สวัสดีครับ..
จากบันทึกที่ผ่านมา อยู่คนเดียว ....ลองดู..
ทั้งสองวันที่ผ่านมา....ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี...
แต่สิ่งทีสัมผัสและรับรู้คือ การดำรงอยู่ของสติ ที่มั่นคง...
มีความรู้ตัวอยู่เสมอ และตั้งมั่นกับภาระกิจ ที่ได้รับมอบหมาย...
แม้ว่าจะมีทุกเวทนาทางกายบ้าง..แต่จิตก็ไม่ได้แฟบ หรือฟูขึ้นลงรุนแรงแต่อย่างใด
แต่กลับสบายๆ ไปตามสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้าที่สุด...ไม่สัดส่าย..ไปไกลนัก...
แม้ในบางสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อการขึ้นลง หรืออารมณ์ลบ แต่ก็สามารถประคองจิต
ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ....ไม่ลบ ไม่บวกมาก....
เสมือนว่าเมื่อจะเกิดการไหลไปสู่อารมณ์ลบ ก็เกิดความคิดเข้าไปดัก..เอาไว้อย่างรวดเร็ว
โดยการพิจารณาในมุมต่างๆ และได้มุมที่ดีๆแล้วรั้ง หรือดึงจิตของเราให้นิ่งและอยู่ในที่ตั้งที่ดี ที่สบายๆ
เช่น....
- คนไข้มารอมากหลายคนตอนเช้า แม้ว่าจะเหนื่อยทั้งคืนแต่ก็ไม่ได้ปรุงแต่งว่าเหนื่อย ว่าเบื่อ ว่าทำไม แต่กลับมุ่งที่งานว่าจะตรวจ จะดุแลแต่ละคน ละกรณีอย่างไรให้ดีที่สุด เร็วและเป็นที่พอใจ พึงใจที่สุด กับสถาณการณ์เช่นนนี้...และก็ผ่านไปได้พอเที่ยงครึ่งก็ตรวจหมด....
- มีผู้ป่วยขอส่งต่อ หรือย้ายการรักษา 2 ท่าน ก็มีสังสัย หรือความคิดที่ไปด้านลบนิดๆ แต่ก็ดักทัน รับฟังและเข้าใจถึงเหตุผลของการที่ต้องย้าย ท่านแรกไปเพราะอยู่ไกล้บ้านสามี อีกท่านเพราะว่าเจ้าหน้าที่ และทรัพยากรเราไม่พร้อม...
- เมื่อถูกตามถูกปลุก..ก็ไม่ได้รู้สึกอารมณ์ลบจนออกมา(มีนิดๆ) อารมณ์ลบมันเกิดสั้นมากๆ จนเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเลย....มีแต่จิตที่ตื่นตัวพร้อมกับสิ่งที่ต้องคิด ต้องทำ...
อืม....พรุ่งนี้ฝันว่า...
เมื่อออกจากการทำบุญเวลาเที่ยงแล้ว..จะไปนอนอิ่มๆที่บ้านสวนสบาย.....^_^
ฝันว่าจะไม่โดนตามเข้าห้องผ่าตัด หรือไปรับผู้ป่วยอุบัติเหตุ หรือไปชัณสูตรพลิกศพ...
ได้กำไรมากเลยครับ ที่ทุกอย่างกลายมาเป็นโจทย์ในการฝึกจิตของคุณหมอ...สวัสดีวันอาทิตย์ครับ
สติคือสิ่งสำคัญที่สุด ทัศนคติต่อชีวิตและโลกรองลงมา แลคู่กัน
ชอบน้องหมอที่เอาสิ่งที่เผชิญหน้ามาเป็นการฝึกตนเอง มันเตือนสติพี่ด้วยนะนี่