งคืน..วันหนึ่งดิฉันจึงได้พูดคุยกับทั้งสองคนจึงทราบว่า..อีก 2 วันนี้พี่สาวของผู้ป่วยจะแต่งงาน..จะไม่มีคนเฝ้าดูแลผู้ป่วย(ซึ่งอาการไม่ดีเลย..ไม่รู้จะจากไปเมื่อไหร่).ส่วนงานแต่งนั้น..ญาติคนอื่นก็มี.แต่ว่าใหนเลยจะเหมือนพ่อกับแม่..ครอบครัวผู้ป่วยวางแผนว่า..ในวันแต่งงานจะขอนำผู้ป่วยกลับบ้านแต่จะเอาไปไว้บ้านญาติ..แต่เวลานี้ผู้ป่วยขาดออกซิเจนไม่ได้เลย..จะอยู่ยังไง..ทั้ง 2 คนกลุ้มใจยิ่งนัก..ไม่รู้จะหาทางออกยังไง.. จะ
วันนี้เป็นวันแต่งงาน..เฮ้อ..เย็นวันนี้หรืออีกไม่เกิน 1-2 วันนี้ ก็จะเป็นงานศพ...แต่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกแล้ว..เป็นสิทธิ์ของผู้ป่วยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ลดา...อ่านแล้วอึ้งงงงง ชื่นชมพี่ที่ดูแลผู้ป่วยแม้จะเป็นวันหยุดค่ะ นี่แหละ Humanized จริงๆเลยค่ะ
หวัดดี..หนูจิ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ..
โอ้ ...ชีวิต .... ขอบคุณ คุณพยาบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องครับ
พี่น้องคู่นี้น่ารักจัง..ว่างๆมาเที่ยวขอนแก่นนะจะพาไปเลี้ยงอาหารอีสานแซบๆ
ขอบคุณค่ะ..คุณเอกราช
แวะมาแลกเปลี่ยน..เอาของดีเมืองนครมาฝากด้วยนะคะ