อ. อนุช อาภาภิรม เขียนไว้ในรายงานฉบับที่ 22 ประมวล วิเคราะห์ สังเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มประเทศไทย (กรกฎาคม - ธันวาคม 2548) ประเทศไทย 2548 : บ่ายหน้าสู่ทางใด เสนอต่อ สกว. (ดูฉบับสมบูรณ์ได้ในเว็บไซต์ สกว.) โดยในหน้า 18 - 19 มีข้อความดังนี้
9. บทลงท้าย :
บ่ายหน้าสู่เศรษฐกิจ - สังคมความรู้
การสร้างสรรค์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
กระบวนโลกาภิวัฒน์ที่นำโดยบรรษัทข้ามชาติได้ทวีความเข้มแข็งขึ้น
ด้วยแรงหนุนสำคัญจากกลุ่มประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น
จีน อินเดีย
ได้ร่วมขบวนอย่างแข็งขันในการเปิดการค้าและการลงทุนเสรีทั่วโลก
การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum)
หรือสภาดาวอส ล่าสุดในปลายเดือนมกราคม 2549
ดำเนินไปอย่างองอาจ ปราศจากกลุ่มประท้วง
มีแก่นเรื่องปีนี้ว่า "การสร้างสรรค์ที่ไม่อาจเลี่ยงได้" (The
Creative Imperative)
ชี้ให้เห็นความจำเป็นในการต้องใช้ความรู้เพื่อการสร้างสรรค์
ในอันที่จะปรับตัวเองใหม่ในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป
และการเปลี่ยนแปลงทางศูนย์อำนาจและความขัดแย้งในโลก
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการสร้างเศรษฐกิจ/สังคมความรู้อย่างจริงจัง
ในอีกด้านหนึ่ง การประชุมคู่ขนานได้แก่ สมัชชาสังคมโลก (World Social Forum) ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นปีที่ 6 เป็นข่าวน้อยลงกว่าเดิมมาก เป็นสัญญาณบ่งชี้การอ่อนแอลงของกระบวนต่อต้านโลกาภิวัฒน์ในเฉพาะหน้านี้ด้วย
คาดหมายได้ว่าประเทศไทยจะบ่ายหน้าสู่เศรษฐกิจ/สังคมความรู้ไปด้วย บ้างโดยเต็มใจ บ้างโดยจำใจและบางครั้งเร็ว บางครั้งช้า แต่เศรษฐกิจ/สังคมความรู้นั้น ก็มิได้ราบรื่นสดใหม่อย่างที่คาด หากเป็นไปด้วยความเร็วและความแรงจากการแข่งขัน มากด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ผู้คนจำต้องเปลี่ยนกรอบความคิดและความเคยชินแบบเก่าสู่แบบใหม่ การเข้าใจสภาวะแวดล้อมตามความเป็นจริง การกล้าเสี่ยงเพื่อไปบรรลุสู่จุดมุ่งหมาย นี่คือมิติหนึ่งของเศรษฐกิจ/สังคมความรู้ มันเป็นสังคมที่ทำให้คนต้องตื่นตัวอยู่ตลอด ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงและแปลกใหม่ การสำแดงตัวตน การทำงานเป็นทีม เพราะว่าความรู้ที่เป็นประโยชน์ต้องเป็นความรู้ขององค์กร
ในเศรษฐกิจ/สังคมความรู้นั้น การออกแบบตั้งแต่การออกแบบทางวัตถุจนถึงการออกแบบสังคม และการแสดงในการแข่งขันคือทุกสิ่ง ถ้าหากไม่ปรับให้เป็นรัฐทันสมัย ก็จะกลายเป็นรัฐที่อยู่ชายขอบได้ในเวลาไม่นาน มันเป็นด่านทดสอบประชาติต่าง ๆ มากกว่าเป็นสังคมในฝัน
สรุปว่า ประเทศไทยกำลังบ่ายหน้าสู่ สังคม/เศรษฐกิจความรู้
แต่ผมตีความคำนี้ไม่เหมือน อ. อนุช เสียทั้งหมด เพราะ อ. อนุชค่อนข้างจะเอาเศรษฐกิจ - สังคมความรู้ไทย ไปแขวนไว้กับโลกาภิวัฒน์ ซึ่งผมว่าอันตราย
เราควรต้องพัฒนา สังคม-เศรษฐกิจความรู้ ฉบับไทยขึ้นมาเอง เราต้องไม่ยืมเอา สังคม/เศรษฐกิจความรู้ แบบตะวันตกหรือฉบับโลก เอามาใช้แบบใช้ทั้งดุ้น ไม่ปรับให้เป็นของเราเอง ซึ่งถ้าเราพัฒนาฉบับไทยขึ้นมาก็เท่ากับเราพัฒนาชุมชนภิวัฒน์หรือ Localizationขึ้นมาสร้างสมดุลกับ Globalization เปลี่ยน Globalization แบบรุกกลืน ให้เป็นแบบที่เชื่องลงหน่อยให้เป็นมิตรกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของเราหน่อย
ไทยเรามีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรม ควรจะสามารถทำให้กระแสโลกาภิวัฒน์เชื่องลง และเป็นมิตรกับวัฒนธรรมไทยได้
เครื่องมือคือ KM ในทุกอณูของสังคมไทย
วิจารณ์ พานิช
2 มี.ค.49
ไม่มีความเห็น