นายเกษตร กับ นายศึกษา ช่วยกันทำงานส่งเสริมฯ ตอนที่ 5 สรุปบทเรียน


คนเรามีสิทธิเลือกเส้นทางเดินของชีวิตและการลิขิตตนเองสู่การก้าวเดินไปข้างหน้าว่า...จะเดินอย่างมั่นคง หรือจะเดินอย่างล้มลุกคลุกคลาน

นายเกษตร กับ นายศึกษา ช่วยกันทำงานส่งเสริมฯ 

ตอนที่ 5  สรุปบทเรียน

* ข้อคิด

   การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับการทำงานส่งเสริมกับชาวบ้านของนายเกษตรกับนายศึกษาข้อคิดที่ได้  "เจ้านายของเรา คือ เกษตรกร" ฉะนั้น ถ้าเราดูแลเจ้านายเราดีก็เสมือนกับเราดูแลผู้บังคับบัญชาเราดีด้วยเช่นกัน

*งานที่เกิดขึ้น

   เป้าหมายอันนำสู่การพัฒนาเพื่อส่วนรวมนั้น "เราต้องพัฒนาจิตใจเราเองก่อน" ให้รู้จัก "ละ เลิก และลุ่มหลง กับสิ่งยั่วยวนและยั่วยุ" ซึ่งเมื่อนั้นเจ้าหน้าที่ขององค์กรก็จะได้รับความเป็นธรรม มีจิตสำนึกของ "การให้ และความรักต่อเกษตรกร"

*จุดจบของชีวิต

   ทุกสิ่งในโลกนี้ต่างไม่ใช่ของเรา แต่ความดีต่างหากที่เป็นนิรันทร์ให้ผู้คนกล่าวถึง  ฉะนั้น เมื่อเรายังทำภารกิจ บทบาท และหน้าที่ในตำแหน่งนั้น ๆ ก็จง "ละความวุ่นวาย" ที่ไม่ทำให้ผู้คนรอบข้างในสังคมที่เราอาศัยอยู่ไม่เดือดร้อน  ชีวิตก็จะเป็นบุญ

*ลาก่อนเวทีนี้

   เมื่อกิจการงานที่มุ่งมั่นทำไปถึงจุดที่มองเห็นความสำเร็จก็จง "ละเสียให้ได้" ผลเกิดความบรรลุก็จะมีบุคคลอื่นมาทำต่อเองจงคิดซะว่า "มีคนอื่นมาทำแทนเราแล้ว" เราจะได้มีเวลาไปทำสิ่งใหม่  องค์กรและพวกพ้องยังต้องการการสร้างสิ่งอื่น ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย และเมื่อจบชีวิตราชการลงในวันหนึ่ง ถ้าหวนกลับมาเยี่ยมเยียนจะได้มีคนยกมือไหว้ และกล่าวถึงคุณงามความดีที่เราได้ฝากและทำไว้กับอู่ข้าวอู่น้ำแห่งนี้ หรือ ถ้าจะเป็นเพียง "คนตักน้ำในตุ่มมาใช้ดื่มใช้อาบอย่างเดียวก็ได้ แต่ชีวิตท่านจะเป็นสุขได้อย่างไร?" ยุวชนรุ่นหลังจะอยู่กันอย่างไรเล่า.

                                         ศิริวรรณ  หวังดี

                                         16 พฤษภาคม 2549

หมายเลขบันทึก: 20050เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2006 09:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
     ขอเป็นกำลังใจให้นายเกษตรกับนายศึกษา เรียนรู้และพัฒนาต่อไป  คงต้องเหนื่อยหน่อยนะครับ
ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้สู้และมั่นคงในอุดมการณ์  อย่าท้อถอยนะคะ  งานส่งเสริมยุคใหม่ต่อไปข้างหน้าเราต้องใช้สติปัญญาและจิตวิญญาณ( wisdom and soul  ในการปฏิบัติงาน เพราะการทำงานภาครัฐแนวใหม่ทุกคนต้องยึดสมรรถนะทั้งหลักและตามสายงานในการวัดผลสัมฤทธิ์ของงาน core and functional competency  เราต้องเริ่มปรับปรุงและ เปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อน รู้จักรวบรวมจัดทำแฟ้มผลงาน  รูจักฝฝึกฝนตนเองในการ บันทึกเรื่องราว ที่เราได้ทำเก็บไว้ทุกวัน เลือกเฉพาะที่เป็นแก่นสารเท่านั้น แล้วรู้จักที่จะแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ อื่นต่อไป. โดยการเผยแพร่อองค์ความรู้เหล่านั้นเป็นวิทยาทานไม่รู้จักจบสิ้น นี่แหละคือการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เรายังเดินทางเวียนว่ายยตายเกิดอยู่ในโลก ที่สวยงามใบนี้  วันนี้คุณเริ่มต้นปรับตนเองหรือยังคะ
ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้สู้และมั่นคงในอุดมการณ์  อย่าท้อถอยนะคะ  งานส่งเสริมยุคใหม่ต่อไปข้างหน้าเราต้องใช้สติปัญญาและจิตวิญญาณ( wisdom and soul  ในการปฏิบัติงาน เพราะการทำงานภาครัฐแนวใหม่ทุกคนต้องยึดสมรรถนะทั้งหลักและตามสายงานในการวัดผลสัมฤทธิ์ของงาน core and functional competency  เราต้องเริ่มปรับปรุงและ เปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อน รู้จักรวบรวมจัดทำแฟ้มผลงาน  รูจักฝฝึกฝนตนเองในการ บันทึกเรื่องราว ที่เราได้ทำเก็บไว้ทุกวัน เลือกเฉพาะที่เป็นแก่นสารเท่านั้น แล้วรู้จักที่จะแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ อื่นต่อไป. โดยการเผยแพร่อองค์ความรู้เหล่านั้นเป็นวิทยาทานไม่รู้จักจบสิ้น นี่แหละคือการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เรายังเดินทางเวียนว่ายยตายเกิดอยู่ในโลก ที่สวยงามใบนี้  วันนี้คุณเริ่มต้นปรับตนเองหรือยังคะ  เริ่มได้แล้วค่ะ   เสาวนิตย์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท