กลับจากเวียนเทียนวันมาฆบูชา
ผมมีตำแหน่งในชุมชนอยู่หลายตำแหน่ง เช่น เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ของชุมชนอำเภอเก่าบ้านผม เป็นประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๒ (อำนวยวิทย์) แผนกอนุบาล เป็นกรรมการวัดทองประดิษฐ์ เป็นโฆษกและพิธีกรประจำวัดทองประดิษฐ์เป็นต้น
เช้าวันมาฆบูชานี้ผมไปทำบุญที่วัดทองประดิษฐ์ แล้วได้รับมอบหมายจากทางวัดให้เล่าถึงความเป็นมาและความสำคัญของวันมาฆบูชาให้ญาติโยม อุบาสก อุบาสิกา จำนวนมากที่มาทำบุญ บนศาลาการเปรียญวัดทองประดิษฐ์ฟัง ผมก็ต้องใช้ภูมิปัญญาธรรมศึกษาเอก เล่าเป็นฉากๆไปอย่างแคล่วคล่อง...เพราะเล่าอยู่ทุกปี
เจ้าอาวาสวัดทองประดิษฐ์นำญาติโยมเวียนเทียน วันมาฆบูชา ปีนี้
ช่วงท้ายผมได้นัดหมายให้สาธุชนมาเวียนเทียนกันเวลา ๑๙.๐๐ น. พอใกล้ถึงเวลาเวียนผมก็ทำหน้าที่โฆษก ประชาสัมพันธ์เชิญชวนสาธุชนมาเวียนเทียน และเมื่อมีสาธุชนมารวมตัวกันจำนวนมาก ผมก็ได้แนะนำวิธีเวียนเทียนแก่ผู้มาเวียนเทียนว่า ในรอบแรกขอให้ทุกคนภาวนาบทพุทธคุณที่เริ่มต้นด้วย อิติปิโส ภควา ในรอบที่ ๒ ให้ภาวนา บทธรรมคุณที่เริ่มต้นว่า สวากฺขาโต ในรอบที่ ๓ ให้ภาวนาบทสังฆคุณที่เริ่มต้นว่า สุปฏิปันโน
ครูพิสูจน์ร่วมเวียนเทียนด้วย ตอนนี้ครบ ๓ รอบแล้ว
พอผมชี้แจงเสร็จ พระครูสุวรรณอโนมคุณ เจ้าอาวาสวัดทองประดิษฐ์ เจ้าคณะตำบลต้นตาล พระอุปัชฌาย์รูปใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ก็นำพระภิกษุสงฆ์ลงสู่อุโบสถ ท่านเจ้าอาวาสนำสวดมนต์ และนำสวดบทบูชาวันมาฆบูชา เป็นกาพย์ฉบัง ๑๖ แล้วจึงนำญาติโยมเดินเวียนขวา เวียนเทียนรอบอุโบสถ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับด้วยใบหน้าที่เอิบอิ่ม
ผมปลื้มใจที่มีผู้ใหญ่และเด็กวัยรุ่นสวดมนต์ภาวนา พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณพร้อมๆกับผม ขณะเวียนเทียนรอบโบสถ์ แทนที่จะเดินคุยกัน นินทากัน หยอกล้อกัน ในขณะเวียนเทียน