ดูเหมือนคนพิษณุโลกจะเป็นห่วงคนกระบี่เรื่องอากาศร้อน จึงได้เลือกสถานที่กินอาหารเย็นที่ชุ่มฉ่ำเย็นไว้รับ แล้วคนพิดโลกก็ร้อนด้วยมั๊ง
เลย 6 โมงครึ่ง เราได้เจอกับทีมร.พ.พุทธฯ........บางคนฉันรู้จักแล้ว.........บางคนเพิ่งมาเจอหน้าเจอตัววันนี้.......ส่วน 5 สาวของฉันถือว่าได้พบเพื่อนใหม่ .........ใหม่ๆก็ยังเก้อเขินกันอยู่.........การพูดคุยกันจึงไม่ใคร่มีเสียงดังสักเท่าไร..........บรรยากาศเหมือนการนั่งกินข้าวทั่วไป.........พวกใครพวกมันจับกลุ่มนั่งแบบนี้เสียมากกว่า.........ต้องบอกว่า ทีมร.พ.พุทธฯ ประสบการณ์น้อยกว่า คนร.พ.กระบี่ ........ เหตุการณ์นี้เหมือนที่กระบี่เมื่อเริ่มรับแขกที่ไปดูงาน HA ในช่วงแรกๆ เราต้องเกณฑ์คนมารับแขก....... เวลามารับแขกกันก็เคอะเขิน ไม่รู้จะนั่งยังไง เลยต่างคนต่างแยกวง
บริบทแบบนี้........เลยถูกกลุ่มผู้บริหารปรับปรุง........จัดการมอบบท สั่งงาน ให้ลงไปนั่งแทรกกับแขกในฐานะเจ้าบ้าน.........เลือกวงให้นั่งให้ตรงกับเรื่องที่แขกจะคุยด้วย.........พอได้นั่งแทรก......คุยด้วยกันไปไม่นานเดี๋ยวก็หายเคอะเขินกัน......คุยกันต่อได้ลื่นไหลเอง.........เหมือนการฝึกสุนทรียสนทนา.......ยังไงยังงั้น..........จนเดี๋ยวนี้ คนกระบี่รับแขกเก่ง...........แต่.....เวลามี VIP ไปเยี่ยม.....ก็หายหมดเหมือนกัน....แหะ...แหะ....
น้องโต้งบอกว่า.........ทุกคนยินดีและตั้งใจต้อนรับเรา........อาจจะเป็นเพราะตั้งใจมากไปกระมัง...... เลยทำให้เกิดความเคอะเขินไม่เป็นธรรมชาติ.............กินข้าวไป.......อิ่มแล้วก็คลายอารมณ์กันไปด้วยการร้องเพลง...........ทีมเทศบาลกระบี่ยังมาไม่ถึง.......ได้ข่าวคราวว่าจะถึงพิดโลกราว.....3ทุ่ม.......เจ้าบ้านได้ช่วยอำนวยความสะดวก.......ประสานงานให้รถโรงแรมไปรับ........มื้อนี้เลยมีแต่ทีมกระบี่และทีมร.พ.พุทธฯ กินข้าวด้วยกัน
วันนี้ ฉันร้องเพลงไม่ได้เรื่อง.......น่าจะเป็นเพราะอยู่ๆ........น้องก็ยื่นไมค์มาให้ร้อง.......เลือกเพลงมาให้เสร็จสรรพ..........ผลปรากฎว่า........เพลงเดิมที่เคยร้องได้ดี วันนี้ไม่ได้เรื่องเลย.......ก็ได้เรียนรู้จากตัวเองว่า........ไอ้ที่คิดว่าทำได้นั้น..........ถ้ามันเป็นของที่ไม่ชำนาญ.......ไม่อยู่ในสันด........มันต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นเข้ามาช่วย.......ฉันว่าความผ่อนคลายที่มาพร้อมกับความพร้อม ........คือองค์ประกอบสำคัญ..........ความพร้อมในที่นี้ไม่ใช่ความมั่นใจ........แต่เป็นความพร้อมที่ผ่อนคลาย.......มีสติรับรู้ตัวตนในความพร้อมอย่างผ่อนคลาย........พร้อมจะทำเรื่องดีๆ..........การมั่นใจว่าเคยทำได้ดีไม่ใช่ความพร้อม.............ผลที่เกิดขึ้นจากการผ่อนคลาย......รับรู้........ไม่ตัดสินก่อน......นี้แหละจะได้อะไรดีๆกว่าที่คิดไว้
คนชอบวิ่ง แวะมาร่วมวงด้วยราว 4 ทุ่ม........เจอกันใหม่ๆ......... การคุยของพี่หมอยังเป็นการคุยผ่านทีมพิษณุโลกมาสู่ฉันอยู่........... ไม่ใช่เคอะเขิน..........แต่เป็นการเล็งๆทางว่า.........พูดยังไงจึงจะเข้าขากันหว่ามั๊ง.........แล้วก็ไม่นานที่เราได้คุยกันตรงๆ...........ซึ่งคราวนี้ทีมร.พ.พุทธฯ เหมือนจะกลายเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้ร่วมวง
คุยกันพอหอมปากหอมคอถึง 5 ทุ่ม ........ก็กลับมาพักผ่อน.........ฉันว่าพี่หมอยังอยากคุยต่อ....... แต่ติดว่าทีมใหญ่ ไม่ไหวแล้ว..........คืนนี้ฉันได้ยินคำใหม่ๆหลายคำจากพี่หมอ เช่น มณฑลแห่งพลัง ไพ่เจไดที่ไม่ใช่ไพ่เจไดที่ฉันเอ่ยถึงในบันทึก ..........การแปลงร่างของสัตว์สี่ทิศ..........
กลับมาที่โรงแรม.........ก็พบเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดฝัน........ทีมเทศบาลกระบี่ ..........ยังรอเราอยู่..........คำแรกที่ทักทาย..... คือ.......หมอกินข้าวนานจัง........ แปลว่า.......เขารอเรากันอยู่นาน......ใจรู้สึกไม่สบาย....ที่ทิ้งเขาไว้ลำพัง.........ลืมนึกไปว่า.......สามารถมารับเขาไปคุยกับคนชอบวิ่งได้.........แต่ในเมื่อแก้ไขไม่ได้แล้ว.....เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว.......ก็รับไว้เป็นบทเรียนรู้อีกบทของตัวเอง
แจ้งนัดหมายและโปรแกรมวันรุ่งขึ้นให้ทั้งหมดทราบว่า...........จะย้ายที่พักคืนรุ่งขึ้นแล้วจะกลับมาพักใหม่ในช่วงดูงาน.......ให้ทุกคนได้จัดการเรื่องของตัวเองและวางแผนเรื่องสิ่งของ.......แล้วจึงแยกย้ายกันเข้านอน
นอนหลับสบายดี ไม่รู้สึกหนาวเหมือนนอนห้องแอร์ที่โรงแรมอื่น อาจจะเป็นเพราะภายนอกอากาศร้อนกระมัง แอร์เลยไม่เย็นเกินไป
5 เมษายน 2551
บรรยากาศ ณ วันที่พบกับคนชอบวิ่ง แม้ภาพจะไหว แต่ก็มีคุณค่าในความทรงจำ ขอบคุณคนที่ช่วยถ่ายให้
ลุงหมอสุธีเป็นคนอารมณ์ดีเจ้าค่ะ คิคิ...หนูแวะมาอวยพรขอให้มีความสุขมากๆนะเจ้าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---> น้องจิ ^_^
ดอกคูณ โดนลมสอยร่วงเมื่อคืนนี้
แวะมาขำค่ะ
อิอิ พ่อน๊า...พ่อครูบา โดน !!