จารุวัจน์ شافعى
ผศ.ดร. จารุวัจน์ ชาฟีอีย์ สองเมือง

ต้องหยิบมาเดินหน้าใหม่


เมื่อคืนตอนตีสองผมเขียนบันทึกๆ หนึ่ง บ่นเกี่ยวกับข้อมูลที่ปรากฏในหน้าเว็บของมหาวิทยาลัย และผมลบทิ้งเมื่อตอนประมาณสิบเอ็ดนาฬิกา ความจริงคือ ผมไม่ได้ต้องการให้บันทึกนั้นปรากฏไว้นานๆ หรอกครับ และผมก็พบว่า ความไวของเว็บมาสเตอร์ของมหาวิทยาลัยในการติดตามข่าวสารทางอินเตอร์เน็ทรวดเร็วดีมากครับ ซึ่งท่านก็ได้เมลแจ้งมาให้ผมถึงการปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวแล้ว ซึ่งประเด็นที่ผมโวยวายไปก็ต้องขออภัยไว้ด้วย ณ โอกาสนี้นะครับ

ฮิฮิ มีข้อคิดที่เกิดขึ้นจากการเขียนบันทึกเมื่อคืนนี้อยู่หลายประการครับ อย่างแรกๆ คือ ทำไมผมไม่ใช้ช่องทางอื่น นอกจากการเขียนในเว็บนี้ เอาอันแรกก่อนว่า ทำไมผมไม่ใช้การโทรแจ้ง อือ น่าคิดครับ ผมลองคำนวนดูว่า ในระยะเวลาปีกว่ามานี้ผมใช้บริการโทรศัพท์ภายในมหาวิทยาลัยไม่ถึงสิบครั้งครับ ในขณะเดียวกับเจ้าหน้าที่เกือบทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัยมักจะโทรเข้ามือถือผม ทั้งๆ ที่ผมนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน (เป็นไปได้ครับ) สำหรับผมเองกับเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในสำนักงานคือใช้โปรแกรม skype คุยและส่งข้อมูลระหว่างกัน ออ.ที่สำคัญคือ เมื่อหลายๆ เดือนก่อนมา มีเจ้าหน้าที่มาวัดระยะห้องทำงานผมเพื่อเดินสายโทรศัพท์ภายใน ฮาฮาฮา จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นมีสายโทรศัพท์สักเส้นหนึ่งเลย แต่อันนี้ผมชอบครับ เพราะผมไม่ค่อยชอบรับโทรศัพท์

และมีความลับอย่างหนึ่งสำหรับผมคือ ถ้าวัดค่าโทรศัพท์ของผมในช่วงปกติ ผมจะมีค่าใช้จ่ายจากการโทรศัพท์เพียงสองร้อยกว่าบาทครับ ฮิฮิ แต่ผมจะจ่ายค่าโทรศัพท์ครั้งละแปดร้อยกว่าบาท ทำไมเป็นอย่างงี้ครับ คำตอบง่ายๆ ครับ ผมไปจ่ายค่าโทรศัพท์สามเดือนครั้ง ฮาฮาฮา

ดังนั้นทางออกสำหรับการระบายอารมณ์ของผมคือ ทางเว็บ g2k นี้แหละครับ ที่สำคัญผมคิดว่า รอบนี้จะได้ดูว่าบุคลากรมหาวิทยาลัยอิสลามยะลาเข้าเว็บนี้กันมาน้อยเพียงใด ซึ่งจากการได้รับข้อเสนอแนะแสดงความคิดเห็นก็แสดงให้เห็นได้ว่า น่าจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ

วันนี้ได้คุยกับอาจารย์หนึ่งท่านและอีกท่านหนึ่งเป็นหัวหน้าสาขาวิชาการจัดการ เริ่มจากการคุยกับอาจารย์ท่านแรก ซึ่งท่านทำให้ผมนึกถึงสิ่งที่ผมอยากให้เกิดเมื่อปีก่อน แต่แล้วผมเองก็ไม่ได้สานต่อ จริงๆ ที่ไม่ได้หยิบเรื่องนี้มาทำอย่างจริงๆ จังๆ ก็เพราะผมไม่มีความรู้เรื่องนั้นพอที่จะทำได้ด้วยตัวเองครับ

แต่พอได้คุยกับอาจารย์ท่านนี้ ซึ่งจริงๆ ก็เริ่มจากการคุยเรื่องอื่น ปรากฏว่า ผมเจอคนที่รู้เรื่องนี้ดีแล้ว ผมต้องหยิบมาทำต่อแล้ว ผมก็เลยให้มอบงานให้อาจารย์ท่านนี้ไปทำเลยครับ (ลืมย้ำไปว่า ผมมันคนใจร้อน) พอมาคุยกับหัวหน้าสาขาวิชา ก็จึงรู้ว่า เรื่องนี้อยู่ในแนวคิดของท่านแล้วครับ เพียงแต่ท่านตั้งใจจะทำในปีหน้า แน่นอนครับ อย่างนี้ยังไม่ถูกใจคนอย่างผมครับที่คิดอะไรออกแล้วจะต้องทำเลย

ประเด็นที่คิดจะหยิบมาทำนี้เกิดจากที่นักศึกษาสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ฯ ส่งแผนธุรกิจเข้าร่วมโครงการต้นกล้า ซึ่งจากการส่งเข้าประกวดรอบแรกสิบสองทีม ผ่านเข้ารอบสิบทีม ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะไปแข่งต่อที่ (ไหนแล้วหว่า)... และเมื่อปีที่แล้วนักศึกษารุ่นแรกไปแข่งขันรายการนี้ปรากฏว่าได้ผลที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ ไม่น้อยหน้ามหาวิทยาลัยดังๆ ในประเทศไทยแล้วกัน

คำถามที่เกิดขึ้นระหว่างการคุยกับอาจารย์คือ ทำงัยให้การจัดการเรียนการสอนของคณะฯ มีส่วนกระตุ้นกระบวนการคิด การสร้างสรรค์ การคิดเพื่อคนในสังคม การทำงานเป็นทีม ให้กับนักศึกษาได้อย่างเป็นระบบขึ้น

ข้อสรุปผมสำหรับวันนี้ (ที่ไปทำงานเพียงครึ่งวัน) คือ ให้งานไปกับสองท่านเพื่อสร้างกลไกการเรียนรู้อีกมิติหนึ่งสำหรับนักศึกษาครับ ส่วนช่วงบ่ายผมทำอะไรนะหรือ ค่อยเล่าให้ฟังแล้วกันครับ

หมายเลขบันทึก: 203901เขียนเมื่อ 27 สิงหาคม 2008 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 01:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ

  • ตามมาเยี่ยมและให้กำลังใจครับ
  • สบายดีไหมครับผม
  • รักษาสุขภาพด้วยครับ

ผมคิดว่า กระบวนการ KM  ต้องเข้าไปเนียนกับการพัฒนามหาวิทยาลัยแล้วครับ อย่างน้อยผมเห็นจุดเเข็งของ มอย.มากมาย เพียงแต่เราจะนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นทุนได้อย่างไร

มหาวิทยาลัยที่ขนาดไม่ใหญ่มาก อาจารย์มีจุดร่วมคือ "รักองค์กร"  รวมถึงยินดีรับการพัฒนา ผมคิดว่าเป้าหมายที่จะนำไปสู่ "องค์กรแห่งการเรียนรู้" นั้นอยู่ไม่ไกลครับ

ให้กำลังใจนะครับ

 

สวัสดีครับครูโย่ง หัวหน้า~ natadee

ตอนนี้ผมสบายขึ้นมากแล้วครับ (ยอบคุณพระเจ้า)

ฮิฮิ ขอสมัครร่วมแก็ง หัวหน้าที่หน้าตาดีด้วยคน ฮาฮาฮา

ขอบคุณครับคุณเอก

km ต้องเนียนๆ ครับ

ถึงมายะลาวันไหนโทรบอกด้วยนะครับ ตอนนี้แม่ครัวมือดีที่สุดในโลกอยู่ที่บ้านผม อยากให้เอกได้ชิมแกงส้มสูตรสตูล

ความจริงผมมองว่านักศึกษาของเรามีความคิดสร้างสรรค์เยอะ เพียงแต่เวทีที่จะให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมช่องทางมันมีน้อย และอีกอย่างหากอาจารย์เราให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรม เข้าแข่งขันต่างๆ ร่วมผลักดันพวกเขา มหาวิทยาลัยอิสลามยะลาจะไปหยุดแค่นี้แน่ และอาจหยุดไม่อยู่ด้วยซ้ำไป เมื่อวานเด็กเราเอาเรียงความภาษาอังกฤษ เสียงสะท้อนจากชายแดนใต้ ที่ผมให้เขาส่งของ ศอ.บต มาให้ตรวจ ผมก็ได้นิดๆหน่อยๆภาษานี้ แต่ดูความคิดของเด็กเราแล้ว ผมมองว่างานนี้เด็กเราน่าจะเข้ารอบลึกๆได้ครับ อยากจะเรียนอาจารย์ครับ เด็กคณะเราส่งเรียงความของ ปปช. รอบนี้มีลุ้นครับ ที่ทราบเพราะผมก็ส่งเข้าประกวดกับนักศึกษา เพราะถามลุงเอกบอกว่า มีลุ้น และเด็กเราอีกเช่นกันที่ส่งเรียงความเสียงสะท้อน สามภาษา(อังกฤษ ไทย มลายู) 4 คนเข้าใจว่าจะเข้ารอบได้ไม่อยากครับ เท่าที่ตรวจดู

ก็ขอเป็นกำลังใจ ให้แก่คนทำงาน และดีใจที่อาจารย์ให้ความสำคัญกับนักศึกษา อย่างที่ผมบอกครับเด็กเรามีดีเยอะ แต่จะมีใครที่ช่วยผลักดันเขาแค่นั้น มีอะไรให้ช่วยผมยินดีครับ อยากจะบอกอาจารย์ครับว่า "เมื่อวานผมได้รับเมลล์จากตัวแทนสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ว่างานเขียนเรื่องการอ่าน ได้รับการพิจารณาแล้วครับ อัลอัมดุลิลละฮฺ" และตอนนี้งานเขียน "ราวัลพานแว่นฟ้า" ของรัฐสภา เรื่องสั้นกับบทกวีการเมืองของผมลุ้นรอบ 25 เรื่องสุดท้ายครับ ก็จะรอประกาศผล 19 กันยายนนี้ ผมเขียนเรื่อง "เพียงธรรมดาของเส้นแบ่ง" เป็นการถ่ายทอดคำว่า "นายู ซิแย" ครับพี่เอกจตุพร กำลังอ่านอยู่ครับ และ บทกวีการเมืองเรื่อง "ความซื่อสัตย์ดำรัสพ่อ" ก็ขอดุอาอฺครับ

ขอบคุณครับอาจารย์เสียงเล็กๆ

ข้อมูลของอาจารย์หลายอย่างผมยังไม่ทราบเลยครับ เป็นประเด็นที่น่าสนใจดี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท