เฮฮาศาสตร์ 4 ภูเก็ตในเสี้ยวส่วนที่ผมรู้จัก


ทุกครั้งที่ผมและครอบครัวลงไปเช็งเม้งที่บ้านจังหวัดตรัง เรามักจะหาเวลาท่องเที่ยวในที่ต่างๆกัน ครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาเราเดินทางไปเกาะลังกาวีในประเทศมาเลเซียกัน โดยนั่งเรือที่จังหวัดสตูลไปเกาะลังกาวี

 

โดยปกติเรารับรู้ว่าหลายรัฐในประเทศมาเลเซียนั้น เคยอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศไทยมาก่อน เช่นเดียวกัน เกาะลังกาวี เคยเป็นเกาะที่อยู่ในอาณาเขตประเทศสยามก่อนสงครามโลก แต่ด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศในช่วงเวลานั้น ทำให้เกาะลังกาวีต้องตกไปเป็นของประเทศมาเลเซียในปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นชาวมาเลย์นับถือศาสนาอิสลาม ชาวจีน ชาวอินเดีย และชาวไทยอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก….. 

 

เมื่อผมมาที่ลังกาวีจึงได้รับรู้รับทราบเรื่องราวของคนไทย ประวัติศาสตร์ประเทศไทยโดยที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยและเกี่ยวข้องกับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้  

----------------

เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน "วันดารุส" โอรสของเจ้าเกาะลังกาวี พบรักกับสาวงามบุตรชาวนา "มะซูรีย์" จนเมื่อทั้งคู่มีทายาทเป็นเจ้าชายนาม "วันฮาเกม" วันดารุสต้องออกไปรบ ระหว่างนั้น ผู้ไม่หวังดีกล่าวหาว่าเจ้าหญิงมะซูรีย์คบชู้ นางโดนพิพากษาให้ประหารชีวิตโดยไม่มีการไต่สวน ก่อนถูกปลิดชีพด้วยกริชประจำตระกูล นางตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ถ้าหากนางบริสุทธิ์ เลือดที่ออกมาจงเป็นสีขาว และขอให้เกาะลังกาวีจงประสบหายนะ 7 ชั่วอายุคน

เมื่อเจ้าชายวันดารุสกลับมาทราบเรื่อง จึงตัดสินใจสละบัลลังก์ อพยพมาอยู่เกาะภูเก็ต ประเทศไทย และเกาะลังกาวีแห่งนี้ก็ประสบความยากเข็ญ ปลูกพืชหาปลาไม่ได้นานถึงขนาดนั้นจริงๆ 

จากคำบอกเล่าของ สุรีย์ ยายี นับจากรุ่น "วันดารุส" และ "วันมะซูรีย์" แล้ว ก็เป็นรุ่น "วันฮาเกม" สู่รุ่น "วันฮาเก" สู่รุ่น "วันฮูเซน" สู่รุ่น "วันฮาเฉน" สู่รุ่น "วันนาวาวี" โดย 6 ชั่วคนนี้ สืบทอดเชื้อสายเป็น 4 ตระกูล คือ "ยายี" "ดุมลักษณ์" "สังวาล" และ "แสงทอง" จวบจนมีหนังสือพิมพ์มาเลเซียพบว่า "ศิรินทรา ยายี" เป็นทายาทรุ่นที่ 7

 

เช้าตรู่วันที่ 8 เดือน 8 พ.ศ. 2528 เด็กหญิงตัวน้อยๆ ลืมตาดูโลกที่โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต น่าประหลาดที่ท้องฟ้าซึ่งกระจ่างใสอยู่ดีๆ กลับมืดครึ้ม ฝนเทกระหน่ำ ยิ่งไปกว่านั้น วันนั้นทั้งวันในโรงพยาบาลไม่มีเด็กคนไหนคลอดอีกเลย กว่าจะมีเสียงอุแว้ของทารกคนต่อไป ก็จวบจนเวลาเที่ยงคืนขึ้นวันใหม่ไปแล้ว นั่นคือต้นกำเนิดของเด็กสาว "เมย์" ศิรินทรา ยายี ทายาทรุ่นที่ 7 ของพระนางเลือดขาว "มะซูรีย์" 

เมื่อลังกาวีค่อยๆ ฟื้นชีพจากเกาะอันแร้นแค้นกลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของรัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย แน่นอนว่าคนมาเลย์ต่างพากันกล่าวขานว่าเป็นเพราะการมาถึงของน้องเมย์นั่นเอง 

หากยังจำข่าวเกรียวกราวเมื่อหลายปีก่อนได้ หลายคนคงทราบว่า หลังจากศิรินทราและครอบครัวเข้ารับพิธีขอขมาลาโทษจากเกาะลังกาวี ตั้งแต่ครั้งที่เธออายุ 14 ปี และได้รับคำเชิญจากรัฐบาลให้ไปเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ทั้งยังได้เข้าเฝ้าฯ สุลต่านรัฐเกดะห์แล้วนั้น ก็ดูเหมือนชีวิตของสาวน้อยธรรมดาๆ จะพลิกผันสู่ฐานะเจ้าหญิงในมาเลเซีย 

เมย์ได้รับทุนการศึกษาให้เล่าเรียนจนจบมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และยังมีคำชวนให้เมย์และครอบครัวไปปักหลักที่นั่น โดยจะมอบบ้านพร้อมที่ดินให้ แต่ปัจจุบัน เมย์ ได้ลาออกจากการเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว 2 ปีแล้ว หลังจากมีปัญหากับบริษัทหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งในมาเลเซียซึ่งให้เธอเซ็นสัญญามอบอำนาจในการดูแลผลประโยชน์ให้ โดยขณะนี้ เมย์ศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คุณแม่ของน้องเมย์ สุนี ยายี ผู้ถือเป็นหนึ่งในเชื้อสายทายาทรุ่นที่ 6 ของพระนางเลือดขาว และน้องเมย์พบว่า ขณะที่เมย์เรียนที่มาเลเซียนั้น ครั้งหนึ่ง เมย์กลับภูเก็ตเพื่อมาเยี่ยมครอบครัว และมาช่วยจังหวัดประชาสัมพันธ์งาน "ฮาลาล ฟู้ด" แต่บริษัทสื่อดังกล่าวเข้าใจว่า เมย์รับเงินค่าตัวโดยไม่แจ้งให้ทราบ จึงไม่ยอมให้ค่าใช้จ่ายในการเรียนรวมถึงค่าที่พัก ครอบครัวจึงต้องส่งเงินไปให้ และรับตัวน้องเมย์กลับมาเรียนเมืองไทยในเวลาต่อมา

อาชีพขับรถให้นักท่องเที่ยวของคุณพ่อ สุวรรณ ยายี พอช่วยให้ครอบครัวนี้พอมีกินมีใช้ รวมทั้งส่งเสียให้น้องเมย์เล่าเรียนได้ เมย์จึงเลือกเรียน ม.รามคำแหง โดยเลิกพึ่งพิงทุนการศึกษาจากมาเลเซีย ถึงแม้จะมีจดหมายและการติดต่อเรียกร้องให้เธอกลับไปเรียนตามเดิมก็ตาม 

"เราก็อยู่อย่างปกติธรรมดามาตั้งแต่ยังเด็กๆ ถึงเขาจะเสนอบ้าน เสนอที่ดินให้เราไปอยู่ แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าจะให้จริงหรือไม่อย่างไร ตอนนั้นเราก็เสียใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้นกับเรา เอาผลประโยชน์จากเราไปตั้งเยอะ พาไปถ่ายแบบ แต่ไม่ให้ค่าตัว คุณพ่อเลยมารับเมย์กลับบ้าน เมย์คงไม่เอาแล้ว อยู่เมืองไทยดีกว่า" เป็นคำบอกเล่าจากเมย์

ทายาทพระนางเลือดขาวรุ่นที่ 7 บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาตำนานเรื่องพระนางมะซูรีย์บรรพบุรุษของเธอ เป็นที่เล่าสืบทอดกันในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นอยู่แล้ว และมาเลเซียก็มีความพยายามในการตามหาทายาทของพระนางมาโดยตลอด จนเมื่อสืบทราบและค้นพบหลักฐานว่าตระกูลของเธอคือทายาทตัวจริงเสียงจริง ทำให้ครอบครัวของเธอเป็นที่สนใจของคนมาเลย์โดยตลอด ก่อนหน้านี้ คุณน้าของเมย์ก็เคยโดนคนมาเลเซียชวนให้ไปเรียนที่โน่น แต่เมื่อไปจริงๆ ก็กลับโดนยึดพาสปอร์ต ทำให้เข้าประเทศมาเลย์ไม่ได้อยู่หลายปี

 

แม้เมื่ออยู่ในเมืองมาเลย์ เมย์จะเป็นคนดัง ได้รับความสนใจอยู่ตลอด ไปไหนมาไหนต้องมีคนมาขอถ่ายรูปด้วย แต่เมย์ก็ยืนยันว่า การได้อยู่เมืองไทยบ้านเกิดเมืองนอนนี่ล่ะ คือสิ่งที่ดีที่สุด 

"จะว่าเสียดายก็เสียดาย แต่ก็ไม่เป็นไร การไปเรียนที่นั่น ช่วยสอนอะไรเราเยอะมาก สอนให้เราช่วยตัวเอง ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ ถ้าหากจะไปเที่ยว เราก็ยังอยากไปอยู่ เมย์ไปที่นั่นบ่อยมากๆ ตั้งแต่สุสานของพระนางมะซูรีย์ยังเล็กๆ อยู่ เดี๋ยวนี้เขามีการขยายใหญ่ขึ้น มีการตั้งโรงละครด้วย ที่กรุงกัวลาร์ลัมเปอร์เขาก็ดูเจริญกว่าบ้านเรา สนามบินไฮเทค ไปไหนมาไหนสะดวก มีรถไฟฟ้ารอบเมือง แต่อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา คนไทยจริงใจ ไปอยู่ที่โน่นก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แม่สอนเสมอว่าให้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ทุกวันนี้ก็พอใจกับที่เป็นอยู่อยู่แล้ว" เมย์ กล่าว

ขณะที่คุณแม่ของเมย์ เสริมว่า เธอวางอนาคตแค่ว่าขอเพียงให้ลูกสาวเป็นคนดีก็พอ เพราะว่าเมื่อเป็นคนดีแล้ว จะไปอยู่ตรงไหนก็ได้ ทุกวันนี้ครอบครัวยายีก็ยังไปเที่ยวมาเลเซียอยู่เสมอ แต่ก็ไปอย่างเป็นส่วนตัว แม้ถ้าหากแจ้งทางลังกาวีไป จะมีการจัดโรงแรมที่พัก มีการ์ดมาคอยดูแลห้อมล้อมก็ตาม 

"เราจะสอนลูกว่า อย่าไปฟุ้งเฟ้อ ไม่ต้องไปดูคนที่รวยล้นฟ้า ให้ดูคนที่เขาใกล้เคียงกับเราก็พอ แค่มีกินมีใช้ อย่าไปยึดติดกับอะไร เมื่อตายไป เราก็เอาไปได้แค่ผ้าขาวห่อศพเท่านั้น" เป็นคำทิ้งท้ายจากคุณแม่

อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เป็นทายาทพระนางมะซูรีย์รุ่นที่ 7 เมย์ ยืนยันว่า เมื่อมีลูกมีหลาน ก็จะขอเล่าเรื่องพระนางเลือดขาวสืบต่อไป เพราะนี่คือเรื่องราวประจำตระกูลที่ถ่ายทอดมาแล้วถึง 7 ชั่วอายุคนนั่นเอง....

เกาะลังกาวีเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกรัฐมนตรี มหาธีร์ มูฮัมหมัด

เกาะลังกาวี เป็นแผ่นดินปลอดภาษี

เกาะลังกาวี มีแผนงานพัฒนาเป็นคู่แข่งภูเก็ต

เกาะลังกาวีห่างจากเกาะตุรุเตา 8 กม. ห่างจากเกาะภูเก็ตประมาณ 200 กม. ห่างจากริมฝั่งสตูล 30 กม.

เกาะลังกาวีมีเกาะเล็กเกาะน้อยรอบมากมาย เกือบทั้งหมดนั้นเป็นหินอ่อน...???

 

นี่คือเสี้ยวส่วนประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่น่าสนใจมากๆ การที่ผมอยากมาร่วมเฮฮาศาสตร์ มิใช่อยากมาดูความทันสมัยของภูเก็ต แต่อยากมาซึมซับเลือดเนื้อความเป็นไทยของท้องถิ่น และเพื่อนๆหากมีโอกาสเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ ก็น่าจะก่อประโยชน์ครับ และผมยังเห็นว่าความเป็นท้องถิ่นของภูเก็ต มีเสน่ห์ยิ่งนัก

-----------------------

แหล่งข้อมูล : คมชัดลึก ที่ http://webboard.mthai.com/7/2007-02-06/300631.html

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 178030เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2008 23:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

จำได้ว่าอ่านเรื่องพระนางเลือดขาวมานานมาก ตอนเรียนไปภูเก็ตสองครั้ง ไปแหลมพรหมเทพครับ ชอบมากๆๆ ไปดู พระอาทิตย์ตกน้ำ อิอิๆๆ

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • เขียนชวนอ่านจนลืมเข้านอน
  • ขอบคุณมากค่ะ
  • แพลนจะไปทำพิธีขอลูกจากพระนาง ตั้งแต่ 10ปีก่อน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไป เลยไม่มีลูก อิอิอิ
  • ป้าแดงต้องการกุมาร กุมารรีทอง หรือลูกกรอกไหมครับ
  • อิอิๆๆ
  • แถวสุพรรณบุรีและกรุงเทพฯมีครับ

น้องขจิตครับ

แหลมพรหมเทพดูจะเป็นสัญลักษณ์ของภูเก็ตนะครับ แต่ก็สวยจริงๆ

ป้าแดงครับ P 2. pa_daeng [มณีแดง คนสวย แซ่เฮ]

  • เขียนชวนอ่านจนลืมเข้านอน
  • ขอบคุณมากค่ะ
  • แพลนจะไปทำพิธีขอลูกจากพระนาง ตั้งแต่ 10ปีก่อน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไป เลยไม่มีลูก อิอิอิ

ไปคราวนี้จะตั้งโต๊ะใหญ่บูชากันหรือเปล่า อิอิ  เอาเถอะ อะไรที่ทำแล้วดี สบายใจก็ทำไปเถอะ  หากขออีกครั้งไม่มีก็ต้องไปขอลูกจากท่านครูบา ทราบว่าท่านมีคนมาเป็นลูกเยอะแยะ ไปเลือกมาสักคนซิ อิอิ

  • ลูกๆๆพ่อครูเยอะจริงๆด้วยสิคะ แต่สงสัยพ่อครูจะหวงค่ะ
  • ลูกบางคน ก็ซนจังอยู่นิ่งๆๆไม่เป็น อย่างนี้ก็ไม่อยากได้ค่ะ อิอิอิ
  • -----
  • ฝากถึง คนที่เป็นเหมือนที่บอกว่า ไม่ใช่คนเล่นของ จ๊ะ

ก๊ากกกกก......   ป้าแดง

ตัวใครตัวมันเด้อครับ..อิอิ.. 

  • ตามเข้ามาเรียนรู้ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นด้วยคน
  • ขอบพระคุณมากครับ

น่าสนใจครับ

ประวัติศาสตร์ที่อยุ่ใกล้เอื้อมมือ แต่ไม่รู้ สะนี้

เดี่ยวต้องขอนุญาต เป็นลูกศิษย์ ด้วยคน

ขอบคุณค่ะ พี่บางทราย

ดีจังเลย ได้อ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่นภูเก็ต ก่อนไปสัมผัสใกล้ๆ

ขำป้าแดงกับอ.ขจิต ช่างจะมีเรื่องเย้าแหย่กันได้ทุกวัน อิอิ

สวัสดีค่ะ

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ

ภูเก็ตประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก

แต่ระวังเมืองทั้งเมืองอย่าให้ตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติก็แล้วกันนะคะ

โดยเฉพาะการอนุรักษ์บ้านจีนให้คงอยู่ต่อไป

น้องสิงห์ครับ  เรื่องพระนางเลือดขาวนี้พี่จำฝังใจตั้งแต่คราวไปเที่ยวลังกาวีเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาแล้ว  วันนี้มีโอกาสเขียนบันทึกให้แล้ว โล่งใจ เพราะอยากจะเขียนน่ะครับ.. ข่าวมีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ แต่ในวงการ g2k อาจจะยังมีเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้ครับ  .. เลยได้โอกาส อิอิ

สวัสดีครับ P 9. พี่หนุ่มคนตานี

น่าสนใจครับ

ประวัติศาสตร์ที่อยุ่ใกล้เอื้อมมือ แต่ไม่รู้ สะนี้

เดี่ยวต้องขอนุญาต เป็นลูกศิษย์ ด้วยคน

 

เป็นปกติครับ  คนใกล้ตัวอาจไปรู้เรื่องไกลตัวก็ได้ ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด ผมก็มีบ่อยๆไปครับ

เพียงเรื่องนี้เป็นจุดขายของภูเก็ตเหมือนกัน  แต่พึงระมัดระวังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครับ

บังเอิญคนข้างกายผมเป็นคนใต้ มีญาติมากมาย ก็เล่าสู่กันฟัง มาสดุดใจมากๆก็ตอนไปเที่ยวลังกาวี และไปเยี่ยมสถานที่ที่พระนางถูกประหารชีวิตน่ะครับ  ยังมีการจำลองสถานที่พัก และข้าวของเครื่องใช้บางอย่าง (ไม่ทราบว่าจำลองหรือจริง) ของพระนางน่ะครับ  จึงติดในใจผมมาตลอด

สวัสดีครับน้อง P 10. ครูสุ แซ่เฮ

ดีจังเลย ได้อ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่นภูเก็ต ก่อนไปสัมผัสใกล้ๆ

ขำป้าแดงกับอ.ขจิต ช่างจะมีเรื่องเย้าแหย่กันได้ทุกวัน อิอิ

 

ก็เอาเรื่องท้องถิ่นมากลั้วคอ ของจริงๆ ท่านอัยการอัดแน่นโปรแกรมแล้วครับ 

สองท่านนี้เมื่อพบกันต้องให้อยู่ห่างๆนะ  ผมเกรงว่า อ.ขจิตจะตัวลายไปหมด อิอิ โดยข่วน..

น้องสิงห์ครับ  เรื่องพระนางเลือดขาวนี้พี่จำฝังใจตั้งแต่คราวไปเที่ยวลังกาวีเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาแล้ว  วันนี้มีโอกาสเขียนบันทึกให้แล้ว โล่งใจ เพราะอยากจะเขียนน่ะครับ.. ข่าวมีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ แต่ในวงการ g2k อาจจะยังมีเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้ครับ  .. เลยได้โอกาส อิอิ

สวัสดีครับคุณ P 11. lovefull

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยล่ะ

ภูเก็ตประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก

แต่ระวังเมืองทั้งเมืองอย่าให้ตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติก็แล้วกันนะคะ

โดยเฉพาะการอนุรักษ์บ้านจีนให้คงอยู่ต่อไป

 

คนนับเม็ดทราย  อิอิ  เก่งจัง

ก็มีข้อมูลนิดหน่อยเลยไปค้นคว้ามาเติม เพราะสนใจประวัติพระนางเลือดขาวมานานแล้ว  และเป็นเรื่องระหว่างประเทศด้วย มีโอกาสไปภูเก็ตก็หาโอกาสติดตามเรื่องนี้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

แวะมาเรียนรู้ครับ   ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ

อ่านแล้วได้ขอคิดเยอะเลยครับ

แต่ผมอยากได้รูปภาพของทายาส พระนางมซูหรีครับ

ไม่ทราบว่าหาได้จากเว็บไหนได้บ้างครับ

เธอสวยมากเลย

ยังไงก็เมย์มาบอกด้วยได้ป่าวครับ

สวัสดีครับ bigadss

ผมไม่มีภาพพระนางมะซูรีย์ครับ ผมเองก็อยากชมเหมือนกันครับ เมื่อคืนนี้ รายการคุณไตรภพเอาเรื่องราวนี้มาออกอากาศทางทีวี เป็นการสัมภาษณ์ เมย์ ทายาทรุ่นที่ 7 ซึ่งสาระเหมือนที่ผมนำมาจากคมชัดลึดนี่แหละครับ ผมเลยถ่ายรูปเมย์จากทีวีไว้หลายรูปครับ แต่ก็ไม่สวยเพราะข้อจำกัดมาก

เสียใจด้วยครับที่ผมไม่มีภาพมะซูรีย์ครับ

เราเคยทราบประวัติพระนางมะซูรีย์มานานแล้วเพราะเค้าบอกว่าตระกูลแสงทองเป้นหนึ่งในสี่ตระกูลผู้สืบเชื้อสายแต่เมื่อคืนที่รายการคุณไตรภพทำไมไม่มีตระกูลแสงทองอะ ตกลงข้อมูลที่แท้จริงคือตระกูลอะไรบ้างอยากรู้เพราะมันเป็นประวัติศาสตร์ของตระกูลเราเลยนะ ตอนนี้เริ่มงง

สวัสดีครับ ตระกูลแสงทองที่นับถือ

ผมคิดว่าน้องเมล์ตื่นเต้นเลยลืมบอกตระกูลแสงทองไปครับ ข้อมูลที่ผมทราบก็มีตระกูลแสงทองด้วยครับ น้องเมล์ตื่นเต้นไปหน่อย คุณไตรภพก็รีบด่วนสรุปไปครับ ความจริงคุณไตรภพน่าจะศึกษาข้อมูลก่อนหากน้องตอบไม่ถูกก็อาจจะเตือนข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ผมคิดเช่นนั้นครับ

ความจริงก็คือความจริง ซึ่งความจริงก็คือมีตระกูลแสงทองด้วยครับ(ต้องขออภัยผมกล่าวตามข้อมูลที่มี ซึ่งผมเองก้ไม่ใช่คนภูเก็ต แต่สนใจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นน่ะครับ)

การออกรายการทีวีนั้นหากตื่นเต้นมักบกพร่องได้ครับ..

ขอบคุณครับที่ทักท้วงมา

สวัสดีค่ะ

จิงๆๆก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย

จนมาวันนี้ที่ผ.อ.ของโรงเรียนออกมาเล่าหน้าเสาธงให้ฟัง

เลยอยากรู้จึงเสิตหาในเน็ต

จนมารู้ว่าตระกูลแสงทองก็เป็นหนึ้งในสี่ตระกูลผู้สืบเชื้อสายด้วย

ท่านผู้มีญานบอกว่า เลือดพระนางไม่ได้ตกลงพื้นดิน มองไม่เห็น ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นสีขาว..........เคยได้ยินบ่อยๆว่า โลหิตไม่ตกลงพื้น ไม่ใช่เป็นสีขาวหรอก

เคารพในความคิดเห็น และข้อมูลครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท