ชุมชนหยงสตาร์:บทเรียนการสร้างสันติสุข


ชุมชนเข้มแข็ง

หายหน้าหายตาไปนานครับสำหรับ การเขียนบล๊อก ความจริงไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ ก็อย่างที่บอกว่าช่วงนี้งานเยอะมากๆ และที่หายไปเป็นอาทิตยืก็เพราะ การไปออกเก็บข้อมูลภาคสนาม (งานวิจัยเล็กๆ) เรื่อง...ภาษาไทยถิ่นที่ใช้ในปัจจุบันชุมชนหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก็พบความเป็นอัตลักษณ์ของที่นี่หลายอย่าง แล้วจะนำผลการออกเก็บข้อมูลภาคสนามมานำเสนอนะครับ บอกได้คำเดียวครับว่า "ทึ่ง และน่าสนใจ" แต่สำหรับวันนี้จะขอนำเสนอมุมมองทีนอกเหนือจากการออกเก็บข้อมูลภาคสนามในครั้งนี้ก่อนครับ คือ เรื่อง "การสร้างความสันติ จนนำไปสู่ชุมชนเข็มแข็ง"

   ชุมชนหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง  แห่งนี้นับได้ว่ามีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ที่น่าสนใจคือชุมชนแห่งนี้มีความเป็น เชื้อสายมลายูดั้งเดิมของคนในพื้นที่ ประชาชนกว่าร้อยละ ๘๐ นับถือศาสนาอิสลาม ที่เหลือจะมีชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่บางส่วน การเป็นอยู่คนผู้คนที่นี่ถึงแม้ว่า ในชุมชนจะมีคนที่นับถือศาสนาที่ไม่ใช่มุสลิม แต่ประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ก็ให้เกียรติคนต่างศาสนิกเหมือนดั่งเป็นพี่น้องกัน การเป็นอยู่ไม่เหลื่อมล้ำกันทางด้านความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี อาชีพของผู้คนส่วนใหญ่ของคนที่นี่มีความหลากหลาย บ้างก็ทำสวนยาง บ้างก็ทำประมง บ้างก็รวมกลุ่มสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และที่สำคัญคือ มีบ้านจำนวน ๑๗ หลังของชุนชนบนเกาะแห่งนี้ ทำเป็น "โฮมสเตย์" ให้ประชาชนที่ต้องการไปศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ตลอดจนประวัติศาสตร์ที่แสนจะน่าทึ่งของเกาะแห่งนี้ (ไว้จะเอารูปมาให้ดูราวหลังนะครับ)

   การทำโฮมสเตย์สำหรับที่นี่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้คนเข้าไปพักมิมีหยุด ทราบว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่ไปยังชุมชนหยงสตาร์แห่งนี้ เป็นคนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซะส่วนใหญ่ ผมได้แต่หวังว่าทุกคนที่ไปเยือนชุมชนแห่งนี้แล้วคงได้ ประเด็นขบคิดกลับมาพัฒนาบ้านเมืองของตัวเองกันมากขึ้น ความมีน้ำใจ มิตรภาพ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดูแลกันอย่างเป็นระบบ ของคนในพื้นที่ จึงไม่มีใครที่ไปเยือนเกาะแห่งนี้แล้วไม่บอกว่า "นี่แหละคือชุนชนเข้มแข็งขนานแท้" การรวมกลุ่มกันทำโฮมสเตย์ถึงขั้นได้รับรองมาตรฐานทุกด้านจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คงการันตีอะไรบางอย่างได้ และการรวมกลุ่มสร้างสรรค์สินค้าพื้นเมืองอย่าง กะปิ น้ำปลา มันกุ้ง (รู้จักไหม อร่อยมากๆ อันนี้) ตลอดจนกุ้งแห้ง ถือว่าสุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

   และที่ทำเอาผมทึ่งมากที่สุด ก็เห็นจะเป็น "ครูกาจ" คนเก่าคนแก่ของที่นี่ ที่พยายามเก็บรวบรวมความเป็นท้องถิ่นทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนเรื่องราวต่างๆของที่นี่ นับว่า คนอายุกว่า ๗๐ ปี ยังมีความพยายามเก็บสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ให้ลูกหลานด้วยความมุ่งมั่นขนาดนี้ บอกได้คำเดียว "นับถือครับ" และอีกคนคือ คนดำน้ำครับ ไม่ว่าจะดำที่ไหนรู้หมดครับว่าจะมีปลาอะไรอยุ่ตรงไหนของเกาะบ้าง เพราะเท่าที่ทราบมา ดำน้ำตั้งแต่อายุ ๑๗ จนกระทั่งอายุ ๗๐ ปีก็ยังดำอยู่ปัจจุบันนี้สามารถบอกได้หมดว่าปลาที่จับมาได้นั้นชื่อปลาอะไรบ้าง และที่สำคัญปลาบางประเภท ไม่มีชื่อเรียกทั่วไป แต่จะใช้เรียกเฉพาะคนในพื้นที่ก็มีมากโขครับ วันนี้คงจะเล่าไว้แค่นี้ก่อนนะครับ

  เอาไว้ติดตามตอนต่อไป...การเดินทางของผมคงต้องเดินทางอีกยาวไกลครับ กลับมาคราวนี้งานล้นมือเลย ได้รับแจ้งจากทางสำนักกิจมหาวิทยาลัย ให้เป็นกรรมการตัดสินถึง ๒ รายการวันเดียวกันในงานมหกรรมวิชาการของทางมหาวิทยาลัย ตอนแรกว่าจะปฏิเสธเพราะตรงกับวันเรียน ป.โท แต่ทำไม่ได้เมื่อได้รับการร้องขอมาว่า อาจารย์ภาษาไทยเรามีคนเดียว (จริงครับ มีคนเดียว ก้เลยต้องเป็นแบบนี้)สุดท้ายก็เลยรับปากครับ แต่ก็ดีใจนะครับที่อย่างน้อย ยังเห็นค่าเสียงเล็กๆ อยู่บ้าง เพราะคนเรามักมองที่คนส่วนใหญ่ แล้วเรื่องบางเรื่องก็เหลือไว้เยงว่างเปล่าอีกเช่นเคย ขอบคุณที่ให้โอกาสครับ

   อากาสเปลี่ยนแปลงบ่อยดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ มิตรรักนักเดินทาง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

หมายเลขบันทึก: 196086เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2008 21:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 19:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • มาดูน้อง
  • เคยไปที่นี่
  • ชุมชนหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
  • อยู่นานเกือบเดือน
  • ชอบมากๆๆ
  • ชาวบ้านใจดีมากครับ

ขอบคุนครับพี่

1. ขจิต ฝอยทอง

ผมก็ชอบมากๆเช่นกันครับ เห็นด้วยครับที่ชาวบ้านใจดีมากๆๆ

  • อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านผมแล้วครับ อ.ปะเหลียน
  • มีอยู่หนึ่งเดียวแล้ว ขืนไม่เห็นความสำคัญก็แย่แล้วครับ

ขอบคุณมากครับ อ.

3. จารุวัจน์ ก็คงจะมีแต่อาจารย์มั้งครับที่พอจะเห็นความสำคัญ แต่ก็ช่างเถอะครับ เพราะผมไม่อยาก คิดมากกับมนุษย์ ทำงานกับผู้สร้างสบายใจกว่าครับ

แค่ได้อ่านก็รู้สึกอยากจะไปดูให้เห็นกับตาแล้วครับ(คุณครู)เผื่อว่าจะทำให้ชุมชนของบ้านเราเข้มแข็งขึ้นมาบ้าง   

ผมว่าคุณ

5. พิกุล 9 ไปดูให้รู้แจ้งเลยครับ ผมเชื่อว่าหลายคนพอที่นี่แล้วกลับมาจะรักบ้านเกิดตัวเองอีกเยอะเลยครับ

ครับ อ่านแล้ว ทำให้อยากไปมากๆ

ผมว่า ชุมชนบ้านเรา ไม่ว่าที่ไหน น่าอยู่ทั้งนั้นครับ

เว้นแต่... ความเปลี่ยนแปลงเข้ามา ซึ่งจะเข้ามาพร้อมๆกับ ที่เรียกว่าเศรษฐกิจ

อย่างบ้านผม..ตอนเด็กๆ น่าอยู่มากเลยครับ ความเป็นกันเองสูง ความร่ำรวยก็สูง ครับ

แต่เป็นการรวยแบบพอเพียง ...

อย่างน่าทุเรียน .. บ้านผมมีทุเรียนเต็มตลอดฤดู. ฟรีทั้งนั้น

ครูคนหนี่งเป็นคนพุทธเข้าไปในหมู่บ้าน ออกมามีของเต็มรถรถจักยานยนต์ของเขา

แต่ทุกวันนี้ .. ต้องซื้อแล้วครับ

ผมว่าหลายๆแห่งทุกวันนี้ การให้(ฟรี)กันและกัน ด้วยความรักความเต็มใจ หายากแล้วครับ

ทำตามที่ในหลวงท่านว่านั้นแหละ ความเป็นกันเอง ความสงบสุข เหมือนเมื่อก่อนก็จะกลับมา เศรฐกิจเหมือนกัน แต่เป็นเศรฐกิจพอเพียง

ขอบคุณ อ.

7. Ibm ครูปอเนาะ ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ขออัลลอฮฺคุ้มครองอาจารย์และดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ

เป็นงัยกันบ้างชาวหยงตา

คิดถึงจังเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท