ทีแรก ๆ ก็เคยคิดปลอบใจตัวเอง เหมือนกันค่ะ ว่า แหม นะ
ไอ่เราก็ประเภทงานเยอะ วัน ๆ
ร้อยแปดพันเรื่อง hyperactive
วิ่งไปวิ่งมา ฝ่ายนู้นจะเอาเรื่องนี้
ฝ่ายนี้จะเอาเรื่องนู้น รับโทรศัพท์จนสมองแทบสุก
เซ็นเอกสารจนต้องมีปากกา spare ไว้บนโต๊ะเป็นโหล ๆ
ต้องสนองตอบอย่างกลมกล่อมทุกส่วนฝ่ายให้ได้ซิ่เรา
มันก็ต้องมีหลงลืมกันบ้างหล่ะว๊า...
ลืมกุญแจ
โทรศัพท์ กระเป๋าตังค์
ร่ม กล่องข้าวเที่ยง
ประจำ อันนี้เด็ก
ๆ
แต่
นับวันยิ่งหนักข้อขึ้น ใส่รองเท้าแตะ รดน้ำต้นไม้อยู่ดี ๆ
พอมีน้องมารับไปทำงาน
ก็กระโดดขึ้นรถด้วยรองเท้าแตะคู่มอม
ไม่มีทางรู้ตัวเลย ถ้าไม่มีน้อง ๆ
ที่ทำงานทักให้ได้อาย คงจะใส่ร่อนทั้งวัน
อ่ะนะ
ก่อนออกจากบ้านต้องยืนบริกรรมคาถาม หยิบของใช้ต่าง
ๆ ขึ้นมานับ 1 2 3 ... อ่ะ รอด ไปได้ พอ
ปิดล๊อกปุ๊บ เกิดรู้สึกตะหงิด ตะหงิด ป๊าด...
ลืมกุญแจบ้านอีกแว๊ว... เรื่องกุญแจนี่เลยต้องทั้งฝากชาวบ้าน
ทั้งแอบซ่อนไว้ และติดกระพวนกุ๊งกิ๊ง แถมพกทีเดียว 2 ชุด
เพราะตอนที่อยู่อพาร์ทเมนท์ลืมประจำ จนต้อง แงะ งัด
จนเนื้อไม้ของประตูแหลกเหลวไปเลยหล่ะค่ะ
อิอิ
เคยเล่าวีรกรรมการลืมตั้งแต่เด็ก
ๆ ให้พี่นายช่างใหญ่ น้อง อ.ขจิต และน้องครูแอน Lioness_ann
ฟังเรื่องความขี้ลืมแถมมั่วชอบสร้างเรื่องของตัวเอง ที่ปั่นจักรยานไปซื้อก๋วยเตี๋ยวแล้วมัวโม้กะแม่ค้าเพลิน
พอได้ก๋วยเตี๋ยวก็ลืมจักรยาน ค่ำลงหม่อมแม่จะเก็บรถเข้าบ้าน
หาจักรยานไม่เจอ ไอ่เราผู้ไม่สำนึก ก็ผสมโรงไปว่า แง๋ ๆ เลย
บ้านเราถูกลองดีซะแล้ว ต้องมีคนโขมยแน่ ๆ (น่าน ดู่ ดู๊
ดู ดูเธอทำ)
ทั้งบ้านก็ตกใจกันใหญ่พาลไปเรียกลุง
ป้า น้า อา มาเต็มบ้าน ช่วยกันหา ระหว่างกำลังนั่งโม้กับเพื่อน ๆ
ด้วยความตื่นเต้น คุณลุงเข็นจักรยานเข้ามาในบ้าน
หม่อมแม่ก็ยิงคำถามทันที ไปเจอที่ไหน ใครเอาไป คุณลุงไม่ตอบ
แต่มองตาเขียวปั๊ดมาทางครูปู
ผู้ซึ่งเพิ่งจะเกิดพุทธิปัญญาระลึกรู้เแทบจะทันทีที่ได้เห็นจักรยานคันเก่งคันนั้น
จะช้าอยู่ใย วิ่งจู๊ด ขึ้นข้างบนทันที ด้วยกลวิธีใช้ความสงบ
สยบความเคลื่อนไหว (เอิ๊กซ์)
ไอ่เรื่องขี้ลืมนี่
ยังมิแสบสันต์เท่ากับการที่ตัวเองลืมเอง แล้วโวยชาวบ้านนี่ซิ่
เช่น เรื่องวิทยุสื่อสาร ใช้ ๆ อยู่แล้วก็ชอบวางทิ้ง
หายไปตรงไหนก็ม่ายรุ๊ เลยหยิบ ว.ของชาวบ้าน
แล้วประกาศแบบเป็นจริงเป็นจัง ว่า ใครหยิบเอาไปช่วยเอามาคืนด่วน
ปรากฎว่าน้อง ๆ ทั้งหลายเค้ารู้แกว พากันกระซิบกระซาบว่า
พี่ปูลืมอีกแง๋ๆ พนันแม่ะ
ว่าแล้วก็พากันเดินย้อนรอยตามทางที่ครูปูผ่านมา แล้วก็เจอทุกทีซิ่น่า
(..แป่ว..)
ทุกวันนี้จะต้องมีคนคอยเดินตาม
จดนู่นนี่ให้อยู่ตลอด คอยเตือน คอยท้วง ทวงนี่นั่น
การเดินไปที่ไหนคนเดียว อาจสร้างความเสียหายให้กับครูปูได้
เหตุเพราะความขี้ลืม แท้ ๆ
ทีเดียวเชียว
เช่นเมื่อสักครู่
นึกสงสารตัวเองว่า แสนจะระกำลำบาก เหนื่อยกายใจ
สายตัวแทบขาด แถมยังต้องมานอนซมเพราะพิษไข้อีก
อย่ากระนั้นเลย ให้รางวัลกับตัวเองดูบ้างเถอะ
ด้วยการกลั้นใจซื้อเครื่องสำอางชุดใหม่ให้กับตัวเอง 1 ชุด และ
แล้ว ก็มีผู้โชคดีได้รับเครื่องสำอางมูลค่ากว่า 1,500
บาทไปครอบครองแทน เพราะครูปูนั่งรอรถเพลิน
เลยลืมวางไว้ที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเซนทรัล รามอินทรา
เมื่อเวลา 19.00 น.
วันนี้นี่เอง อิ..อิ..
เฮ้อ...