ฃีวิตที่เปลี่ยนไปของ blogger


มองสิ่งรอบข้างในมุมที่เปลี่ยนไปคือมองหาจุดดี หรือถ้าเป็นจุดเสีย ก็มองแบบหาทางแก้ไข
        ได้มีโอกาสคุยกับสาวนางหนึ่ง     ก็คนที่จุดประกายและคอยกระตุ้นให้เขียน blog  นั่นแหละ (คนสนิทคุณ mito)    พี่ท่านถามว่าตั้งแต่มาเขียน blog รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปยังไงมั่ง    หลังจากคิดอยู่  2 วิ   ก็ตอบว่า...คงอยู่หน้าคอมฯ  มากขึ้นมั๊ง  จากที่ปกติก็อยู่นานอยู่แล้ว    แต่พี่ท่านเฉลยว่า   นั่นก็ใช่   แต่ที่ใช่มากกว่าน่าจะเป็น    การมองอะไรที่ละเอียดและพินิจพิเคราะห์มากขึ้น    มองอย่างจดจำ    เพราะต้องจำมาเขียน    ใช่จริงๆ ด้วย   อย่างตอนนี้จะเขียนเรื่องกิจกรรมงานคุณภาพของชาว sero     ก็เลยจำเป็นต้องโผล่หน้าเข้าไปถามทุกเรื่องที่ใครเค้าทำกัน (อาจกลายเป็นตัวยุ่ง...โดยตั้งใจ)     ถามว่างานนี้งานโน้นถึงไหนแล้วคะ   แล้ว pathoOTOP 2 กลุ่ม seroOK  ของเราล่ะ    จะเริ่มแล้วยัง      พอได้ยินคำถาม  พี่กุศล    หัวหน้าทีมสุดสวยของเรา    ก็คิด...คิด...คิด   เป็นการใหญ่   นัยว่าจะนัดระดมสมองเร็วๆ  นี้  
        จากการเขียน blog  มาไม่นานสรุปได้ว่า
        ข้อดี 
        1. มองสิ่งรอบข้างในมุมที่เปลี่ยนไป    คือมองหาจุดดี (ที่จะนำมาเขียนได้)   หรือถ้าเป็นจุดเสีย   ก็มองแบบหาทางแก้ไข (เพื่อที่จะนำมาเขียนอีกที  เมื่อแก้ไขได้แล้ว)  จากที่เมื่อก่อนได้แต่บ่น
        2. ใส่ใจงานอื่นๆ  ที่นอกเหนือจาก routine test และงานวิจัย มากขึ้น   (เช่น งาน QA - QZ, ISO 1- หลายหมื่น)    จากที่เมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจเพราะเห็นว่ามันทำให้เสียเวลางานและน่าเบื่อมากๆ 
        3. เป็นการกระตุ้นให้ตัวเองและบุคลากรในห้องได้ตื่นตัว   เริ่มทำโปรเจคอะไรๆ  ที่คิดไว้ซะที   หลังจากที่เงื้อง่าราคาแพง  มานาน   (และพอถามคนอื่นบ่อยๆ  ว่างานไปถึงไหน    ก็หันมามองตัวเองว่า   แล้วงานเราล่ะ..ก็ได้เวลาเริ่มทำซะที...ดีจัง)
        ข้อเสีย
        1. เป็นโรคติด blog  (blogmania หรือ  blog-lism ???)
        2. ขี้โม้มากขึ้น 
หมายเลขบันทึก: 17560เขียนเมื่อ 4 มีนาคม 2006 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
คำเตือน "อย่าไปหลงกลคนสนิทคุณ ไมโต เชียวนะ" เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ดูพี่เม่ยเป็นตัวอย่าง หลวมตัวเป็นเพื่อนกันซะจนถอนตัวไม่ขึ้นจวบเท่าทุกวันนี้
     ขอร่วม ลปรร. ด้วยครับ ที่ผมเขียนอยู่ ผมใช้ "Blogger" ไม่ได้ใช้ "Bloger" เห็นตามหัวเรื่องนะครับ ไม่แน่ใจว่าอย่างใหนถูกครับ ขอความรู้ด้วยนะครับ

จริงด้วยค่ะ  คุณชายขอบ   ขอบคุณที่ช่วยแนะนำค่ะ

แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ

อยากให้คนในภาคฯ และในมอ ได้อ่านบันทึกนี้เยอะๆ จัง ขนาดคุณ nidnoi ที่เป็นสมาชิกมาไม่เกิน 1 เดือน ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้  ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ ค่ะ

ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ สิ่งสำคัญได้กัลยาณมิตรเพิ่มขึ้น จาก B2B
รู้สึกดีใจจังเลย ที่ได้อ่าน blog ดีๆ อย่างนี้ แล้วอย่าลืมชวนคนสนิทของอีตาไมโต มาเขียนด้วยซิ ยายคนนั้นเขาเป็นคนละเอียด เจ้าความคิด และมีมุมมองที่ดีที่บางครั้งเราก็คิดไปไม่ค่อยถึง เลยทำให้อีตาไมโตต้องคอยปรึกษาในเกือบทุกเรื่องที่จะต้องทำ (ปรึกษานะไม่ใช่รายงาน) ที่สำคัญยายคนนี้เขามีโครงการข้ามชาติเยอะ (คิดชาตินี้เอาไว้ทำชาติหน้า)  
ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ  จากทุกท่านค่ะ
เห็นด้วยกะคุณบอย  ว่า การเขียน blog ทำให้เรามีกัลยานมิตรเพิ่มขึ้น
สำหรับ  "คนสนิทคุณไมโต"  ได้ข่าวแว่วๆ  มาว่าจะเขียนเรื่อง  ยี่สิบกว่าปีแห่งความหลัง   จะเล่าตั้งแต่สมัยที่หอบเสื่อผืนหมอนใบ  เหมารถไฟหนึ่งโบกี้  จาก มช.  มาทำงานที่พยาธิ   เราก็จะได้รู้ว่า  การทำงานที่ภาคพยาธิ สมัยก่อน   เป็นยังไง   เดาเอาว่า  นิยายเรื่องนี้จะมี  พระ - นาง  2 คู่   นะคะ 
พี่เม่ย  เห็นด้วยมั๊ยคะ
เฮ้อ! คนแก่มักจะเล่าถึงแต่เรื่องอดีต..คำนี้มอบให้ "ยายคนนี้" ของคุณ "ไมโต" ค่ะ
อดีตเป็นที่มาของปัจจุบัน และทำให้เรามีอนาคต นะครับ ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้อดีตของตัวเอง จริงมั้ยพี่เม่ย ผมว่าน่าสนใจออก ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน (ยังไงก็ต้องเชียร์คนของเราอยู่แล้ว) เรื่องนี้มันยาวนะ เกือบยี่สิบปีแห่งความหลัง ทำเป็นซีรีย์ได้หลายตอน กลัวแต่ยายคนนี้จะรวบเหลือ แปดบรรทัดจบ แล้วรอให้ยาขอบมาขยายความเป็นแปดเล่มทีหลัง
ขอบคุณค่ะ คุณเป็นคนที่ทำให้ KPI ของเราบรรลุผล  ตั้งชื่อเรื่องได้เก๋จริง ๆ แสดงว่าไม่คุณเป็นคนที่มีจิตนาการมาก  คุณก็อ่าน BLOG คุณชายขอบมากหล่ะ (แอบแซว)  สำคัญที่ตั้งชื่อจริงๆ  ดิฉันเห็นด้วยกับ tacit ของคุณชายขอบขึ้นมาจริง ๆ

ขอบคุณ  อ.เมตตา ค่ะ

ฟัง(อ่าน) แล้ว  อยากจะเป็นคนคุณภาพ  ขึ้นมาจริงๆ  แล้วสิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท