ผมเห็นคุณ Golb แสดงรูปที่สวนของเขาในยามผลไม้ออกผลให้เก็บเกี่ยวในบันทึก "ความสุขหลังเก็บเกี่ยว" แล้วน่าชื่นชมเหลือเกิน
ความสุขของคนสักคนหนึ่งไม่ได้อยู่ที่ปริมาณแต่อยู่ที่คุณภาพ ผมอดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็นไว้ว่า
"สวนผมอยู่ที่ชุมพรแต่ตัวผมเองทำงานที่หาดใหญ่ครับ ที่สวนผมปัจจุบันเป็นสวนรกร้างไม่มีคนดูแลเป็นหลักเป็นฐานครับ ตอนนี้อยากไปอยู่สวนเหลือเกิน นึกถึงบรรยากาศสงบในสวนตอนเด็กๆ แล้วก็ให้นึกสงสัยตลอดเวลาว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ที่หาดใหญ่ครับ"
เป็นความเห็นที่ออกจะเป็นการรำพึงรำพันเรื่องของตัวเองเสียมากในฐานะลูกหลานชาวสวนที่มีที่ทางทำกินไม่อดตายแต่กลับต้องดิ้นรนมาอยู่ไกลบ้านเช่นนี้
ช่วงเวลาเดือนสองเดือนที่ผ่านมานั้นผมไปวนเวียนหาซื้อที่ดินเพื่อจะปลูกบ้านและปลูกต้นไม้ เพราะอย่างไรถ้าเกษียณแล้วก็คงอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่ผมไม่อยากได้บ้านจัดสรรหรือทาว์นเฮ้าส์ โดยเฉพาะเมื่อจะใช้อยู่ตอนแก่
แต่การหาพื้นที่ที่พอจะได้อาศัยและปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ละสัปดาห์ที่ออกไปก็ต้องคว้าน้ำเหลว ดูเหมือนถ้าต้องการจะมีบ้านสวนแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นสวนเก่าแก่ของครอบครัว ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล
เกษียณแล้วก็คงต้องกลับไปอยู่บ้านสวนที่ชุมพร แต่สวนที่ อ.หลังสวน ก็ปล่อยรกร้างเหลือเกิน ครั้นจะกลับไปดูแลบ่อยๆ ก็ทำไม่ง่าย การขับรถไปกลับระยะทางหาดใหญ่-ชุมพรไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย
คนที่อยู่กับธรรมชาติมักจะเป็นคนที่มีความสุข ทุกครั้งที่มีความเหนื่อยล้าเรามักแนะนำกันให้ออกไปสูดอากาศหาสีเขียวของธรรมชาติบ้าง ผมไม่ได้กลับชุมพรมานานแล้ว คงต้องหาเวลากลับบ้านบ้างเสียที ในเวลาที่เหนื่อยหน่ายกับคนเมือง คงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับการกลับไปเก็บความสดชื่นในสวนที่เกิดและโตครับ
อาจารย์ครับ เข้าประเด็นว่า สวนอยู่ไกลบ้าน ซึ่งมีทางเลือกหลายอย่าง เช่น จะยกบ้านไปอยู่ในสวน หรือจะยกสวนมาอยู่ที่บ้าน หรือจะหาที่ใหม่ที่มีทั้งบ้านและสวน
ตอนนี้ผมก็คิดจะหาสวนที่อยู่ใกล้บ้านครับ (บ้านสร้างไปแล้ว) แต่ผมไม่ได้คิดจะทำสวนนะครับ เพียงแต่ถ้ามีสวนจะทำให้พ่อของผมมาอยู่บ้านผมได้นานขึ้น เนื่องจากท่านเป็นคนติดสวนครับ หากไม่มีสวน มาเยี่ยมหลานๆ ก็อยู่ได้ไม่เกินสัปดาห์ครับ
ตอนนี้ผมใช้วิธีพยายามหาที่ใหม่ทั้งบ้านและสวนครับ เพราะสวนอยู่ไกล ส่วนบ้านนั้นยังไม่มีครับ ที่จริงจะเน้นสวนเป็นหลักครับ แล้วค่อยปลูกบ้านพออยู่ได้ในสวนครับ
พ่อผมก็ติดสวนครับ มาเยี่ยมหลานได้ไม่เกินสองวันต้องกลับชุมพรแล้วครับ
สวนผมอยู่ตำบลพ้อแดงครับ เลยวัดไปหน่อยนึงครับ แต่ก่อนมีผลหมากรากไม้เยอะมากครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว ว่าจะหาโอกาสไปสักทีครับ ถ้าได้ไปเมื่อไหร่ผมจะขอถือโอกาสไปชวนคุณอำนวยทานข้าวกันสักมื้อนะครับ
การอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นความสุขที่สุดอย่างหนึ่งค่ะ
คนใต้มีวัฒนธรรมการทำสวนครับ ถึงรับราชการ เป็นพ่อค้า เป็นลูกจ้าง การมีสวนของตัวเองจะเล็กจะใหย๋ไม่สำคัญ แต่มันเป็นความภูมิใจที่มีสวนเป็นของตนเอง สวนแม่ผมอยู่ที่ อ.คุระบุรี ตอนอยู่ตะกั่วป่าไปดูแลแทนแม่ได้สะดวกเพราะอยู่ไม่ไกล ตอนนี้มาอยู่ภูเก็ตกว่าจะไปสวนได้ต้องขับรถถึง ๒๑๐ กม.
มีสวนถ้าไม่อยู่เฝ้าเอง ก็ไม่ควรปลูกไม้ผล (ให้เพื่อนมาขโมย เพราะเราจะเจ็บใจ เกลียดชังผู้มาขโมย) ผมมีไม้ผลอย่างละ ๖-๗ ต้น ปลูกไม้กระถินเทพาเสียบ้างให้มันช่วยปรับปรุงดิน และเอาต้นมาทำเฟอร์นิเจอร์ใช้เอง ปลูกต้นตะเคียนทองเอาไว้ให้หลายต้นจะได้มีไม้ให้หลานได้ใช้สร้างบ้าน ปลูกหมากไว้เต็มพื้นที่ไม่ต้องใส่ปุ๋ยปล่อยให้มันอยู่กับธรรมชาติ ใต้ต้นหมากก็ปลูกผักเหมียงหรือเหลียง ปล่อยให้มันขึ้นตามยถากรรมก็ได้ แล้วก็เตรียมพื้นที่เหลือไว้ปลูกบ้านเน้น ความสุขมากมายแล้วครับ
บอกกับภรรยาว่าเกษียณแล้วจะไปอยู่สวนแม่ ขอให้มีอินเทอร์เน็ต มีสัญญาณโทรศัพท์ ก็โอเคแล้ว การได้อยู่กับธรรมชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมชาติทำให้ตัวเราลดอัตตาลงได้อีกเยอะครับ
ผมเห็นด้วยครับ สำหรับคนใต้แล้วการมีสวนของตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงๆ ครับ ท่านอัยการฯ ขับรถถึงสองร้อยกว่ากิโลเพื่อไปดูแลสวน สงสัยผมต้องไปดูสวนที่ชุมพรบ่อยขึ้นแล้วครับ เพราะอย่างไรก็เป็นพื้นที่ที่เกิดของผมครับ โอกาสจะมีสวนแถวสงขลานี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ ครับ
Blog ของคุณ Golb... http://baansuan.wordpress.com/
กะปุ๋มชอบเข้าไปอ่านเช่นกัน...งานเขียนสะท้อน "ใจ" ของผู้เขียนได้ละเอียด ลุ่มลึกยิ่งค่ะ... ตามอ่านมานานแล้วค่ะ... น่าจะเป็นอารมณ์ละมุนละไมคนหนึ่งทีเดียว
..............................
อาจารย์พูดถึงสวน...ก็เลยทำให้นึกถึง ท่านไถ่นัท ฮันท์...
จึงขออนุญาตนำ "รดน้ำเมล็ดพันธุ์" มาฝาก...ผู้คน ทีมงาน และ Lab ค่ะ...
....
ในใจของเรา คือ สวน ที่มีเมล็ดพันธุ์มากมาย
เมล็ดพันธุ์ความกรุณา ความโกรธ
เมล็ดพันธุ์ความกล้า ความกลัว
เมล็ดพันธุ์เหล่านี้รอที่จะงอกงามเติบโต
เราออกแบบและเลือกได้ว่าจะให้สวนในใจเราเป็นแบบไหน
เมล็ดพันธุ์ใดจะเติบโต แข็งแรง ขยายกิ่งก้านสาขาครอบคลุมอาณาจักรแห่งใจเรา
หากเราต้องการให้ต้นรักงอกงาม เราจะใส่ปุ๋ยชนิดใด?
ดูแลให้น้ำ แดด และอากาศอย่างเหมาะสม
แน่นอนว่า ต้นรักจะโตได้เราต้องให้ความรักกับมันด้วย หมั่นดูแลใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ
สักวันต้นรักจะผลิดอก ออกผล ให้ความร่มรื่น ร่มเย็นแก่เรา
แล้วจะทำอย่างไรกับต้นโทสะเล่า หากเราไม่ต้องการมัน?
ต้นโทสะดั่งวัชพืช ได้น้ำเพียงนิด ปุ๋ยเพียงหยิบมือก็ผลิพรวดโตไว
รุกรานต้นไม้อื่นๆ ทำให้สวนรุงรัง
โค่น ถาก ต้นก็งอกขึ้นใหม่ รากโทสะหยั่งลึกเกินถอน
ไถ่(ภาษาเวียดนาม = พระอาจารย์) ว่า งดปุ๋ย งดน้ำและอาหารบำรุงต้นโทสะ มันจะค่อยๆ เหี่ยวแห้งเฉาไปเอง
และหากต้นรักเติบโตคลุมพื้นที่ในสวน
ต้นโทสะก็จะโตได้ยากเพราะขาดแสง ขาดอาหาร และพื้นที่
หมั่นดูแลตกแต่งสวนในใจของเรา รดน้ำเมล็ดพันธุ์อันงดงามในใจเราและผู้อื่นทุกๆ วัน เราจะมีสวนสวยไว้นั่งเล่นสบายใจ
จาก...
"ดั่งกันและกัน; จากตาสู่ใจ ธรรมะใกล้มือ"
ว่างๆ อาจารย์ยกทีม UsableLabs ไปเที่ยวบ้านอาจารย์ บ้างก็ดีนะครับ
หิ้วผมไปด้วย อยากไปมองดาวคอนกลางคืนครับ
ผมเคยไปบ้านปู่ เคยไปวิ่งเล่นในนา กลับบ้าน แผลเต็มตัวเลยครับ
โดนใบข้าวบาดเต็มตัวเลยครับ หลังจากนั้นก็ไปอีก (ไม่เข็ด) ตกท้องร่องครับ
เละกลับบ้าน โดน ด่าจาก A-Z ก-ฮ รวมเพลงชาติ อีกสามรอบ หลังจากนั้นก็ไม่ไปอีกเลย
เพราะโดนม่าม้า เรียบ
ไปบ้านปู่ผมก็ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ได้ทำ
อย่างเช่น ยิงเฮลิคอปเตอร์ทหารกับหนังสติก(บ้านปู่อยู่คลองหอยโข่งครับ) ยิงรังผึ้ง
ระเบิดจอมปลวก วิ่งในนา เล่นว่าว (แล้วตอนเช้าก็ขับรถไปหาว่าวกัน เพราะว่า ตั้งไว้ข้างคืน)
หลายอย่างมากๆ นึกถึงแล้วยังฮาครับ ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับกะปุ่ม ผมก็อ่านงานของท่านอยู่เหมือนกันครับ ท่านมีคำสอนที่ลุ่มลึกอยู่มากทีเดียวครับ
ibbz.net เอาจริงไหม ว่างๆ ไปกันไหมครับ ไปช่วยกันถางหญ้า ไปกินผลไม้ ;-)
ไปๆอาจารย์ๆ ค่ารถกี่บาทครับ?
รถไฟแปปเดียวก็น่าจะถึงนะครับ
แหะๆ
มีที่ เป็นที่รกอยู่ตางจังหวัดเหมือนกันค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะไปอยู่ตอนอายุมากหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่ผ่านไป ก็จะต้องปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ชอบๆไว้ครั้งละ 4-5ต้น ใช้เมล็ดไปฝังไว้บ้าง ให้เทวดาช่วยเลี้ยงด้วยฝน ต้นหญ้ารกๆจะช่วยดูแลต้นกล้าไม้ของเราไว้ได้ทางอ้อม ไม่ต้องสนใจว่าต้องออกแบบปลูกอย่างไร มีที่ให้ปลูกได้ก็ปลูก คิดๆว่าอีก10-20 กว่าปี(ถ้ามีชีวิตอยู่)ต้นไม้(ที่รอด)ก้ต้นใหญ่พอ และก็จะมีบ้านเล็กๆที่ปลูกแอบซ่อนในดงไม้ แค่คิดก็โรแมนติกจะแย่อยู่แล้ว...ขอบคุณค่ะ
สงสัยผมต้องทดลองวิธีเดียวกันคือฝากธรรมชาติปลูกผลหมากรากไม้ในสวนครับ เพราะอย่างไรเมื่อถึงเวลาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแล้ว ก็คงต้องกลับไปอาศัยสวนอยู่ครับ ฝากธรรมชาติปลูกไว้เรื่อยๆ พอกลับไปก็อาจจะได้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่พอได้พึ่งพิงครับ
สวัสดีค่ะ ได้อ่านที่อาจารย์เขียน ดูภาพ ใช่ค่ะสิ่งที่ได้รับคือ ธรรมชาติที่อบอุ่นเสมอ ความอดทนของมนุษย์ การรอคอย การปรับตัว การดำรงอยู่ มิตรภาพ ไมตรี ฯลฯ ขอบคุณที่เขียนให้อ่านค่ะ
ขอบคุณ อ. Lin Hui ที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ ตอนนี้ผมมองหาสวนเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักที่พอไปดูแลได้ครับ
มีคนมาเสนอขายสวนยางให้โดยบอกว่าจะรับดูแลกรีดยางให้เอง ผมก็ไม่กล้าลงทุนครับ ฟังจากประสบการณ์อาจารย์แล้วผมคิดว่าไม่คุ้มแน่ๆ ที่จะลงทุนครับ
สวนผมที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพรตอนนี้อาจจะกลายเป็นป่าไปแล้วครับ ไม่ได้ให้ใครดูแลเป็นหลักเป็นฐานต้นผลไม้เก่าแก่ที่มีก็ไม่ได้ถามว่าเก็บกันอย่างไรครับ ที่จริงแล้วมีต้นเงาะ ต้นทุเรียน ต้นมังคุด ต้นสะตอ ต้นกระท้อน ครบเลยครับ ถ้าผมอยู่ตอนฤดูนี้ได้กินทุกอย่างไม่ต้องซื้อของใครเลย
เฮ้อ... ผมมาทำอะไรที่หาดใหญ่นี่...
อย่างน้อยก็ยังมีที่ทางไว้ให้ไอ้ตัวเล็กได้คลุกฝุ่น ได้ปีนป่าย โดนมดกัดผึ้งต่อย ให้รู้เจ็บรู้จำบ้าง ใช่ไหมครับอาจารย์
:)
ขอบคุณคุณ Golb ที่มาเยี่ยมครับ ถ้ามีสวนก็จะได้ให้เจ้าต้นไม้ได้โตอย่างใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ชื่อต้นไม้แต่โตในตึกไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ครับ
ผมเองก็มีความสุขเวลาได้จัดสวนเช่นกันครับ ก็ได้แต่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะมีบ้านที่มีบริเวณกว้างๆ แล้วก็มีสวนให้เราได้จัดเยอะๆ ครับ
ผมขลุกอยู่ทั้งในสวน ทั้งในนา ครับ เหนื่อยพอๆ กัน - หากสวนที่หาดใหญ่แพงไป กลับมาหลังสวนก็ได้นะครับ ย้ายที่ทำงานมาลงที่ ละแม(แม่โจ้) หรือ ชุมพร(ลาดกระบัง)สิครับ แล้ว ลุยสวนเลย
สวนเราไม่ปลดเราออกแน่นอน มีแต่จะรับเข้าว่าไหมครู?
อ้อ...สวนผม อยู่สวี ครับ ชื่อ สวนขี้คร้านhttp://www.oknation.net/blog/suankikran
ว่าแต่ คุณ อำนวย สุดสวาสดิ์ ในคห.3 สงสัยจะเป็นญาติผม?
นับถือ
สวนขี้คร้านhttp://www.oknation.net/blog/suankikran
สวัสดีค่ะ คุณสายลมลอย เดียวกันกับใน www.krungshing.com ???
ขอบคุณป้าจุ๋มที่กรุณาแบ่งปันประสบการณ์ครับ ผมได้ข้อเตือนใจจากประสบการณ์ของป้าจุ๋มและ อ. Lin Hui ที่สำคัญมากเชียวครับ เพราะตอนนี้มีคนพยายามบอกขายสวนยางกับผมครับ เป็นสวนยางที่ติดหนี้ธนาคารอยู่ครับ โดยเขาบอกว่าจะดูแลตัดยางให้เอง แล้วสิ้นเดือนเอาเงินมาให้เลย ผมฟังแล้วนึกถึงที่ อ. Lin Hui เล่าก็เลยแบ่งรับแบ่งสู้ ตอนนี้มาได้ทราบประสบการณ์จากป้าจุ๋มอีกท่าน เลยตัดสินใจว่าถ้าสวนยางเราไม่มีเวลาไปดูแลเองไม่น่าจะซื้อไว้ ถ้าจะมีสวนควรเป็นพื้นที่เราดูแลเองได้ ปลูกต้นไม้ไม่ต้องมากแต่หลากหลายอย่างก็จะสบายใจกว่าครับ
อยากมีสวนเหมือนกัน
ฟังคนมีสวนคุยกัน ครูต้อยก็มีสวนค่ะ สวนครัวที่ระเบียงหลังบ้านค่ะ สวนกระป๋อง สวนกะละมัง สวนกระลา ปลูกพืชสวนครัว แค่เพียงมันแตกใบก็มีความสุขมากแล้วคะ ขอบคุณค่ะ ญาติครูต้อยเคยมีสวนที่ชุมพร แต่โดนพายุเกย์เอาไปหมด เรียบ แปลเป็นเงินใช้หนี้แทน 555
สวัสดีครับอาจารย์ แวะเข้ามาเยี่ยม รู้สึกว่าแนวคิดของอาจารย์ใกลัเคยงกับผม ปัจจุบันผมเป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ผมได้หาที่ดินทำสวน วันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ส่วนมากผมคุยกับต้นไม้ ที่ส่วนใหญ่ปลุกยางพารา ตามสภาพของพื้นที่ ส่วนหนึ่งกันเอาไว้ปลูกพืชตามจินตนาการ เพื่อเอาไว้กินไว้ใช้ ไว้แจกไว้รับแขกไว้พักผ่อนไว้หายใจ
อาจารย์กับผมน่าจะอายุใกล้เคียงกันนะครับ ผมก็ชุมพร(ละแม)ปัจจุบันอยู่ระนอง พี่ชายจบศรียาภัย ทรัพย์ มอ.ทำงาน มอ. ศูนย์วิจัยคลองหอยโข่ง(อภิชาติ) เพื่อนผมที่ เรียนKMITL ทราบว่าทำงานที่ มอ.คนหนึ่ง อาจารย์รู้จักไหมครับ ดร.ปิ่น จันจุฬา
มีโอกาสไปหาดใหญ่เมื่อไหร่จะนำผักเหลียงและจำปาดะในสวน(ถ้ามี)ไปฝาก
เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง
เงินก็ต้องใช้ น้าใจก็ต้องมี
ขอบคุณครับคุณวิจารณ์ ได้มีโอกาสเจอคนชุมพรด้วยกันเมื่อไหร่ผมดีใจทุกที เหมือนได้กลับบ้าน (ที่ไม่ค่อยได้กลับ)
มาถึงตอนนี้ผมยังไม่มีสวนเลยครับ ยังอยู่บ้านหลวงเหมือนเดิมครับ