การเก็บตัวอย่างน้ำเสีย ต้องแน่ใจว่าตัวอย่างที่เก็บ เป็นตัวแทนที่แท้จริงของแหล่งน้ำเสีย ต้องใช้เทคนิคการเก็บที่เหมาะสมและต้องมีปริมาณที่พอเพียง
ประเภทของการเก็บตัวอย่างน้ำเสีย
1. การเก็บตัวอย่างแบบจ้วง คือ การเก็บตัวอย่างเป็นครั้ง ๆ เหมาะสำหรับน้ำเสียที่มีคุณสมบัติคงที่
2. การเก็บตัวอย่างแบบผสมรวม คือ การเก็บตัวอย่างแบบจ้วงหลาย ๆ ครั้งมารวมกัน เป็นการเก็บตัวอย่างทั้งวัน (ทุก ๆ 2 หรือ 4 ชม.)
ตำแหน่งและจุดเก็บตัวอย่าง
การเก็บตัวอย่างน้ำเสีย จุดแรกที่ต้องเก็บคือ น้ำเสียที่เข้าสู่ระบบบำบัด จุดที่มีความสำคัญเท่าเทียมกันคือ น้ำที่ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งหมดของระบบบำบัด หรือน้ำทิ้งในกรณีที่แหล่งรับน้ำทิ้งเป็นลำน้ำสาธารณะ ควรมีการเก็บน้ำที่จุดปล่อยน้ำเสียก่อนทิ้งลงไปด้วย
ปริมาตรของตัวอย่างน้ำที่ต้องการสำหรับงานวิเคราะห์ต่าง ๆ ทั่ว ๆ ไป จะใช้ปริมาณน้ำอย่างน้อย 1000 มิลลิลิตรหรือ 1 ลิตร
หลังจากเก็บตัวอย่าง ต้องเขียนฉลากบอกลักษณะ/รายละเอียดของตัวอย่างน้ำติดข้างขวด ดังนี้
ชื่อตัวอย่าง / จุดเก็บ / เวลา / วันที่ / ผู้เก็บตัวอย่าง
ขวดเก็บตัวอย่าง มักจะเป็นขวดพลาสติก โพลีเอทิลีน หรือขวดแก้วอย่างหนา ควรมีขนาด 500-1000 มิลลิลิตร และมีฝาปิดสนิท การเก็บตัวอย่างทุกครั้งควรล้างขวดด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง การวิเคราะห์ไขมันและน้ำมัน ควรใช้ขวดแก้วเท่านั้น
ขวดเก็บตัวอย่างวิเคราะห์เชื้อ ควรมีขนาด 200 มิลลิลิตร ต้องสะอาดและผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อ
หลักการเก็บรักษาตัวอย่าง เพื่อชะลอปฏิกิริยาทางชีววิทยา ชะลอการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการไฮโดรไลซีส และลดการระเหย ดังนั้นการเก็บรักษาตัวอย่างต้องแช่เย็น และแช่น้ำแข็ง ส่งตรวจห้องปฏิบัติการภายใน 1 วัน หรือ 24 ชม.
ขอบคุณ ผอ.ประจักษ์มากคะ
ผุสดี
สวัสดีค่ะ พี่ยา กุ้งแวะมาหาความรู้ เช่นกันค่ะ
ขอบคุณมากคะ น้องกุ้ง สบายดีนะคะ...ผลน้ำได้แล้วยังคะ