วันนี้ (26 ก.พ. 51) เป็นวันที่มีการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งต้านยาเสพติด สำหรับนิสิต มมส ณ ลานวัฒนธรรม โดยปกติผู้เขียนเองก็เป็นคนที่ชอบเสียงเพลง และชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจืตใจ ถึงจะร้องไม่ค่อยไพเราะก็ตามที่ โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่ง
ผู้เขียนกลับจากทำภาระกิจ(รับลูก ๆ) ก็กะว่าจะมาดูนิสิตประกวดร้องเพลงที่ลานวัฒนธรรม พอถึงลานวัฒนธรรม นั้งได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็มีคนมาทาบทามให้เป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ซึ่งอาจารย์ท่านที่ได้ประสานไว้ลืมว่าวันที่จะมาเป็นคณะกรรมการน่ะมีสอน อาจารย์ท่านติดสอนที่ไหนสักแห่งผู้เขียนเองก็จำไม่ได้
ผู้เขียนเองก็งงอยู่เหมือนกัน เป็นกรรมการจำเป็นอีกแล้ว ด้วยความที่เป็นคนชอบร้องเพลง คณะผู้ดำเนินงานก็โยนให้ผู้เขียนทันที (นึกในใจเอาก็เอา) ยังไงประธานก็มาแล้วหาคนแทนไม่ได้ กองกิจการนิสิตก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานอยู่แล้ว
มีนิสิตเข้าประกวดทั้งสิ้น 33 คน แยกประเภทชาย-หญิง รางวัลมี 4 รางวัล
1. ชนะเลิศ
2. รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง
3. ชมเชย 2 รางวัล
เมื่อท่านประธานเปิดงาน ลำดับที่ 1 ก็เริ่มร้องเพลงไปเรื่อย ๆ จนถึงคนที่ 5 ก็มีการประกาศผู้ที่ได้รับรางวัลการประกวดคำขวัญต้านยาเสพติด และพิธีกรก็เริ่มประกาศ คนที่ 6-10 เรื่อย ๆ และมีการทอคโชว์แทรกกับการร้องเพลง จนถึงลำดับที่ 11-20 เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เขียนเองก็เริ่มสังเกตุหน้าตาคณะกรรมการด้วยกัน เคร่งเครียดน่าดู เพราะนักร้องมีแต่เสียงดี ๆ ทั้งนั้นตัดสินยากมากค่ะ พอจนถึงคนที่ 33 (คนสุดท้าย) เราก็ยิ่งหนักใจเท่าตัว คิดอยู่ว่าถ้าไม่ตรงใจกับคนดูจะเป็นอย่างไร และตรงใจจะเป็นอย่างไรบ้าง
คณะกรรมการก็เลือกคนที่ดูแล้วฟังแล้วก็น่าจะไม่ผิดจากคนดูสักเท่าไหร่ ผลออกมาก็มีทั้งพอใจและไม่พอใจแต่ก็ไม่มีนิสิตที่ตกรอบกล้าเข้ามาถามว่าร้องดีแล้วทำไมไม่ได้ ก็มีแต่ผู้ที่ได้รางวัลเท่านั้นที่กล้าเข้ามาถามว่าผมร้องเพลงเป็นอย่างไรบ้าง ผู้เขียนเองก็ให้คำแนะนำเขาไปตามที่ได้ฟัง อาศัยเป็นคนชอบร้องเพลงฟังดูแล้วไพเราะ จังหวะไม่เพี้ยน ลีลาการนำเสนอหน้าเวทีดีไหม๊ และการใช้ภาษาที่ถูกต้อง.......
การเป็นคณะกรรมการจำเป็นครั้งนี้เล่นเอาผู้เขียนเองและกรรมการอีก 2 ท่าน ปวดศีรษะไปตาม ๆ กัน เนื่องจากผู้เข้าประกวดเป็นจำนวนมาก
หลาย ๆ คน พอเสร็จสิ้นจากการตัดสินก็มีบุคลากรกองกิจเข้ามาคุยด้วย เขาบอกว่า "ปวดหัวแทนกรรมเด้" เด้ ภาษาอีสาน แปลว่าจัง (ปวดหัวแทนกรรมจังเลย) อะไรประมาณนั้นค่ะ
ปวดหัวจริง ๆ ค่ะ เพราะตัดสินยากมากโดยเฉพาะนักร้องหญิง ร้องไพเราะมาก เล่นเอากรรมทั้ง 3 ท่าน ต้องกินยาแก้ปวดไปตาม ๆ กัน
ท้ายสุด......แต่ก็สนุกดีค่ะ มีความสุขที่ได้ฟังเพลง และทำงานในสิ่งที่ตนเองชอบ มีความสุขอย่าบอกใครค่ะ อิอิ
ขอบคุณกรรมการจำเป็น มาก (ครับ) .. เชื่อว่าครั้งต่อไปจะมีการต่อยอดกิจกรรมนี้ได้ดีกว่านี้
สำหรับคนริเริ่มบุกเบิกอย่างข้าพเจ้าฯ ก็จะถอยไปซุ่มดูอยู่อย่างเงียบๆ ...และเชื่อว่าครั้งต่อไปคนที่มีความสามารถเยอะ ๆ จะแห่เข้ามาประกวดอย่างล้นหลาม
จริง ๆ ถ้ากรรมการได้ร้องโชว์บ้างก็น่าจะดี... ว่ามั๊ย
กรรมการจำเป็นคนนี้เก่งจริงๆค่ะ
ลูกๆเห็นตัวอย่างจะได้ชอบเพลงตามไปด้วย การร้องเพลงดนตรีทำให้เด็กอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิดง่ายและเพิ่มความคิดสร้างสรรค่ะ
ตอนนี้หลานตัวน้อยของพี่ก็ฮัมเพลงแล้ว และทำตัวโยกๆกระโดดๆไปกับเสียงเพลงด้วย ชอบดูเวลาเขาสนุกๆ
ถ้าเด็กอารมณ์ดี การเรียนรู้จะไวค่ะ