๔.คนลพบุรีเล่าเรื่องเมืองสามหมอก


ทำไมต้องสามหมอก

ทำไมต้องสามหมอก

 

              หลายท่านคงคุ้นชื่อเมืองสามหมอก ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีว่าหมายถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่เชื่อว่าหลายท่านอาจไม่รู้ที่มาที่ไปของชื่อดังกล่าว วันนี้จึงขอถือโอกาสนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาเล่าสู่กันฟัง

                  

          คำว่าเมืองสามหมอกของแม่ฮ่องสอนนั้นหมายถึงเมืองที่มีหมอกทั้งสามฤดู หรือเมืองที่มีหมอกทั้งปี  คือมีหมอกน้ำค้างในฤดูหนาว หมอกเมฆในฤดูฝน และหมอกจากควันไฟป่าในฤดูร้อน  จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น จัดว่าเป็นพื้นที่ที่พบหลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่หลายอย่างด้วยกัน เช่นเศษภาชนะดินเผา เครื่องมือหินกะเทาะ ขวานหิน และเมล็ดพืชที่มีอายุเก่าแก่ถึง ๑๒,๐๐๐ ปี อันพิสูจน์ได้ว่าแผ่นดินแห่งนี้ เคยเป็นชุมชนที่มีมนุษย์อยู่อาศัยและรู้จักการเพาะปลูกมานานที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

                   ปัจจุบันแม่ฮ่องสอนมี ๗ อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง สบเมย ปางมะผ้า และปาย  รวม ๔๔ ตำบล ๓๙๖ หมู่บ้าน และมีสถานที่ท่องเที่ยว ๓ แห่งที่มีกะเหรี่ยงคอยาวหรือกะเหรี่ยงเผ่าปาดองอาศัยอยู่ ซึ่งคำว่าปาดองหมายถึงผู้สวมห่วงทองเหลืองที่คอ ชนเผ่านี้เดิมอยู่ในประเทศพม่าและอพยพหนีภัยมา ตั้งรกรากทำมาหากินในสถานที่ ๓ แห่ง คือ บ้านน้ำเพียงดิน บ้านในสอยและบ้านห้วยเสือเฒ่า

                  

                   ตำนานสาวปาดองที่สวมห่วงทองเหลืองนั้นมีอยู่ว่าชาติกำเนิดของชาวปาดองมีแม่เป็นหงส์ จึงต้องใส่ห่วงไว้ให้คอแข็ง เพื่อหน้าจะได้เชิดขึ้น โดยหมอผีจะทำพิธีใส่ห่วงคอให้เด็กหญิงที่มีอายุระหว่าง ๕ ๙ ขวบ ครั้งแรกจะใส่ห่วงหนักประมาณ ๒.๕ กิโลกรัม และจะเพิ่มขึ้นทุก ๕ ปี ในชีวิตหนึ่งจะเปลี่ยนห่วง ๕ ครั้ง  ครั้งสุดท้ายจะใส่ไปจนตลอดชีวิต หญิงที่ใส่ห่วงได้มากจะใส่ได้ถึง ๓๒ ห่วง ในบ้านที่มีกะเหรี่ยงสาวคอยาวเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวนั้น ถ้านักท่องเที่ยวสาวขอทดลองใส่ห่วงคอบ้าง เธอจะถอดออกและสวมให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

                  

                    นอกจากนี้ เสน่ห์ของเมืองสามหมอกยังมีอีกหลายอย่าง ถ้าใครต้องการค้นพบ ก็ขอเชิญชวนโดยเฉพาะหนาวปีนี้ เชื่อว่าชาวเมืองสามหมอกคงได้ต้อนรับท่าน  ขอให้เที่ยวให้สนุกสุขใจในไทยแลนด์ของเรานะคะ

                            

หมายเลขบันทึก: 204126เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2008 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 12:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณที่เขียนให้อ่าน ได้ความรู้ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม

สวัสดีครับคุณครู

  • เป็นจังหวัดหนึ่งในประมาณ 10จังหวัด
  • ที่ยังไม่ได้ไป เกือบจะได้ไปหลายครั้ง
  • แต่ก็มีเรื่องทำให้ไม่ได้ไป คิดว่าสิ้นปีนี้จะไปให้จงได้
  • ขอบคุณที่ให้ข้อมูลและเพิ่มความอยากไปมากขึ้น
  • เอาภาพตอนไปทำค่าย
  • ที่ปายมาฝาก
  • เด็กๆๆน่ารักมาก

สวัสดีค่ะท่านผอ.ประจักษ์และอาจารย์ขจิต

ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยมพร้อมของฝาก..

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทาย
  • และมาอ่านเมืองสามหมอกครับผม
  • สบายดีนะครับ

สวัสดีค่ะน้องครูโย่ง

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย สบายดีและหวังว่าน้องคนหน้าตาดีคงสบายดีเช่นกัน

  • ตามมาบอกว่า
  • มีเพื่อนอยู่ที่วินิต
  • ไม่บอกว่าชื่ออะไร
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

lสวัสดีครับคุณครู

เข้ามาหาความรู้ประวัติ สามหมอก

ได้32ห่วงเป็นของแถม ขอบคุณครับผม

สวัสดีค่ะคุณบังหีม

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาทักทาย...ดีใจค่ะที่มองเห็นของแถม...

สัวสดีค่ะคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

  • แวะมาให้กำลังใจค่ะ
  • ได้อ่านเรื่องราวสามหมอกแล้วได้ความรู้ดีค่ะ
  • อยากไปเที่ยวจังเลยค่ะ เมืองสามหมอก

เจริญพร โยมครูวรางค์ภรณ์

ที่ว่าสามหมอกนั้นคือ

  • หมอกฝน
  • หมอกหนาว
  • หมอกควัน

เป็นอย่างนี้ใช่ไหมโยมครู

 

เจริญพร


สวัสดีค่ะคุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน

มาเยี่ยม  มาทักทายและมาให้กำลังใจ

มาติดตามอ่านบันทึกนะคะ

นมัสการท่านพระปลัด

พระคุณท่านเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ...กราบขอบพระคุณและนมัสการมาด้วยความเคารพ

สวัสดีคุณRattanaporn Chaichon และคุณครูคิม

ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมเยือน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...เข้าปลายฝนต้นหนาวแล้ว..อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โรคภัยเริ่มชุกชุม ขอบคุณนะคะ

แวะมาเยี่ยมค่ะ

มาบอกคิดถึง

และมีดอกไม้ที่บ้านมาฝากค่ะ

รักและคิดถึงเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะครูคิม

ครูวรางค์ภรณ์เพิ่งไปดูละครของน้องคนพลัดถิ่นมา กลับมาบ้านเจอดอกไม้แสนสวยของครูคิมรอต้อนรับอยู่ สวยมาก ๆๆๆๆ ค่ะ...ครูคิมปลูกต้นไม้เก่งมาก เห็นออกดอกสวยมากทุกภาพที่ส่งมาให้สมาชิก....ขอให้ครูคิมมีความสุขเยอะ ๆ นะคะ...

1. ขอกุศลผลบุญ อย่าสุญไป
นึกสิ่งใดให้สำเร็จเจตนา
2. อันคนชั่วมัวเมาเราก็ดี
อย่าให้มีหลงเล่ห์ เสน่หา
3. หญิงระยำซำสามอย่านำพา
แพศยาแก่แรดอย่าแวดชาย
4. อย่าให้มีอีเฒ่ามาเฝ้าว่า
ชาววังหน้าไม่อยากคบประจบหมาย
มิใช่กูคบหาน่าไม่อาย
แก่จะตายเห็นเขานั้นเคล้าคลึง
5. สัญชาติคนทรชนให้ไกลขาด
อย่างร่วมชาติขอให้ปลักจงหลีกหนี
6. คนยุแยงแกล้งอิจฉาทั้งตาปี
อย่าร่วมที่บ้านได้ให้ไกลกัน

กลอนนี้มาจากนิราศลพบุรี (เคยได้ยินไหมครับ)

ของท่านสุนทรภู่ ตอนที่พระนารายณ์มหาราชทรงเสด็จประพาสลพบุรี

ขอบคุณครับ ครูพี่วรางค์ภรณ์

สวัสดีค่ะ  P   คนพลัดถิ่น

  • ต้องยอมรับค่ะว่าไม่แน่ใจว่าเคยผ่านตานิราศลพบุรีมาบ้างหรือยัง
  • แล้วสุนทรภู่ไม่ใช่กวีในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ ฯ นะคะ
  • หรือท่านสุนทรภู่แต่งด้วยจินตนาการ
  • รบกวนน้อง P   คนพลัดถิ่น   บอกแหล่งค้นคว้าให้พี่หน่อยได้ไหมคะ  ขอบคุณค่ะ


สวัสดีเจ้าค่ะ

วันนี้มีของมาจำหน่าย....ค่ะ

มาขายสิ่งที่คนไม่ต้องการค่ะ...ขาย..เอ่อ.อ..อ...โง่..เจ้าค่ะ

อันนี้โง่ที่ 2 แล้วนะคะ

เชิญค่ะไม่ซื้อไม่ขายก็ไม่ว่า แวะเยี่ยมชมก่อนนะคะ

http://gotoknow.org/blog/krukim/217256

สวัสดี ครับ คุณครูวรางค์ภรณ์

เมืองสามหมอก

มองเมืองไทย แล้ว....มีความสุข นะครับ คุณครู

ผมได้ภาพนี้มาจาก internet และเป็นภาพที่อยู่ใน gotoknow

แต่ไม่ทราบที่มาของเจ้าของภาพ

....

เป็นบทกลอนที่ลงตัว..งดงามนะครับ ครู

....

มาด้วยความระลึกถึง ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท