GotoKnow

อนุทิน ปฏิทิน

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2551 12:49 น. ()
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2555 23:57 น. ()
อนุทิน ปฏิทิน

ครั้งแรกที่เจอคำว่า อนุทิน ใน GoToKnow ผู้เขียนก็สำคัญว่าเป็น บันทึกประจำวัน ที่เพิ่มเข้ามา ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก... ต่อมาก็พบว่าคำนี้แปลมาจากภาษาอังกฤษว่า Journal ซึ่งผู้เขียนก็เพิ่งรู้เช่นเดียวกัน ลองเปิดพจนานุกรมดู เค้าก็แปลศัพท์นี้ว่า บันทึก ได้อีกความหมายหนึ่ง...

อนุทิน คำนี้ไม่ค่อยจะเห็นใช้โดยตรงในบาลี และไม่เคยเจอด้วยว่าในบาลีจะแปลว่า บันทึก หรือ Journal ได้ ... จึงคาดเดาเอาว่า น่าจะเป็นภูมิปัญญาของโบราณาจารย์ไทยที่เลือกบัญญัติคำว่า อนุทินใช้แทน Journal ในความหมายว่า บันทึก

เมื่อแยกศัพท์ อนุ + ทิน = อนุทิน ... โดย อนุ เป็นอุปสัคแปลว่า น้อย, ภายหลัง, ตาม ... ส่วน ทิน เป็นคำนามแปลว่า วัน ... ดังนั้น อนุทิน น่าจะแปลว่า ตามวัน หรือ ประจำวัน

ถ้าจะวิเคราะห์ศัพท์ทำนองบาลีก็อาจจัดให้เป็นศัพท์สมาส โดยเป็นอัพยายีภาวสมาสได้ และตั้งวิเคราะห์ได้ดังนี้

  • ทินสฺส ปฏิปาฏิ อนุทินํ
  • ลำดับแห่งวัน ชื่อว่า อนุทิน

โดยคำว่า อนุ อุปสัค ใช้แทนคำว่า ปฏิปาฺฏิ ในบทสรุป

  • หมายเหตุ ประเด็นนี้ เดิมทีนั้น ผู้เขียนได้อ้างชื่อวิเคราะห์ผิดพลาด ไัดัรับการแนะนำจากกัลยาณมิตร จึงได้แก้ไขใหม่ถูกต้อง (ขออนุโมทนาไว้ ณ ที่นี้ด้วย)

......

เฉพาะ ทิน ซึ่งแปลว่า วัน นี้ อาจตั้งวิเคราะห์ตามรากศัพท์ได้หลายนัย เช่น

  • ททาติ วายามนฺติ ทินํ
  • ธรรมชาติใด ย่อมให้ซึ่งความพยายาม ดังนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า ทิน (เป็นที่ให้ซึ่งความพยายาม)

นัยนี้ ท่านว่ามาจาก ทา รากศัพท์ แปลว่า ให้ ... ลง อินะ ปัจจัย (ทา +อินะ = ทินะ) แปลว่า เป็นที่ให้ซึ่งความพยายาม... อาจอธิบายได้ว่า กลางคืนนั้น  คนง่วงเหงาหาวนอน อยากพักผ่อน จึงถดถอยด้อยความพยายาม แต่เมื่อถึงกลางวัน คนจึงรู้สึกตัว กระปี้กระเปร่า เกิดความพยายามขึ้นมา....

 

  • ทิพฺพติ เอตฺถาติ ทินํ
  • ประชาชน ย่อมร่าเริง ในธรรมชาตินี้ เหตุนั้น ธรรมชาตินี้ ชื่อว่า ทิน (เป็นที่ร่าเริงแห่งประชาชน)

นัยนี้ ท่านว่ามาจาก ทิว รากศัพท์ แปลว่า ร่าเริง ... ลง อะ ปัจจัย แล้วแปลง ว.แหวน เป็น น.หนู  (ทิว +อะ = ทิวะ - ทินะ) แปลว่า เป็นที่ให้ซึ่งความร่าเริงแห่งประชาชน... อาจอธิบายได้ว่า กลางคืนนั้น คนง่วงเหงาหาวนอน ซึ่งต่างกับกลางวัน ที่คนร่าเริงแจ่มใส...

 

  • สตฺตานํ อายุ ทียติ ขียติ เอเตนาติ ทินํ
  • อายุแห่งสัตว์ทั้งหลาย ย่อมสิ้นไป คือย่อมหมดไป เพราะธรรมชาตินี้ ดังนั้น ธรรมชาตินี้ ชื่อว่า ทิน (เป็นเหตุสิ้นไปแห่งอายุของสัตว์)

นัยนี้ ท่านว่ามาจาก ที รากศัพท์ แปลว่า สิ้นไป ... ลง อินะ ปัจจัย (ที + อินะ = ทินะ) แปลว่า เป็นเหตุสิ้นไปแห่งอายุของสัตว์... อาจอธิบายได้ว่า  วันๆ หนึ่งที่ผ่านไปนั้น หมายถึงอายุของสัตว์ก็ย่อมสิ้นไปหรือหมดไปด้วย...

............

อีกคำหนึ่งที่คล้ายกันซึ่งมีใช้ในภาษาไทย คือ ปฏิทิน (ปฏิ + ทิน = ปฏิทิน)... โดย ปฏิ เป็นอุปสัค แปลว่า เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลับ. ...  ดังนั้น ปฏิทิน  จึงน่าแปลว่า  เฉพาะวัน หรือ กำหนดวัน  ...

อนึ่ง ในภาษาบาลีมีคำศัพท์ที่ใช้กำหนดวันคืนหลายสิบศัพท์ และมีอยู่นับสิบศัพท์เช่นเีดียวกันที่มีใช้อยู่ในภาษาไทย เช่น กาล เวลา ขณะ ยาม สายันห์ ราตรี อัสดง อรุณ สมัย ...

 

คำสำคัญ (Tags): #ปฏิทิน #อนุทิน 


ความเห็น

นมัสการค่ะพระอาจารย์

ดิฉันรู้จักคำว่า อนุทิน จากบล็อกของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ค่ะ สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะว่าเด็กรุ่นใหม่จะรู้จักคำนี้หรือไม่ ดีจังเลยค่ะที่พระอาจารย์มาเขียนอธิบายถึงรากศัพท์ของคำว่า อนุทิน ไว้ค่ะ ขอบคุณค่ะ :)

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
มะปรางเปรี้ยว
เขียนเมื่อ

สวัสดีคะ

ตามมาดูความหมายในเชิงลึกที่พระอาจารย์ได้อธิบายไว้

ขอบคุณมากคะ

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

มะปรางเปรี้ยว

 

เจริญพร

Wasawat Deemarn
เขียนเมื่อ

กราบนมัสการครับ พระคุณเจ้า BM.chaiwut

ผมขอแวะมารับความรู้จากบันทึกนี้

กราบขอบพระคุณครับ :)

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

Wasawat Deemarn

 

เจริญพร

จารุวัจน์ شافعى
เขียนเมื่อ

ขอบคุณครับ ได้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นครับ เมื่อหลายปีก่อนเคยนั่งทำหลักสูตรทางด้านภาษาร่วมกับอาจารย์ทางด้านภาษา เขาใช้คำนี้กันเยอะ จนผมงงไปหลายยก

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

จารุวัจน์

 

  • อาตมาก็เล่าเล่นๆ...

ไม่รู้ทำไม นักวิชาการวิชาเกินจึงชอบบัญญัติศัพท์แปลกๆ ใหม่ๆ มาใช้กันจริงๆ...

นักวิชาการไทยก็นิยมบาลีสันสกฤต ส่วนนักวิชาการฝรั่งก็ไปขุดคำกรีกลาตินมาใช้...

กลายเป็นว่า วิชาความรู้ถูกเก็บไว้ในหอคอยงาช้าง ทำให้คนทั่วไปหรือต่างแขนงวิชา ยากที่จะฝ่าด่านภาษาเข้าไปได้...

  • ถือโอกาสบ่น (อีกครั้ง)....

เจริญพร

ยำใหญ่
เขียนเมื่อ

ผมเคยเข้าใจว่า คำว่า ทิน นั้นน่าจะมาจากคำที่หมายถึง พระอาทิตย์ ซึ่งหมายถึง วัน

ขอท่านผู้รู้ให้ความเห็นด้วยครับ

ธ.วั ช ชั ย
เขียนเมื่อ

นมัสการหลวงพี่

เห็นด้วยว่า ศัพท์บัญญัติมากมาย ชอบใช้บาลีสันสกฤต ที่ในพจนานุกรมไทยก็หาไม่ค่อยจะเจอ อาจจะติดปากติดมือกันแล้วก็ไม่แน่ เข้าไปสถานศึกษาบางแห่ง เจอะศัพท์แปลกๆ ที่อ่านยากเขียนยาก

เห็นได้ชัดว่า ศัพท์บัญญัติใหม่ๆ หลายคำมีคนใช้กันพร่ำเพรื่อ และผิดความหมายไป เพราะไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วหมายถึงอะไร

เห็นด้วยอีก ว่าฝรั่งเองก็ขุดศัพท์กรีก ละตินมาใช้ เหมือนกันเลย ;)

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

ไม่มีรูป

ยำใหญ่

 

พระอาทิตย์ ก็มีใช้นับสิบศัพท์เหมือนกัน...

P

ธ.วั ช ชั ย

 

  • อยากดัง ! เรียกร้องความสนใจ !  อวดรู้ !  ...ฯลฯ

ก็แล้วแต่ว่าใครจะคิดว่าอย่างไร แต่ประเด็นนี้มีอยู่จริง... ดังเช่นแวดวงการเมืองไทยปัจจุบัน บางคนออกมาพูดครั้งหนึ่งก็เสนอคำศัพท์ใหม่ออกมาให้วิจารณ์ครั้งหนึ่ง...

โดยส่วนตัว อาตมาชอบคำว่า คนชายขอบ ระดับรากหญ้า ฯลฯ... ซึ่งเป็นคำไทยๆ พอจะเข้าใจได้มากกว่าคำว่า เนติบริการ โลกาภิวัฒน์ ฯลฯ... ซึ่งต้องแปลอีกครั้ง

คำไทย คำโดด คำมูล คำประสม.... เราควรจะเน้นคำเหล่านี้ในการสอนสร้างภาษาไทย มิใช่ชอบอวดรู้นำบาลีและสันสกฤตมาใช้ และหลายคำที่ใช้สืบต่อมาอย่างผิดๆ จนยากที่จะปรับแก้...

เจริญพร

นายขำ
เขียนเมื่อ

พระอาจารย์ครับ... ผมคิดเอาเองว่า...คำใหม่ ๆ เขาใช้กันเพื่อจิตวิทยาภาษาน่ะครับ...

 

คนทั่วไปพอเริ่มชินกับคำเดิม ๆ ความสนใจก็ลดลง...

 

ใหม่สำหรับคนหนึ่งก็อาจเก่าสำหรับอีกคน...

 

ที่พระอาจารย์นำมาอรรถาธิบาย...ส่วนใหญ่ก็ใหม่สำหรับผม...เลยต้องติดตามเป็นประจำครับ....อิอิ

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

นายขำ

 

ท่านเลขาฯ ว่ามา ทำให้นึกถึงความเห็นของน้องเณรรูปหนึ่ง (ลาสิกขาไปสิบกว่าปีแล้ว) เธอว่า...

คนเราโดยมาก มักเกรงถูกกล่าวหาว่า โง่ ดังนั้น เมื่อมีใครยกศัพท์ใหม่ขึ้นมา ก็มักจะเงียบเสียง แต่ก็เงี่ยหูฟัง เพื่อจะได้จดจำไปอวดรู้กับใครบางคนต่อไป...

ที่เธอได้ให้ความเห็นอย่างนี้ เพราะน้องเณรรูปนี้ มักจะจำศัพท์แปลกๆ ใหม่ๆ จากอาตมาแล้วไปอวดภูมิรู้กับเพื่อนที่โรงเรียนประจำ...

เจริญพร

ธรรมดาสามัญ
เขียนเมื่อ

ที่พระอาจารย์ว่า "ถ้าจะวิเคราะห์ศัพท์ทำนองบาลีก็อาจจัดให้เป็นศัพท์ตัทธิตได้ และตั้งวิเคราะห์ได้ดังนี้ ทินสฺส ปฏิปาฏิ อนุทินํ ลำดับแห่งวัน ชื่อว่า อนุทิน"

น่าจะเป็น"สมาส"มากกว่านะครับ เป็นนิปาตบุพพกะ อัพยยีภาวสมาสครับผม

 

ธรรมดาสามัญ
เขียนเมื่อ

ขออภัยครับ..พิมพ์ผิด..เป็นอุปสัคคบุพพกะ อัพยยีภาวสมาสครับ..หมายถึงมีอุปสัคอยู่หน้า คำว่า "อนุ" เป็นอุปสัค..ขอบคุณครับ..^_^

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

ไม่มีรูป

ธรรมดาสามัญ

 

  • ขออนุโมทนาอย่างสูงยิ่ง....
  • ผิดพลาดจริงๆ ...

มีอะไรผิดพลาดก็ช่วยแนะนำมาด้วย ... บางบันทึกผิดพลาด ไม่มีใครทัก ก็ผิดอยู่เป็นปีๆ กว่าจะไปอ่านเจอแล้วได้แก้...

เฉพาะตามวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ ไม่ผิด แต่อ้างชื่อผิด และตอนนี้ก็ได้แก้ไขตามคำแนะนำแล้ว...

ส่วนสาเหตุที่ผิดพลาด...  น่าจะเป็นเพราะอัพยายีภาวสมาส ใช้อุปสัคแทนเนื้อความ ขณะที่ตัทธิตใช้ปัจจัยแทนเนื้อความ... จึงเผลอเรอไป....

มีอะไรก็ผิดพลาดโปรดแนะนำมาอีก จะได้แก้ไขให้ถูก... ขออนุโมทนาอย่างยิ่ง (อีกครั้ง)

เจริญพร

 

 

กวิน
เขียนเมื่อ

มาลงชื่ออ่านครับกระผม

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

กวิน

 

ตั้งแต่ตั้งเขียนเล่าเรื่องบาลี เพิ่งครั้งนี้แหละ ที่ ผิดพลาด จังเบอร์เลย (5 5 5 5....)

เจริญพร

ทนัน ภิวงศ์งาม
เขียนเมื่อ
  • นมัสการพระคุณท่านBM.chaiwut ที่เคารพ
  • ตามเข้ามาอ่าน ประเทืองปัญญาขอรับ
  • กราบ 3 หนขอรับ 

กราบนมัสการท่านค่ะ

  • มาเติมความรู้เรื่อง อนุทิน
  • ในความหมายความเข้าใจของตัวเองจะขอแปลความอนุทินที่ G2K ให้ตัวเอง เอง ว่า สมุด Note เล็ก จดไว้กลัวลืมค่ะ...จดนิดๆ หน่อยๆ เพื่อรู้เรื่องคนเดียว เข้าใจคนเดียว แล้วค่อยมาขยายอีกที่ในบันทึก ในบล็อก ค่ะ
  • แต่บางที่การจดเป็นคำสั้น เป็นพยางค์ ๆ อาจจะถูกครูภาษาไทยดุใช่ไหมคะ เพราะว่าเปิดเผย...
BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

ทนัน ภิวงศ์งาม

 

  • กำลังติดตามอนุทินของอาจารย์อยู่...

เห็นอาจารย์เพิ่มเติมผู้ติดตามอนุทินของอาตมาเข้ามา แต่ไม่นานก็ลบทิ้งไป จึงคาดหมายว่า อาจารย์คงกำลังจัดระเบียบอนุทินส่วนตัวอยู่ (......)

...........

P

ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

 

  • เห็นด้วยกับครูภาษาไทยคนนั้น...

เพราะถ้าเราเปิดเผยก็ควรใช้ภาษาให้คนอื่นพอจะอ่านได้รู้เรื่อง แต่ถ้าเราไม่เปิดเผย ต้องการจะไว้อ่านคนเดียว เราจะเขียนอย่างไรก็ได้เพื่อให้เรารู้เรื่องเท่านั้น...

เหมือนตอนเรียนหนังสือ สมุดจดของเพื่อนบางคน ใครๆ ก็ชอบอ่าน ถึงกับนำไปถ่ายเอกสารกันเลยก็มี  แต่ของบางคน  พอเห็นก็คืนเลย เพราะอ่านไม่ออก  ดูไม่รู้เรื่อง (5 5 5....)

ฟังว่าปราชญ์บางท่าน ตอนเรียนจะจดหน้าหนึ่ง อีกหน้าหนึ่งก็จะเก็บไว้เขียนวิจารณ์ที่อาจารย์สอน เมื่อกลับถึงที่พัก เพราะเพิ่งเรียนมา และยังไม่ลืม... อาตมาเคยนำวิธีการนี้มาใช้บ้างเหมือนกัน แต่ก็ทำได้เพียงบางครั้งบางคราวหรือบางวิชาเท่านั้น...

เจริญพร

ทนัน ภิวงศ์งาม
เขียนเมื่อ
  • นมัสการพระคุณท่านBM.chaiwut
  • รับว่ากำลังจัดระเบียบอนุทินขอรับ
  • ได้ติดตามอ่านแลก็ศึกษาวิธีเขียนอนุทิน โดยเข้าไปอ่านอนุทินของสมาชิก ร่วมทั้งของพระคุณท่านด้วย
  • และก็เคยคลิกที่"ติดตามอ่านอนุทินนี้"ของพระคุณท่านด้วยขอรับ
  • และด้วยความไม่แน่ใจว่า จะสมควรหรือ? หากไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของอนุทินก่อน ทำนองนี้แหละ จึงลบออกไปก่อน
  • มาบัดนี้ ก็พอจะรับรู้/รับทราบขึ้นมาบ้างแล้ว ก็เลยขอเป็นแฟนประจำในอนุทินพระคุณท่านด้วยก็แล้วกันขอรับ
  • กราบ 3 หนขอรับ
BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

P

ทนัน ภิวงศ์งาม

 

  • อนุโมทนา....

เจริญพร

กริช
เขียนเมื่อ

กราบนมัสการหลวงพี่

มารับความรู้ด้วยคนครับ

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

ไม่มีรูปกริช

 

เจริญพร

ไออุ่น
เขียนเมื่อ

กราบนมัสการพระมหาฯ ค่ะ ขออนุญาตเก็ความรู้ด้วยคนนะคะ 

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่า "อนุทิน" คืออะไร และมีไว้ทำไม 

ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ

ขอบพระคุณมากค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย