เราคงเคยได้ทราบว่าในป่าลึกรอยต่อจังหวัดน่านและแพร่ มีมนุษย์ดึกดำบรรพ์แต่งตัวด้วยผ้าผืนนิด ล่าสัตว์เป็นอาหาร พักในเพิงที่มุงด้วยใบตอง เมื่อใบตองเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลืองก็ย้ายเพิง เร้นกายห่างไกลผู้คน เมื่อพบคนแปลกหน้าจะหลีกลี้อย่างรวดเร็วราวกับผี เราจึงเรียกพวกเขาว่า "ผีตองเหลือง"
โปรดอย่าเรียกเขาว่า "ผี" เลยครับ เขาไม่ชอบถูกเรียกเช่นนั้น "...เฮาเป็นมล่า บ่ใจ้ผี (มะ-ล่า แปลว่า คน มรี แปลว่า ป่า) เฮาคือ มลาบรี..." เรียกพวกเขาว่า ตองเหลืองหรือมลาบรีเถอะครับ
ยิ่งถ้าทราบว่าแม้จะยากแค้นปานใด สัตว์ก็หายาก วันใดที่ล่าสัตว์ได้แม้จะเป็นกระต่ายหรืออ้นตัวโตกว่าหนูหย่อยเดียว ผู้ล่าได้จะแบ่งปันเนื้อสัตว์ซึ่งตนล่าได้ให้ทุกคน โดยเด็กและสตรีจะได้มากกว่า บ่อยครั้งที่ผู้ล่าไม่ได้กินเนื้อที่ตนล่าเลย เพราะหมดก่อน เหลือแต่ความภูมิใจที่ทำให้เผ่าตองเหลืองอยู่รอดท่ามกลางโลกที่เห็นแก่ตัวนี้ไปอีกวัน
ณ วันนี้ตองเหลืองทุกคนเป็นคนไทย มีเลขประจำตัว 13 หลัก มีบัตรทอง มีสิทธิเลือกตั้ง
แต่การที่จะเลือกใครนั้น ถ้าจะเลือกคนดีแบบมลาบรี คือ คนที่แบ่งปัน การที่หานักการเมืองเยี่ยงนี้พบนั้นยากเต็มที หรืออาจไม่มีเลยสักคน!!!
โลกาภิวัฒน์นำมาซึ่งความเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตน ลูกเมีย น้องพี่นามสกุลเดียว ดังตัวอย่างปัจจุบัน
ตัวอย่างมนุษย์ดึกดำบรรพ์ผู้มีจิตใจอารีอย่างนี้ ต้องรักหวงแหนให้อยู่คู่โลกต่อไป