หลังจากเขียนมาแล้ว 4 ตอนก็มีปัญหาตัวขี้เกียจมาเกาะ ทำให้ชะงักไป วันนี้พอจะมีเวลาว่าง เพราะมาเป็นวิทยากรหลักสูตรการจัดการขยะมูลฝอยโดยชุมชน ( Community Based Solid Waste Management - CBM ) ที่ ERTC – Environmental Research and Training Center ( ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม ) กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตฺและสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 19 และ 20 มีนาคมนี้
ศูนย์ฝึกอบรมนี้อยู่ที่คลองห้า ปทุมธานี อากาศดีมาก แต่อยู่ค่อนข้างไกล จะไปที่ชอบก็ลำบาก อิอิ จะชวนนายเอกไปเืที่ยวด้วยกันก็กลัวจะพาไปวัดยามค่ำคืน เลยไม่ได้ไปไหน ทานมื้อเย็นเสร็จก็ว่าง ชวนคนเล่น Crossword ก็ไม่ว่าง เลยนั่งเขียนบันทึกให้จบตอนดีกว่า
ต่อเลยนะครับ หลังจากที่ได้นั่งสนทนากับอาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู ในบ่ายวันที่ 24 กุมภาพันธ์ อาจารย์ก็ชวนทานมื้อเช้าด้วยกันจะได้สนทนาต่อเช้าวันที่ 25 โอกาสยังงี้ต้องรีบตระครุบ รีบรับปากทันที ไม่ต้องคิดเลย อิอิ
ตื่นแต่เช้าไปวิ่งออกกำลังกายที่สนามบินเก่า เพราะเมื่อวานติดพันไม่ได้ออกกำลังกายเลย ( เจออาจารย์มาเดินออกกำลังกายเหมือนกัน ) เสร็จแล้วก็ไปตามนัด อาหารเช้าที่ห้องนั่งเล่นก็สั่งเป็นอาหารฝรั่งครับ แต่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ อร่อยมากครับ ของผมมีสลัด น้ำผลไม้ ขนมปัง ใส้กรอก ปริมาณก็พอดีๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป
ลืมเล่าไปนะครับ ห้องนั่งเล่นนี่เป็นร้านอาหารด้วย แต่คุณเมจะทำออกมาทางอาหารเพื่อสุขภาพแต่เน้นว่าต้องอร่อยด้วย หรือจะเป็นคุกกี้ธัญพืช ทานพร้อมน้ำชาหรือกาแฟตามอัธยาศัย
พออิ่มแล้วก็เริ่มสนทนากัน นายหนุ่มที่เกรงๆอาจารย์ตั้งแต่ออกจากพิษณุโลกก็มาจองที่นั่งติดอาจารย์เลย แถมเอาใจคอยรินน้ำชาให้อาจารย์ ( คงกลัวอาจารย์จะไม่ถ่ายทอดวิชาให้ ) การสนทนาจะเป็นในรูปแบบการซักถามประเด็นที่ไม่เข้าใจ เพราะเหล่านักการซุ่มอ่านหนังสือที่ซื้อไปเมื่อวานเกือบทั้งคืน อิอิ
เช้าวันนี้คนชอบวิ่งนั่งฟังด้วยความสนใจ พูดค่อนข้างน้อย ( แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ว่าคนอื่นจะเห็นด้วยรึเปล่า อิอิ ) ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องกิจกรรม กระบวนการต่างๆที่ใช้ในการฝึกอบรม เรื่องของสุนทรียสนทนา เรื่องการจัดการความรู้ อาจารย์บอกว่าจะมีการอบรมเรื่องการจัดการความรู้เร็วๆนี้ นักการเมี่ยงกับนักการอิ่มก็รีบจีบอาจารย์ว่าขอเข้าร่วมด้วยคนได้ไหม อาจารย์ก็บอกว่าถ้าไม่เกินสองคนก็พอจะรับได้ เข้าทางเลยนะ อิอิ
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เที่ยงพวกเราก็ลาอาจารย์เพื่อไปเชียงใหม่ตามที่ได้รับปากน้าอึ่งอ๊อบไว้ แต่ก็ธรรมดาก่อนจากเชียงรายก็ขอแวะวัดร่องขุ่นหน่อย ไปทานกลางวัน เยี่ยมดูวัดร่องขุ่น มีโอกาสได้ถ่ายรูปกับอาจารย์เฉลิมชัยด้วยนะ อิอิ
ระหว่างทางไปเชียงใหม่ก็มีการทำ AAR ไปตลอดทาง รู้สึกว่าเหล่านักการดีใจมากๆที่มีโอกาสได้สนทนากับอาจารย์ บอกว่ามีความมั่นใจมากขึ้น ( หลังจากที่นักการอิ่มและนักการเมี่ยงไปอบรมกับอาจารย์ที่เชียงรายอีกครั้งก็บอกว่า ได้รับความรู้และประสบการณ์อีกมาก การอบรมที่สุพรรณบุรีให้ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร ของ อ. หมู คงจะดีกว่าที่เชียงใหม่ น้าอึ่งอ๊อบไม่ต้องน้อยใจนะครับ อิอิ )
ต้องขอจบ Miniseries เยื่ยมวงน้ำชาลงแล้วนะครับ แต่ความประทับใจและประสบการณ์ครั้งนี้คงฝังแน่นในความทรงจำของคนชอบวิ่งไปตลอดครับ
คนที่รักจะเป็นกระบวนกร ( Facilitator ) หรือที่เรียกว่าคุณอำนวย ควรจะต้องศึกษาเรื่องจิตวิญญาณไว้ด้วยนอกเหนือจากความรู้ด้านอื่นๆ จะได้รู้จักตัวเอง พัฒนาตัวเอง เข้าใจตัวเอง ควบคุมตัวเองได้ แล้วใช้ความรู้เหล่านี้เพื่อรักและเข้าใจผู้อื่น ผู้ที่อยู่ในวงสุนทรียสนทนา หรือผู้เข้ารับการอบรมสัมนา จะทำให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้น การทำงานในฐานะกระบวนกรก็จะสมบูรณ์ขึ้นด้วยครับ
อิอิอิอิอิ .................
สวัสดีคะคุณหมอคนชอบวิ่ง
อยากให้ถึงวันที่ 2 เมษายน 2551 เร็ว ๆ จังเลยคะ
สวัสดีครับ
เข้ามาเกี่ยวความรู้ไปเก็บครับ หวังว่าสักวันผมจะได้แสดงบทบาทนี้ในองค์กรบ้าง ตอนนี้เริ่มมีอาการคันใจแล้วครับ อิอิ
1. อ.หมู
ทีมมหาชีวาลัยสองแควก็นั่งนับวันไปสุพรรณอยู่ครับ อิอิ คิดถึงๆๆๆๆ
2. สะมะนึก แซ่เฮ
อิอิ รักกันจริง ก็มารับเลย แต่งตัวนั่งรออยู่แล้ว อิอิ
3. ข้ามสีทันดร
ไม่ต้องรอสักวันๆๆ หรอกครับ ว่างเมื่อไหร่ก็เชิญที่มหาชีวาลัย สวนป่าเลย อิอิ
พี่นิด
งานเลี้ยงมีวันเลิกลา เรื่องเล่าก็ต้องจบครับ อิอิ
ดีใจครับที่พี่นิดชอบอ่าน
คนที่รักจะเป็นกระบวนกร ( Facilitator ) หรือที่เรียกว่าคุณอำนวย ควรจะต้องศึกษาเรื่องจิตวิญญาณไว้ด้วยนอกเหนือจากความรู้ด้านอื่นๆ จะได้รู้จักตัวเอง พัฒนาตัวเอง เข้าใจตัวเอง ควบคุมตัวเองได้ แล้วใช้ความรู้เหล่านี้เพื่อรักและเข้าใจผู้อื่น ผู้ที่อยู่ในวงสุนทรียสนทนา หรือผู้เข้ารับการอบรมสัมนา จะทำให้ชีวิตส่วนตัวดีขึ้น การทำงานในฐานะกระบวนกรก็จะสมบูรณ์ขึ้นด้วยครับ
ว๊าว ชอบค่ะ
อยากรู้นิหน่วย(พูดแบบสำเนียง ตปท) กระบวนกรธรมชาติเป็นได้ไหมคะ แบบว่า ไม่ต้องฝึกแต่เป็นเองเลย
9. จันทรรัตน์
กระบวนกรรรมชาติมีครับ
ลองนึกดูว่าใครที่เรารู้จักที่มีใจรักเราและคนทั่วไปเต็มร้อย
ลองนึกดูว่าใครที่เรารู้จักที่รู้จักและเข้าใจเรา
ลองนึกดูว่าใครที่เรารู้จักสามารถทำให้เราเรียนรู้อะไรบางอย่างได้ โดยที่ไม่ต้องบรรยายให้เราฟัง เรารู้สึกเองเลยว่าใช่เลย ปิ๊ง คลิก แว๊บเองได้เลย
และคนคนนั้นไม่เคยเรียนหรืออบรมวิชาครู หรืออบรมการเป็นกระบวนกรมาก่อน
ดูธรรมด๊าธรรมดา สามัญ แต่ไร้กระบวนท่า มีกระบี่อยู่ที่ใจ คนนั้นแหละครับ
อิอิอิอิ
อ่านครบจบทุกท่า เอ๊ย ทุกตอน ใจลึ๊ก ลึก แล้ว อยากไปด้วยทุกงาน แต่ติดปัญหา ....เรื่องเด็ก ๆ.... แต่ได้คอยสอบถาม พูดคุย กับนักการอิ่ม บ่อย ๆ หลังจากกลับมา ก็จะรู้สึกตื้นเต้น อิน ด้วย ทุกครั้ง แต่อย่างน้อยก็ได้รับรู้ถึงความปลื้มปิติของทุก ๆ คนที่ได้ไป ก็ประทับใจด้วยแล้ว ขอบอก....
ถูกต้องแล้วคร๊าบ...เจ้าค่ะ...^_^
ทำความรู้จักตนเอง...ดีกว่าการทำความรู้จักคนอื่น...
เมื่อไรก็ตามที่เรารู้จักและเข้าใจในตนเอง...อย่างถ่องแท้...
เมื่อนั้นแหละค่ะ...เราจะเริ่มเข้าใจในผู้อื่นมากขึ้น...
...ย่องๆ... มาอ่าน และรอฟังเรื่องเล่า...
ด้วยใจ...ที่ระทึกเจ้าค่ะ
(^_______^)
กะปุ๋ม
11. แข็งนอกอ่อนใน
อย่ามัวรำมวยนาน พับแขนเสื้อโดดลงมาเลย ไม่ทำไม่รู้ อิอิ
12. Ka-Poom
อิอิ ตั้งแต่กระปุ๋มทัก ก็คลิกเลย ตอนนี้ขยันขึ้นแล้วครับ อิอิ
ขอบคุณมากที่ช่วยเตือนสติ
ว่างๆแวะมาช่วยต่อยอดหน่อยนะครับ อย่าลืมนัดเรื่องวิ่งขอนแก่นมินิฮาล์ฟมาราธอนนะครับ อิอิ
(^___________^)
16. ขจิต ฝอยทอง
ไม่เข้าใจ ทำไมอ่านบันทึกนี้แล้วนอนไม่หลับ งง
ชุมชนจิตวิวัฒน์ ที่เชียงรายนี้มีชื่อนะคะ ดีใจด้วยที่ได้อาจารย์ดีค่ะ
19. Sasinanda
พี่ Sasinanda นี่รอบรู้จริงๆนะครับ
น้าอึ่งอ๊อบบ่นถึง อยากให้พี่ไปภูเก็ตด้วน่ะครับ อิอิ