ก่อนอ่านบันทึกนี้ฉันขอถามให้คุณลองตอบเมื่อเห็นภาพนี้ว่า “ดอกไม้นี้ประกอบด้วยอะไร”
ฉันได้มีโอกาสฟังการบรรยายของ
นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เรื่อง
การแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์
เมื่อวันที่ 29
พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของทีมในการถอดบทเรียนเกี่ยวกับการแพทย์ที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์
ด้วยการชักชวนของอ้ายเอกของฉัน
ฉันยอมรับตามตรงว่า “มึน”
มากกับศัพท์ทางการแพทย์ที่มากมายเหลือเกิน
ในขณะเดียวกันก็รู้สึก สนุกที่ได้เรียนรู้ใน สิ่งใหม่
สิ่งต่าง และน่าสนใจ
ฉันคิดว่า
เรื่อง การแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์
เป็นหลักคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี
ถึงแม้ตอนนี้ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจมันมากนักโดยเฉพาะในมิติของการแพทย์
แต่ฉันก็มั่นใจว่าหากนำไปปรับใช้ ปรับคิด
ต้องเกิดสิ่งดีดีในคมคิดแน่นอน
ฉันมีหนึ่งเรื่องเล่าที่ถูกใจมาเล่าสู่กันฟัง
ระหว่างนี้ลองทบทวนอีกทีว่า “ดอกไม้นี้ประกอบด้วยอะไร”
การแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ
3
ประการ คือ
1. ความสามารถในการเห็นคน
“ตั้งใจฟังเสียงคนป่วยพูด ให้มากกว่า ฟังเสียงหัวใจเต้นจากหูฟัง”
2. ความสามารถในการเห็นความทุกข์
“ความเจ็บป่วย เกิดจาก โรค และความทุกข์ อย่าเห็นแต่โรค หากมองถึงทุกข์ทางใจด้วย”
3. ความสามารถในการเห็นองค์รวม
“ดอกไม้ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ใบเลี้ยงเดี่ยว เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย กลีบดอก...
เป็นความคิดที่ยังแสดงให้เห็นถึงการมองแยกส่วน...”
แล้วคุณละ “ดอกไม้นี้ประกอบด้วยอะไร”
---^.^---
จิตตปัญญา ที่เกิดขึ้นในบุคลากรการแพทย์ เป็นการมองสิ่งหนึ่ง อย่างลึกซึ้ง ใคร่ครวญ ด้วยจิตที่ละเอียด แบบสัมผัสจิตระดับอณู
ภาพหนึ่งภาพมองต่างกัน ภาพดอกไม้หลายคนมองแยกส่วน และมีบางคนมององค์ของดอกไม้ เพราะ เรามีมุมมองที่ต่าง ...ด้วยความละเอียดของจิต
Humanized Health Care เป็นการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์ ที่เราจะเรียนรู้ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้น แปรจากความประทับใจ สู่เรื่องเล่า ถอดบทเรียนจิตตปัญญา
น้องพิมพ์ ได้ก้าวผ่านการมองสิ่งหนึ่งด้วยจิตที่ใคร่ครวญ ผมคิดว่าประเด็นงานที่เราจะช่วยกันทำต่อไป น่าจะได้เรื่องราวสิ่งดีๆนำมาแลกเปลี่ยนเพื่อยกระดับจิตวิญญาณสังคม
ขอบคุณครับ แง่มุมงดงามที่นำเสนอ
อ้ายเอก
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
๑๑ มิ.ย.๕๑
๐๐.๓๖ น.
สวัสดีครับน้องพิมพ์
สบายดีนะครับ ไม่ได้เข้ามาทักทายนานครับ
ดอกไม้นี้ สำหรับพี่ประกอบด้วย 3 อย่างดังนี้คือ
ดอกไม้เกิดมาเพื่อยิ้ม สมานทุกๆ ส่วนเข้าด้วยกัน ก็เชื่อมด้วยรอยยิ้มครับ
เมื่อมีการกระทบกระัทั่งกัน ก็เชื่อมผสานด้วยคำว่าขอโทษ ทุกอย่างจะดีขึ้น ความงามและรอยยิ้มจะกลับมาอีกครั้ง
เมื่อมีความชื่นใจในความงาม ให้ตามด้วยคำว่าขอบคุณ ขอบคุณบางครั้งไม่ต้องมีเหตุผลมาอธิบายว่าขอบคุณอะไร
นี่คือความงามในดอกไม้ที่พี่มองนะครับ....
ขอให้สนุกในการทำงานนะครับ...
พี่เม้งครับ
สวัสดีค่ะ น้องพิมพ์
มองแยกส่วนก็เห็นองค์ประกอบ...
มองภาพรวมก็เห็นภาพใหญ่...
เลือกที่จะมองในแต่ละโอกาสครับผม...
สวัสดีเจ้า อ้ายเอก
ขอบคุณที่มาให้กำลังใจ และเติมเต็มความรู้ในส่วนที่ขาดหายไป
ขอบคุณอย่างยิ่งที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ใหม่และต่างเดิม
สวัสดีคะ พี่เม้ง
ขอบคุณมากคะพี่เม้ง
ดอกไม้ของพี่เม้ง "เชื่อมสัมพันธ์ผ่านความงามทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้" เลยนะคะ
เมื่อดีใจ ก็มอบดอกไม้ เมื่อเสียใจ ก็ให้ดอกไม้ ...
ดอกไม้แทนความสวยงามในจิตใจเสมอคะ
สวัสดีคะ คุณ Napadol
ขอบคุณสำหรับกุหลาบชมพูดอกโตนะคะ
สวัสดีคะ ป้าแดง
สบายดีคะป้าแดง และหวังว่าป้าแดงก็คงสบายดีเช่นกันนะคะ
ดอกไม้ว่ามีหลายส่วนแล้ว
คนนั่นยิ่งมีหลายส่วนและซับซ้อนมากกว่า คงต้องใช้ใจมองกันถึงจะเข้าใจกระมังคะ
เรื่องนี้น่าเรียนรู้มากคะ...ขอนำมาเล่าให้ฟังจากมุมมองของคนนอกวงการบ้างนะคะ
ขอบคุณป้าแดงมากคะที่แวะมาให้กำลังใจ
สวัสดีคะ พี่ดิเรก
ทุกสิ่งที่เกิดย่อมมีเหตุและผลที่ต่างกัน
ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างความคิด ต่างเวลา
แม้แต่การมอง...มองอย่างไร ก็คงต้องขึ้นกับบริบท
ตามที่พี่ว่า...เลือกที่จะมองในแต่ละโอกาส
ขอบคุณมากคะ
---^.^---
สวัสดีครับ
แวะมาอ่านครับ
สวัสดีครับ
ขอแสดงความคิดเห็นที่อาจจะไม่ตรงกับคำถามนะครับ (กวนความคิด)
1. ถึงที่สุดแล้ว ภาพที่เห็นนี้ไม่ใช่ตัวดอกไม้จริงๆ ครับ เป็นเพียงสีสันที่ปรากฏบนจอ
2. แต่ถ้าถือว่า ภาพที่เห็นเป็นตัวแทนของดอกไม้ที่ถูกถ่ายมา ก็ยังมีแง่มุมให้คิดต่อได้
- นี่คือ ภาพเพียงมุมเดียว เป็นภาพแบนๆ 2 มิติซะด้วย
- มิติอื่นๆ นอกจากภาพหายไปครับ ทั้งกลิ่นอ่อนๆ หรือสัมผัสอันอ่อนนุ่มของกลีบดอก หรือสัมผัสสะดุ้งโหยงเมื่อเจอหนามแหลมคม เป็นต้น (แม้จะจินตนาการ บางคนก็อาจจะคิดออกมาคล้ายๆ กัน แต่บางคนก็อาจจะต่างกัน)
3. แม้จะพูดถึง องค์รวม (holistic view) แต่ก็เป็นไปได้ว่า องค์รวมของแต่ละคน อาจจะต่างกัน! ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และบรรยากาศของความคิดในขณะนั้น
เป็นความคิดเห็นนะครับ หวังว่าคงไม่ทำให้เสียบรรยากาศ ;-)
มีมุมอื่นๆ เช่น สีสัน ซึ่งบางยุคสมัย ก็ตีความ หรือให้คุณค่า ตามที่ต้องการ เช่น เรื่อง พูดจา 'ภาษากุหลาบ' สมัยพระนางวิกตอเรีย
ขอบคุณครับ
สวัสดีคะ คุณ ธ วั ช ชั ย
สบายดีใช่ไหมคะ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านคะ
สวัสดีคะ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นคะ...การคิดต่างไม่ทำให้เสียบรรยากาศหรอกคะ กลับสร้างสีสันเสียมากกว่า
ทุกความคิด ทุกการมอง คงแตกต่างกันไปตามบริบทของตัวคน สิ่งรอบตัว อารมณ์ และความต้องการ...
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนบันทึกกันนะคะ
---^.^---
สวัสดีครับ
ขอบคุณเช่นกันที่เปิดประเด็นที่น่าสนใจครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่า ความคิดและการมองจะเปลี่ยนไปตามบริบท แม้คนๆ เดียวกัน แต่เวลาต่างกัน ก็อาจมองต่างกันได้ ^__^
สัดดีจร๊าเราเข้าดูเรื่องไม้ดอกไม้ประดับเปงส่วนหนึ่งการความรู้มากมายเรียนวิชาก.อ.ท มีอีกจตินาการ
ก็ดี