ช่วงนี้ผมค่อนข้างยุ่งบ้าง เพราะเตรียมสะสางงานที่ค้างเพื่อเตรียมตัวรับงานชิ้นใหม่ พร้อมกับงดรับงานนอกที่เข้ามาบ้างในระยะนี้ มีเวลาใน Gotoknow น้อยลง เข้ามาอ่านบันทึกที่เก็บไว้ในแพลนเน็ตบ้าง เห็นบันทึกที่น่าสนใจแต่ไม่ได้อ่านแบบเจาะลึกเท่าไหร่
ในการสะสางงานส่วนหนึ่งผมต้องทำรูปเล่มงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ส่งให้แหล่งทุนเพื่อปิดโครงการด้วย รูปเล่มสมบูรณ์ต้องอาศัยการจัดหน้าเอกสาร การจัดฟอนท์ที่พอเหมาะ รวมถึงกฏเกณฑ์บางอย่างตามเจ้าของทุนแจ้งมา ผมค่อนข้างให้ความสำคัญในการทำงานด้านเอกสารเพราะว่า เอกสารเหล่านี้จะออกไปเผยแพร่สู่สายตาคนนอก รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์หลังจากเสร็จสิ้นงานวิจัยต่อไป เรียกได้ว่าให้รายละเอียดถึงตัวฟอนท์ การตกแต่งข้างใน การใช้รูปภาพ และการทำรูปเล่มที่สวยงาม น่าจับต้อง ซึ่งปกติงานวิชาการ หากไม่ใช่เเวดวงคนทำงานด้านนี้แล้วก็ยากที่จะหยิบขึ้นมาอ่าน
ผมได้ใช้บริการร้านทำรูปเล่มแห่งหนึ่งหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทางร้านเสนอทางเลือกในการใช้กระดาษว่า มีกระดาษกรีนรีดที่ถนอมสายตา เนื้อกระดาษออกสีเหลืองนวลและกระดาษดับเบิ้ลเอ ๘๐ แกรม ให้เลือก สอบถามผมว่าต้องการแบบไหน?
ผมพิจารณางานที่เขาให้มาดูเป็นตัวอย่าง เอกสารที่ทำด้วยกระดาษถนอมสายตานั้น ดูสวยและอ่านง่าย ไม่สะท้อนตาจริงๆด้วยครับ เลยสนใจ
ทางร้านบอกต่อว่า ราคาต่างกันกับกระดาษธรรมดา คือ "แพงกว่า" ที่ว่าแพงกว่านั้นคือ คิดในราคา ๖๐ สตางค์ จากกระดาษปกติประมาณ ๔๕ - ๕๐ สตางค์
ผมจึงตัดสินใจเลือกแบบกระดาษถนอมสายตาครับ เพราะแพงกว่าไม่เท่าไหร่ และที่สำคัญชิ้นงานออกมาดูดี สวยงาม ผลงานที่ออกมาหลังจากเข้าเล่มทั้งหมด น่าภาคภูมิใจมาก เพราะสวยถูกใจผมกระดาษถนอมสายตา หรือ Green read จึงเป็นทางเลือกของการทำเอกสารในตอนนี้ ลองใช้บริการดูบ้างนะครับ
วันนี้ผมถือโอกาสนำเอาความรู้เรื่อง กรีนรีด(Green read) มาฝากทุกท่านด้วยครับ
กระดาษถนอมสายตา เป็นกระดาษชนิดไม่เคลือบผิว สีของกระดาษจะออกสีตุ่นๆ ไม่ขาวจั๊วะเหมือนกระดาษขาวทั่วไป จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ กระดาษปอนด์ขาว, กระดาษถ่ายเอกสาร, กระดาษคอมพิวเตอร์, กระดาษแอร์เมล์ เป็นต้น แต่แตกต่างตรงกรรมวิธีการผลิต
เป็นความรู้ใหม่ของผม และอาจเป็นความรู้ใหม่ของหลายท่าน เป็นทางเลือกของการนำเสนองานเอกสารที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรแก่ผู้อ่านครับ
ขอบคุณ
ข้อมูลและภาพบางส่วนอ้างอิงจาก www.greenread.com
ได้ความรู้ดีครับเรื่องกระดาษถนอมสายตา
เป็นความรู้ใหม่จริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ แพงกว่าไม่มาก แต่คุ้มกับสายตาเราค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณเอก
จำได้ว่าเคยซื้อหนังสือพอคเกตบุคที่ใช้กระดาษถนอมสายตา แต่ไม่ได้ทราบรายละเอียดลึกขนาดเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ แต่มีคำถามที่สงสัย ไม่ทราบว่า คุณ จตุพร จะทราบหรือเปล่า เกี่ยวกับขนาดของกระดาษอ่ะค่ะ ลองเข้าไปอ่านคำถามที่ http://gotoknow.org/blog/doubtfulmind/169405 นะคะ ถ้าไขข้อข้องใจได้จะเป็นพระคุณอย่างสูงค่ะ ขอบคุณค่ะ
ช่วงที่เรียนผมก็ชอบใช้สมุดที่เนื้อกระดาษเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นกระดาษถนอมสายตาหรือเปล่า รู้สึกว่าถ้าใช้สมุดแบบนี้จดบันทึก ผมมักจะเรียนรู้เรื่องมากกว่าวิชาอื่นๆ (ความรู้สึก/ข้อสังเกตส่วนตัว) อิอิ
สวัสดีค่ะคุณเอก
- ได้ความรู้มากเลยคะพี่เอกเพราะกำลังมีปํญหาเรื่องสายตาอยู่คะ ต้องหามาใช้บ้างแล้วหละ..อิอิ
น้องครูทรายเมืองแปง
สวัสดีครับ อ.ประถม
เห็นด้วยครับ สำหรับข้อเสนอแนะของอาจารย์ ว่าเราควรศึกษารายละเอียดของคำบอกเล่าให้ชัดเจน ว่านัยยะแฝงเชิงธุรกิจหรือไม่ครับ
โดยส่วนตัวผมชอกระดาษสีนี้ อ่านแล้วสบายตามากขึ้น และไม่ค่อยสะท้อนแสง
รายละเอียดทั้งหมดที่เขียนผมได้นำมาจาก เวปของ greenread ครับ
ขอบคุณมากครับผม
สวัสดีครับ คุณกวินทรากร
เป็นความรู้ใหม่ของผมครับ พอได้ยินมาบ้าง ผมเคยเขียนหนังสือก็เลือกเอากระดาษประเภทนี้มาใช้ครับ สวยงาม น่าอ่านดีครับ
ขอบคุณครับ
น้องออต ครับ ผมคิดว่าเมืองใหญ่เช่นขอนแก่น แถมยังมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ การจัดการเอกสารแบบนี้ต้องมีแล้วแน่ๆครับ...ลองดูนะครับ
กระดาษสีสวยดีครับ ดูแล้วสบายตามาก
พี่Sasinanda ครับ
ราคาที่ผมแจ้งคือ การถ่ายเอกสารครับ หากเป็น ดับเบิ้ลเอ ราคาอยู่ที่ ๔๕ สตางค์ ถึง ๕๐ สตางค์
แต่หากเป็น green read อยู่ที่ ๖๐ สตางค์ แพงไปกว่ากัน ๑๐ กว่าสตางค์ ก็ถือว่าคุ้มดี เอกสารที่ได้สวยดี ไม่สะท้อนแสงมาก สบายตาดี
ดูตามคุณสมบัติต่างๆที่นำมาเขียนบันทึกแล้วก็ถือว่าคุ้มดีครับ
พี่อุ๊ a l i n l u x a n a =) ครับ
หนังสือพอคเก็ตบุ้คส่วนใหญ่ใช้กระดาษแบบนี้เลยครับ อ่านง่าย สบายตา ราคาต้นทุนอาจเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ดูคลาสสิคดี
ขอบคุณครับพี่อุ๊
คุณกบข้ามสีทันดร ครับ
กระดาษสีน้ำตาลผมเคยใช้ตอนเรียน ป.หนึ่ง สมุดเล่มละ ๕๐ สตางค์ จนถึง ๑ บาท น่าจะรุ่นเดียวกันนะครับ ...
จากนั้นก็มีสมุดขาวๆมาโดยตลอด ...
คุณ doubtful mind ครับ
คำตอบเรื่องขนาดกระดาษอยู่ที่นี่ครับ คลิ้ก
สวัสดีครับคุณdanthai
ส่วนใหญ่ที่เห็นก็นำมาใช้เป็นสมุดทำมือ หนังสือทำมือกันนะครับ น่าอ่าน น่าใช้ ต้นทุนอาจสูงกว่ากระดาษสีขาวบ้าง แต่ไม่มาก น่าสนใจครับ
สบายดีนะครับ ฝากหอมแก้มหลานทั้งสองด้วยครับ
น้องทรายโรงเรียนบ้านเมืองแปง ครับ
พี่เอกว่าสายตาน้องทรายแปรผันตามอายุแล้วหละครับ คงแก้ไขยากนะครับผม ลองหาแว่นสายตายาวมาใช้ อาจจะดีขึ้นนะครับผม อิอิ :-P (อะ ล้อเล่น)
เป็นความรู้ใหม่ครับ สงสัยผมคงต้องบอกให้น้องๆอัยการเอาหนังสือผมไปพิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา เพราะผมอ่านเองยังแสบตากับความขาวของกระดาษเลยครับ
พี่ อัยการชาวเกาะ
หนังสือที่ผมมอบให้พี่นั้น (กระบวนการเรียนรู้ สู่เส้นทางสีขาว) นั้น ใช้ Green read ครับ ทำให้อ่านง่ายสบาย และสำคัญอีกอย่างเรื่อง Font ด้วยครับ อยากให้ หนังสือพี่ขยาย Font หน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณเอก :)
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อ.Wasawat Deemarn
ขอบคุณครับที่ซื้อหนังสือของผม...ขอให้อ่านอย่างเพลิดเพลินและมีความสุข ถนอมสายตาด้วย GREEN READ และถนอมมิตรภาพด้วยความรู้สึกดีๆนะครับ :)
และมีโอกาสคงได้พบเจอกันครับ เมื่อบุญมา วาสนาส่ง จะเซ็นลายเซ็นแบบบรรจง ตั้งใจ
ผมจะเลี้ยง wawee ไอซ์บูม คาราเมล ครับ :))
สวัสดีค่ะคุณ จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
งานพีอาร์ที่สำนักหอสมุด มช. ตอนนี้ก็พยายามถนอมสายตาผู้ใช้บริการค่ะ เวลาพิมพ์แผ่นโฆษณาติดบอร์ดต่าง ๆ (เช่นในลิฟท์) ก็จะใช้กระดาษ Green Read นี่แหละค่ะ พอติดแล้วเปรียบเทียบกับกระดาษสีขาว ดูดีอ่านแล้วตัวเองมีความสุข (สุขที่ได้ทำสิ่งเล็ก ๆ) แต่เสียดายมีแต่ขนาดเอสี่...(ก็เลยพยายามได้ครึ่งเดียวอยู่)
ช่วงงานสัปดาห์หนังสือแห่งปีที่ มช. (CMU Book Fair) ปีที่ผ่านมาเราก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก Green Read ส่งสมุดบันทึก กระดาษ Note และหนังสือคำคม มาให้แจกเป็นของกำนัลนักอ่าน 2 กล่องใหญ่ค่ะ นักอ่านในงานที่ได้รับชื่นชอบกันมาก...
สวัสดีครับ คุณดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี
ดีใจที่ได้รู้จักคน มอ ชอ ครับผม
Green Read อ่านแล้วสบายตาจริงๆครับ แต่ราคาก็สูงกว่าสีขาวเล็กน้อย ผม ลองมาทำรูปเล่มรายงานแล้ว ดูดีมากครับ น่าจับต้อง น่าหยิบ
มีเวลามาทักทายกันบ่อยๆครับผม
ผมอยากรู้จังครับ
เห็นพี่ บอกว่า ไอ้เจ้า green read มันดีซะผมคิดว่า มันเป็นสิ่งที่จะมาเปลี่ยนแปลงงานเอกสารได้ในอนาคต
แล้วพวกพี่มีความเห็นยังไง เมื่อใช้มันแล้ว ขอข้อเสียนะครับอยากรู้อ่ะครับ เพราะของทุกสิ่งมันต้องย่อมมีข้อเสียใช่มั้ยครับ?(ราคาแพงอย่าบอกนะครับ เพราะมันต่างหันไม่มาก)
ถ้าในความคิดเห็นพี่ ชื่อ Green read มันเหมาะสมมั้ยครับกับเจ้ากระดาษนี้ ถ้าไม่เหมาะเพราะอะไร แล้วพี่อยากเปลี่ยนมันมั้ย ถ้าเปลี่ยนได้ อยากให้ชื่อใหม่อะไรกับมัน
แล้วพี่ชอบไอ้เจ้ากระดาษนี้ เพราะอะไรนอกเหนือจากถนอมสายตา
ผมไม่รุว่าตอนนี้ในมหาลัย เค้าเริ่มนิยมใช้กันบ้างยัง เพราะรายงานบางอย่างเค้าค่อนข้างจรองจังเรื่องรูปแบบ ช่วยตอบทีนะครับ
ขอบคุณ ล่วงหน้าคร๊าบบบบบบ
เจ้านู๋ขี้สงสัย
อยากทราบเกียวกับหลักการตลาด แผนธุรกิจของกระดาษ green read ค่ะ
พอจะทราบบ้างรึเปล่าค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะค่ะ ส่งผ่านมาในเมลล์ก็ได้นะค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
18. เพชร [IP: 202.12.73.4]
เมื่อ ส. 27 มิ.ย. 2552 @ 12:08
1373898 [ลบ] [แจ้งลบ]
อยากทราบเกียวกับหลักการตลาด แผนธุรกิจของกระดาษ green read ค่ะ
พอจะทราบบ้างรึเปล่าค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะค่ะ ส่งผ่านมาในเมลล์ก็ได้นะค่ะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
ผมอยากได้คำตอบเช่นกันครับท่าผู้รู้ช่วยรบกวนตอบหน่อยนะครับ (ผมใช้ทำรายงานส่งอาจารณ์ครับ) ส่งผ่านทางเมลก็ได้ครับขอบคุณล่วงหน้าครับ
อยากรู้ว่าม.ขอนแก่นมีกระดาษถนอมสายนี้ขายแต่ไม่รู้ว่ามีขายที่ไหน ไม่ริมหนึ่งราคาเท่าไร อยากซื้อบ้าง ในเมืองมีขอนแก่นมีขายบ้างหรือเปล่าอยากได้มานานแล้วได้รับแจกมาเลยชอบสีกระดาษมากช่วยตอบกลับทางอีเมล์ด้วยคะ
นกก็เป็นคนนึงที่เลือกซื้อหนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตาค่ะ
เพราะนอกจากจะน้ำหนักเบา ทำให้ถืออ่านง่าย พกพาไปไหนสะดวก
และไม่ปวดไหล่เวลาสะพายกระเป๋า
ยังทำให้อ่านหนังสือได้นานขึ้น และไม่ปวดตาด้วย เพราะกระดาษถนอมสายตา
ไม่สะท้อนแสงเข้าตาเราค่ะ ดีต่อสายตาทีเดียว
และอีกอย่าง ถ้าเป็นหนังสือนิทาน ตอนนี้มีสำนักพิมพ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
และดูแลสุขภาพของเด็กๆ ด้วย คือ พิมพ์ด้วย soil ink เป็นน้ำหมึกที่ทำจาก
ถั่วเหลือง ไม่มีกลิ่นเหม็นเหมือนหมึกทั่วๆ ไป ดีต่อสุขภาพของเด็กๆ ค่ะ
ถ้าใครจะซื้อหนังสือให้เด็ก ดูว่าเขาพิมพ์ด้วย soil ink หรือเปล่า ก็ดีไม่น้อยนะคะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่นำมากระตุกต่อมคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ค่ะคุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
มีพ๊อกเก็ตบุ๊คที่ทำจากกระดาษแบบนี้ด้วยค่ะ
ช่วงหนึ่งนิยมเรียกกันว่ากระดาษรีไซเคิลใช่รึเปล่าคะ
ซึ่งมักจะเขียนบอกที่ข้างปก หรือหน้าปกว่า..หนังสือเล่มนี้ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล...
ช่วงหลัง ๆ นี้ไม่ค่อยเห็นแล้วค่ะ
แจ๋วว่ะเก่งมาก