ละคร สะท้อน ชีวิต
วันนี้ขณะนั่งทานข้าวมื้อเที่ยงกันได้ยินหลายๆ คน บ่นสะท้อนให้เห็นว่า ละคร แต่ละเรื่อง มีการแสดงให้เห็นบทหนัก ๆ อารมณ์แรงๆ ไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือตัวร้าย จนดูแทบไม่ออกแล้ว ว่า นางเอก ต้องเป็นอย่างไร อย่างเช่น คุณดา คุณดาว จากเรื่องดาวเปื้อนดิน และ หลายคนก็ บอกว่า เป็นห่วงเด็กๆ ที่ดูละคร แล้วยังไม่รู้เท่าทัน จำแต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้น จำอารมณ์ที่รุนแรงไปใช้ในชีวิต ไม่ทราบว่าเด็กจะทันได้ดูผลการกระทำตอนหลังหรือเปล่าว่า ว่าช่วงหลังคุณดาวปรับเปลี่ยนอารมณ์ ตัวเองเป็นอย่างไร คุณดา ไม่รู้จักแม้กระทั่งคำว่าคนดี คืออะไร คนที่ทำไม่ดี จะเกิดผลอย่างไรบ้าง …
เช่นกันวันนี้ก้ามปู เปิดทีวี พร้อมกับการทำงานจึงไม่ได้ตั้งใจดูเท่าไหร่ แต่ได้ยินเสียงทีวี มีบทหนักๆ อีกแล้ว ทราบว่าเรื่อง ถึงร้ายก็รัก แต่ไม่แน่ใจว่า ตัวละครชื่ออะไรกันบ้าง ในใจก้ามปู ก็นึก ขึ้นมาทันที เอาอีกแล้ว ร้าย โดยไร้เหตุผล ทำทุกอย่างได้ เพื่อต้องการแก่งแย่งในสิ่งที่ตนเองต้องการ
แต่อีกใจหนึ่งก็คิดขึ้นมาทันที่ว่า ไม่มีทางหรอก คนเราที่จะคิดจะทำอะไร เค้าก็ต้องมี เบื้องหน้าเบื้องหลัง มีภูมิหลังที่ทำให้เกิดอารมณ์ และ ความคิดเช่นนั้นได้ และ ก็จริงอย่างที่ใจคิด เมื่อถึงตอนท้ายของบท ตัวละครได้นึกถึงอดีต ที่พี่สาว ต้องโดนทำร้ายร่างกายจากวัยรุ่น และโดนข่มขืน เกิดความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ อย่างรุนแรง แม้ครั้งแรก ของความคิดจะบอกให้น้องสาว หนีไป เนื่องจากความหวังดีต่อน้องสาว แต่เมื่อ ตัวเอง ต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ก็อดไม่ได้ที่จะโทษน้องสาว และ คนอื่นๆ ที่อยู่รอบข้าง และส่งผล ต่อพฤติกรรม ในปัจจุบัน
จากตรงนี้ก้ามปู มีมุมมองว่าทำอย่างไรเมื่อเราดูแล้วให้เรารู้เท่าทัน นำมาเป็นบทเรียนให้ตัวเราเอง ยอมรับคะ ว่าคนเราในสมัยนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องร้ายๆในชีวิต ไม่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ที่มาทำร้ายเราไปได้ แต่ เมื่อ พบแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้จิตใจของเรา เปลี่ยนไป ตามเรื่องร้ายนั้นๆ ทำอย่างไร ที่เราจะรู้เท่าทันกับสิ่งเลวร้ายเหล่านั้น หลีกหนี หรือ หลีกเลี่ยง อย่าให้พบ เจอ
หากพบเจอแล้วทำอย่างไรที่จะ ทำให้สภาพจิตใจของเราคงที่อยู่ได้ ประคองจิตใจเราไม่ให้สั่นไหวไปตามสิ่งที่มากระทบ ทำอย่างไรให้เด็กรุ่นหลังได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ก่อนที่ จะ ไปทำร้ายคนอื่นๆ เสียมากมาย จนกว่าจะหมดฤทธิ์ ก่อนที่บั้นปลายของชีวิต จะกลายเป็นคนโรคจิต แบบในบทละคร