มาราธอน วันแห่งความรัก


         เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 เช้าแห่งวันแห่งความรัก นิสิต ชั้นปีที่ 2 เอกคอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร นัดรวมตัวกันตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 23.00 น. ที่คณะศึกษาศาสตร์

            ผมนัดรถคุณบุญพาว่าจะออกเดินทาง เวลา 00.30 น.


            พวกเรา เหล่านิสิต เอาฤกษ์ เอาชัยด้วยการ แวะที่ลานสมด็จ พระนเรศวร เพื่อกราบขอพร ให้การเดินทาง ปลอดภัย

 สักการะเอาฤกษ์เอาชัย


           ผมนั่งฟังนิสิตร้องเพลง กล่อมจนเผลอหลับๆ ตื่นๆ จนถึงตีสามกว่าจึงหลับจริงๆ แต่มาสะดุ้งตื่นอีกครั้ง จากที่รถสะเทือนอย่างแรง เพราะวิ่งผ่านทางรถไฟ ที่พาดผ่านทาง ขวางถนน รถวิ่งต่อมาอีกสักพัก ราว ตีห้า ก็มีอันต้องสะดุด<p>
             ว้อด...ว้อด...เสียงเครื่องยนต์ไม่ทำงาน </p><p>                คุณบุญพาเปิดประตูข้างคนขับรถไปข้างรถ ผมหันไปดูนิสิตที่ทุกคนหลับ มีเพียงบางคนที่ โชงกหน้าดู แล้วก็หลับต่อ
             ผมมองออกไปข้างนอก ความมืดยับครอบคลุม มองไม่เห็นแสงตะวัน หลังจากหายไปสักพักคุณบุญพาก็มาแจ้งว่า น้ำมันไม่เข้าเครื่องยนตร์ </p><p>                  "ผมปั้มจนเจ็บมือไปหมดแล้ว"</p><p></p><table border="0" cellspacing="3" cellpadding="3" align="center"><tbody><tr><td>  </td></tr></tbody></table><p>            ผมโดดลงรถ แล้วออกเดิน แวะถามร้านคุณลุงท่าทางใจดี เจ้าของร้านเครื่องยนตร์การเกษตรที่เพิ่งเปิดร้านยามเช้า ว่า "แถวนี้มีร้านซ่อมรถใหญ่บ้างไหมครับ" คุณลุงชี้ไปร้านตรงข้าม</p><p>           ตอนนี้เริ่มมีแสงอาทิตย์ลางๆ แล้ว ผมกับคุณบุญพา วิ่งข้ามถนน สี่เลนไปฝั่งตรงข้าม เคาะประตูสังกะสี เพื่อเรียกช่างที่อยู่ในร้าน ผมดูเวลา หกโมง ช่างจะตื่นไหมหนอ</p><p>          สักพักหน้าต่างเล็กๆ ข้างร้านก็เปิดออกมา ช่างหน้าตาเด็กๆ โผล่หน้าออกมา ด้วยหน้าตายู่ยี่เหมือนเพิ่งตื่นนอน พอเราเจรจาว่าจะให้ไปซ่อมเครื่องยนตร์รถใหญ่ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ช่างหนุ่มก็ส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า พี่ลองเดินไปตามตรงโค้ง ด้านฝั่งตรงข้ามมีร้านซ่อมรถใหญ่อยู่
           
             หลังจากคุณบุญพาหายไปสักพักตามคำบอก ก็กลับมาพร้อมกับส่ายหน้า แจ้งว่า ช่างไปขับรถหมด เหลือแต่คนแก่ ความหวังเริ่มดับวูบ เวลาบอก เจ็ดโมงเช้า</p><p>
            ผมเริ่มให้นิสิตผู้ชาย เดินสำรวจหาห้องน้ำ ร้านข้าว เพื่อเตรียมแผนสำรอง</p><p>             โทรศัพท์มือถือเริ่มทำงาน โทรหาคนที่ติดต่อหาได้ เริ่มด้วย อ.แอน อ.ภาสกร ดร.อนิรุท ตอนแรกผมคิดว่าไปแค่สองวัน โทรศัพท์มือถือแบตชาร์จเต็ม อยู่ได้สองวันสบายมาก ไม่ต้องเอาที่ชาร์จมาก็ได้ หนักกระเป๋า แต่ผมคิดผิดถนัด หากมีเหตุฉุกเฉินอย่างนี้ หลังจากโทรกระหน่ำ ขีดแบตเตอรี่ลดเหลือ สองขีด           </p><p>              มีรถบิคอัพมาจ่อท้าย คนขับเปิดหน้าต่างลง ผมมองไปในรถ ใครกันนะใจดี แวะถามเรา หรือว่าเค้าเห็นว่ารถเราเสีย มาดีหรือมาร้ายนะ เรามีนิสิตอยู่ด้วยหลายคน พอโชงกหน้าไปดู
              อ้าว ! คุณลุงร้านเครื่องยนตร์เกษตร นั่งเอง ขับรถปิคอัพมาบอกว่า เอ้า ขึ้นมา หนุ่ม เดี๋ยวไปส่งที่ร้าน ซ่อมรถ
             ผมโดดขึ้นนั่งด้านข้างอย่างไม่รีรอ คุณลุง ขับพาวนบนถนนไปตามทางที่ผมไม่คุ้นเคน ใช้เวลาสัก สิบนาทีก็เห็นร้านซ่อมรถบรรทุกจอดเรียงรายหน้าร้าน
            ผมเดินเข้าไปในร้านที่เงียบเชียบยามเช้า แม่บ้านหน้าตาเหมือนคนพม่า มาคุยด้วยผมถามหาช่าง เธอพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังพอได้ควมว่า ช่างจะมาตอน เจ็ดโมงครึ่ง ผมรีบโทรไปบอกคุณบุญพา คุณบุญพาบอกรถติดแล้วอาจารย์
             ผมดีใจที่จะได้ไปต่อซะที อาจารย์ภาสกรตามมาทัน เราลงความเห็นกันว่า ต้องหาข้าวทานก่อน
           เราแวะทานข้าวกัน หลังจากรถวิ่งต่อมาได้อีกครึ่งชั่วโมง จากกำแพงแสนถึงนครปฐม</p><p></p><table border="0" cellspacing="3" cellpadding="3" align="center"><tbody><tr><td> รถเสีย </td></tr></tbody></table><p>            ผมกะว่าจะขอนอนอีกสักงีบ แต่ก็นึกเป็นห่วงคุณบุญพาเหมือนกัน เพราะยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เที่ยงคืน </p><p>
           หลังจากออกรถ หลุดโค้งมาได้แว๊บหนึ่ง รถก็เกิดอการเดิมอีก อาจารย์ภาสกรตามมาทัน ผมก็เลยปรึกษาว่า เราคงต้องให้ช่างมาดูปัญหาที่แท้จริงแล้ว มิเช่นนั้นไปเครื่องดับกลางทางยุ่งอีกแน่
           ผมโทรแจ้งสถานที่ศึกษาดูงานว่าเราจะไปช้ากว่ากำหนด
           เราสามารถพารถมาถึงอู่ที่อาจารย์ภาสกรมาหาไว้ รถเข้าซ่อม ช่างมาวิเคราะห์หาสาเหตุ และประเมินระยะเวลาซ่อมว่าอาจจะต้องใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงถึงสองชั่วโมง </p><p>          ผมและอาจารย์ภาสกรจึงตัดสินใจให้นิสิต ไปล้างหน้าล้างตาที่ปั้มคาลเท๊กซ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ห่างไปสักครึ่งกิโล ส่วนนิสิตหญิง ที่ไม่ไป ก็ให้ใช้วิธีปิดม่านรถ เปลี่ยนเสื้อผ้าบนถ ให้นิสิตผู้ชายลง ซึ่งวิธีนี้เราใช้มาหลายครั้งจากประสบการณ์พานิสิตไปดูงาน</p><p>         ผมเองก็หอบเครื่องล้างหน้า เสื้อผ้ามุ่งไปปั๊มน้ำมัน แต่ไปได้นิดเดียวก็พบว่ามีมินิโลตัสอยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน(เพิ่งเห็นประโยชน์ของมินิโลตัสวันนี้เอง)  เราเลยเปลี่ยนใจเข้าโลตัสล้างหน้าแปรงฟันกันที่นั่น จนพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำแซวนิสิตชายว่า "ไม่ได้ล้างหน้ามาจากบ้านหรือน้อง"</p><p>
            ผมกลับมาที่อู่ ช่างซ่อมรถเสร็จโดยเปลี่ยนสายน้ำมันใหม่ ใช้เวลา เพียง สี่สิบห้านาทีเร็วกว่าที่กำหนดไว้ โดยเจ้าของร้านแจ้งว่า สายน้ำมันที่คุณบุญพาเปลี่ยนมาใส่ไม่แน่น และปั้มน้ำมันไม่ทำงาน รวมเบ็ดเสร็จ หมดไปพันห้าร้อยบาท พร้อมรับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่าหายแน่นนอน แต่ก็ยังไม่ลืมบอกเอานามบัตรไป ถ้าเสียให้โทรมา</p><p>           เราต้องรีบโทรไปแจ้งนิสิตที่อยู่ในโลตัส ว่าให้ประกาศว่านิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรให้กลับมาที่รถด่วน รถซ่อมเสร็จแลว กว่าจะรวมตัวกันได้ใช้เวลาชั่วโมงกว่า</p><p>           คราวนี้ นิสิตพร้อม แต่งตัวพร้อม รถพร้อม เราจะได้ไปดูงานที่ กองการบินพลเรือน ที่ประจวบเสียที
 
            รถวิ่งไปกลัยยูเทิน ผ่านหน้าร้านซ่อม ผ่านไฟแดงมาได้ สองร้อยเมตร เจ้าเครื่องนยตร์ก็ไม่ยอมทำงานอีกแล้ว รถเสียกลางถนนจอแจ กลางแยกไฟแดง และมุมยูเทิน ผมรีบโทรไปตามช่าง และรีบให้นิสิตที่นั่งด้านท้ายขยับมานั่งด้านหน้า เพราะรถสิบล้อ และสิบแปดล้อ ห้อตะบึงออกจากไฟแดงตามๆ กันมา ผมกลัวจะมาทิ่มรูดรถเราเข้า อ.ภาสกร เอารถแวะข้างทางเดินเข้ามาดู ช่างขับรถตามมาซ่อม ผมกับนิสิต ไปโบกรถที่มาข้างท้าย เพื่อให้หลบรถเรา</p><p>          สาวๆ ที่อยู่บนรถมายืมร่มกันแดด เพื่อไปหาซื้อพวงมาลัยเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนรถ แต่ก็ยังหาซื้อไม่ได้</p><p>            ช่างทำให้รถสตาร์ทติดขึ้นมาได้ ผมเดินขึ้นรถเห็นนิสิตทั้งรถร่วมมือร่วมใจกัน พนมมือและสวดมนต์ อธิฐานขอพรพระให้สะดวกราบลื่นจงบังเกิด ช่างซ่อมรถแจ้งให้คุณบุญพาลองอัดเครื่องยนตร์ดูว่ามีปัญหาอีกไหม โดยมีรถช่างขับตามมาด้วยความห่วงใย
 
          ผมดูเข็มไมล์รถวิ่ง แปดเก้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง อาการรถเสียไม่มีให้เห็น รถช่างแยกออกไป ยูเทิร์นกลับ สงสัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ช่างโทรมาถามอาการ ผมบอกว่าวิ่งดีนิ่งไม่มีปัญหา</p><p>          เราวิ่งมาได้เกือบ 30 กิโล </p><p>                      ฟ็อด....ฟ็อด.....อาการเดิมๆ ของเครื่องยนตร์มาอีกแล้ว คุณบุญพาเอารถจอดข้างทาง เครื่องยนตร์ตัวหน้าดับ แต่เครื่องยนตร์แอร์ยังทำงาน ผมหันไปทางนิสิต แต่ละคนทำหน้าเซ็ง ผมก็เซ็ง อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซากวุ้ย……</p><p>          หลังจากโทรตามช่าง อีกรอบ ผมก็งัดกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายแก้เซ็ง นิสิตก็เอากีต้า เอากลองขึ้นมาร้องเพลง สร้างบรรยากาศ แก้เซ็ง</p><p></p><table border="0" cellspacing="3" cellpadding="3" align="center"><tbody><tr><td>  </td></tr></tbody></table><p>            แต่ความเซ็งยังไม่ทันหาย คุณบุญพาก็ขึ้นมาแจ้งว่าต้องดับเครื่องยนตร์แอร์ เพราะต้องถอดถังน้ำมันออกเอาไปซ่อมที่ร้าน พวกเราต้องลงจากรถ เอาเสื่อ มาปูกันนั่งข้างทาง
           นาฬิกาบอกเวลา บ่ายโมงครึ่ง ผมขอร้องให้อาจารย์ภาสกร พานิสิตไปซื้อข้าวห่อมาทานกัน ระหว่างรวมเงินเพื่อจะไปซื้อข้าว ก็มีเสียเฮ ขึ้นว่ารถซ่อมเสร็จแล้ว ผมจ่ายค่าเสียเวลา ค่าน้ำมันเพิ่มเติมให้กับช่าง ที่มอมแมมไปทั้งเนื้อตัวจากน้ำมัน</p><p>
        แต่ผมก็ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ อาจารย์ภาสกรก็ดีมาก เป็นห่วงและไม่ทิ้งพวกเรา ขับรถตามไปตลอด ทั้งๆ ที่รับปากกับอาจารย์สุภาณีไว้แล้วว่าจะส่งการประเมินหลักสูตรกลับไปให้ที่ภาควิชา</p><p>
            หลังจากที่ประเมินระยะเวลา แล้วว่าคงไม่ถึงที่ดูงานแน่ ผมก็เลยต้องโทรไปขอโทษที่ศึกษาดูงาน ว่าเราคงเข้าไปไม่ทันแน่นอน และขอยกเลิก และตัดสินใจเข้าที่พัก</p><p>           คุณบุญพา บอกว่าช่าง ส่องไฟดูในถังน้ำมัน มีแผ่นยางแผ่นหนึ่งอยู่ในถัง และเวลาที่เครื่องยนตร์ดูดน้ำมัน เจ้าแผ่นดังกล่าวก็คอยจะไปอุดไม่ให้น้ำมันไหลได้สะดวก ทำให้เครื่องยนตร์ดับ </p><p></p><table border="0" cellspacing="2" cellpadding="2" align="center"><tbody><tr><td> ชายหาดชะอำ </td></tr></tbody></table><p>           ต้องบอกว่า วันนี้เป็นวันแห่งความรักที่ แย่ และน่าเซ็งที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมา รถเสียตั้งแต่ตีห้า ยันบ่ายสองโมง  แต่ก็ยังมีเรื่องที่น่าประทับใจ แฝงไว้ด้วยเรื่องดีๆ ที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือร่วมใจของนิสิต การปลุกเร้า สร้างความสดชื่น ความสุขของทีมงาน ที่ปลุกเราอารมณ์สร้างความสุขจากความเซ็งของเพื่อน การร่วมใจกันอธิฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่พึ่งทางใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดจนการสร้างความสามัคคี รวมถึงการเปิดใจ ที่เราล้อมวงคุยกัน ณ ชายหาด</p><p></p><table border="0" cellspacing="2" cellpadding="2" align="center"><tbody><tr><td> AAR </td></tr></tbody></table>

หมายเลขบันทึก: 165566เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2008 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • สงสัย จังค่ะ แผ่นยางนั้น มันหลุดมาจากใหน
  • เคยประสบ มาเหมือนกันค่ะ เพราะความดื้อ ของพ่อบ้าน อิอิ เสียทีไร เรา 3 คนแม่ลูก นั่งภาวนา ให้พ่อได้อะไหล่ กลับมาหาเราเร็วๆๆ
  • ก็เกิดความรักระหว่างศิษย์ และอาจารย์ ที่ประทับใจ แทน ไงคะ

 

รถอาจจะเสีย แต่ก็ได้อย่างอื่นมาทดแทน คือ ความรู้สึก ว่าได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ที่ต้องรอคอย ที่ไม่สะดวก ทำให้ ยิ่งรักกันมากขึ้นค่ะ ดื่มน้ำผลไม้เย็นใจกันนะคะ

เห็นแล้วก็คิดถึงสมัยเรียนจังค่ะอาจารย์ ^^

เห็นน้อง ๆ สามัคคีชุมนุม รวมใจกันแบบนี้ก็ชื่นใจค่ะ

เหตุการณ์แบบนี้ ทำให้จดจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดีนะคะ

ดีใจแทนน้อง ๆ ด้วยที่มีอาจารย์น่ารัก คอยเป็นห่วง ดูแล แบบนี้

หนูนึกถึงสมัยปี 2 ปี 3 ที่ไปดูงานเลยล่ะค่ะ

คิดถึงอาจารย์ทุก ๆ คนมาก ๆ เลยค่ะ

ถ้ามีโอกาส จะพาเพื่อน ๆ กลับไปเยี่ยมอาจารย์กันนะคะ

นายวทัญญู เหล่าทอง (โตโต้บี_ดูดี)

           ใช่ครับอาจารย์ มันเป็นวันแห่งความรัก ซึ่งแย่ที่สุดตั้งแต่ผมเกิดมาเลยก็ว่าได้ครับ  แต่ผมคิดว่า "ถ้าเรื่องแย่ๆแบบนี้ไม่เกิดขึ้นตอนนี้  อาจจะมีเรื่องร้ายกว่านี้เกิดขึ้นข้างหน้าก็ได้"  เช่น โดนแฟนทิ้งวันวาเลนไทน์นี้ 555+

            แต่ก็สนุกมากเลยนะครับ  ผมชอบบรรยากาศตอนที่เราร่วมใจกันสามัคคีกันในหมู่เพื่อนมากเลยครับ  พวกเราพยายามที่จะหาอะไรทำให้มันหายเซ็ง แต่บางครั้งพวกเราก็คิดว่าเพื่อนจะว่าเราน่ารำคาญหรือเปล่า ถ้าเราพูดมากไปใส่ไมค์อะไรประมาณนี้ เราจึงคิดที่จะหยุดพูดจนได้ลงจากรถไป เราก็เอากีตาร์ไปเล่น ร้องเพลงกันแก้เซ็ง กันนิดหน่อย ก็มีความสุขดีครับ 

          โดยเฉพาะตอนเปิดใจ  ผมไม่คิดว่าจะออกมาได้ดีขนาดนี้ เป็นการเปิดใจจริงๆ  ครับ  ทุกคนก็มีความคิดเห็นเหมือนกับผมว่า  ถ้าไม่มีกิจกรรมเปิดใจนี้  เพื่อนบางคนก็อาจจะไม่มีเวลาขอโทษเพื่อนที่ตัวเองอยากขอโทษก็ได้ครับ

             แล้วเป็นการปรับความเข้าใจระหว่างเพื่อนและอาจารย์ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกดีๆมากมายเลยครับ

             วันนั้นจะเป็นวันแห่'ความรักที่แย่มากๆ  แต่ผมคิดว่า จะเป็นวันแห่งความรักที่ทุกคนจะจดจำไปจนวันตายเลยล่ะครับ อิอิ

             ผมก็ขอขอบคุณอาจารย์ ทุกคนนะครับ  ที่มีความเป็นห่วงเป็นใยพวกเราตลอด  รวมถึงลุงบุญพาด้วยนะครับที่อดหลับอดนอน เพื่อพวกเรา  ขอบคุณมากจริงๆนะครับ

  • เป็นการเดินทางที่โหดจริงๆๆ
  • นิสิตโชคดีที่มีอาจารย์ไปด้วย
  • แต่ ดร ภาสกร เรืองรอง นี่เพื่อนผมแหงๆๆ
  • ฮ่าๆๆๆ
  • อาจารย์ .... พาน้องผมไปทรมาน อิอิ
  • พูดเล่นนะอาจารย์ ยินดีด้วยครับ สำหรับความสำเร็จที่มาพร้อมกับประสบการณ์
  • อิอิ แต่ก็เซงแทนน้องๆ นิดนึงครับ

       ผมไม่เซงครับอาจารย์
เพราะมันคือ
-การเดินทางไปเพรชบุรีโดยรถบัสที่ใช้เวลา 16 ชั่วโมง
-การไปดูงานที่ไม่ได้ดูงาน(แต่ได้ความรู้และประสบการณ์ดีๆ)
-ทะเลส่วนตั๊วส่วนตัวของเรา
-และการได้เพื่อนใหม่(ที่มีอยู่แล้ว)
ป.ล.ผมว่านั่งอยู่บนรถนานๆ แต่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ดีกว่าอยู่ห้องใครห้องมันนะครับ

       สนุกมากเลยครับกับการเดินทางครั้งนี้ ขอให้มีอีก สาธุ!!

ป.ล.2 เซงlearners ตอบ gotoknow ไม่ได้

ใช่คะอาจารย์มันเป็นวันแห่งความรัก ถ้าคนอื่นที่ไม่ได้ไปกับพวกเราก็อาจคิดว่ามันเป็นวันที่แย่ที่สุด แต่สำหรับเบญ  เบญคิดว่ามันเป็นวันที่พิเศษที่สุดคะ  กับการเดินทาง 16 ชั่วโมง ซึ่งมันน่าจะนานมากๆแต่ทำไมรู้สึกว่ามันสั้นมากก็ไม่รู้นะคะหรือว่าเบญมีความสุขเวลาเลยผ่านไปเร็ว

เบญต้องขอบคุณลุงบุญพา..ที่พาเราไปถึงจุดหมาย (บุญพา  สมชื่อจริงๆ)
เบญต้องขอบคุณรถคณะ............ที่ทำให้เราเกิดความสามัคคี อดทน
เบญต้องขอบคุณอ.รุจโรจน์......ที่ดูแลพวกเราตลอดการเดินทาง
เบญต้องขอบคุณอ.ภาสกร........ที่คอยดูแลพวกเราอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
เบญต้องขอบคุณทะเล.........ที่ทำให้พวกเราสนุกสุดๆ
เบญต้องแสงเทียน................ที่ให้บรรยากาศสุดซึ้ง
เบญต้องขอบคุณเพื่อนๆสต๊าป....ที่ทำให้เบญได้เพื่อนใหม่(ที่มีอยู่แล้ว)

อาจารย์รู้สึกไหมคะว่าการดูงานครั้งนี้ได้อะไรมากกว่าความรู้  ขอบคุณคะ

ยุรนันท์ สุภาวิตา (โน้ต)

                เห็นด้วยครับอาจารย์ที่ว่ามันเป็น "วันแห่งความรัก ที่แย่ที่สุด" แต่มันก็ทำให้พวกเราได้รู้อะไรอีกมากมาย  ซึ่งก็คือคำว่าเพื่อนและความสามัคคีครับ

                ผมเคยอยู่บนรถ 8 ชั่วโมง ในการเดินทางประมาณ 20 กิโลเมตร จากบ้านน้ำเป ไปอำเภอโพนพิสัย คือตอนนั้นผมไปดูบั้งไฟพยานาค แล้วปีนั้นเกิดลมแรงและฝนตกหนักมาก ไม่รู้เพราะอะไรครับ คนที่ไปดูก็ต่างแย่งกันกลับ ถนนจาก 2 เลน กลายเป็น 4 เลนภายในพริบตา และรถก็ติดขยับได้ทีละนิด รถสวนทางมาไปไม่ได้เลยครับ  รถหลายๆคันเริ่มน้ำมันหมด ต้องปิดแอร์และดับเครื่องครับ แต่ละคนเริ่มมีอารมณ์เซ็งตามๆกันและเกือบจะมีเรื่องกันด้วย  บางคนก็ออกมาข้างนอกรถเพื่อผ่อนคลายและปลดทุกข์  ซึ่งผมเองก็ต้องทำเหมือนกัน ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ตอนนั้นมีขนมในรถก็ต้องกินลองท้องไปก่อน  กว่าจะถึงตัวอำเภอก็ประมาณ 6 โมงเช้า โดยผมรีบเข้าปั้มเพื่อเติมน้ำมันก่อนเลย มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อและเซ็งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยครับ

               ต้องบอกว่าการไปดูงานครั้งนี้ ไม่ได้แย่และเซ็งที่สุดหรอกครับ ผมว่าทุกสิ่งที่ว่าแย่ๆนั้น ก็ไม่ได้แย่เสมอไป แต่จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะมาทดแทนความรู้สึกที่ไม่ดีเหล่านั้นไป

 ...............................................................................................................  

    ขอบคุณอาจารย์นะครับที่คอยดูแลพวกเราตลอดการเดินทาง

    ขอบคุณน้าบุญพานะครับที่พาพวกเราไปถึงจุดหมาย แม้จะอดหลับอดนอนก็ตาม

    และขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ร่วมมือกันทำให้พวกเรามีวันนี้......    

มานก็ไม่ได้แย่สะหมดนะค๊่ะอาจารย์

เพราะสิ่งที่ดีก็ยังมีอยู่ในการเดินทางครั้ง

ออกจะมากเลยทีเดียว

อุปสรรคมันทำให้เรารักกันมากขึ้นด้วยล่ะ 

ขอบคุณ อ. ที่อยู่กับพวกเราตลอดไม่ทิ้งกันไปไหน

ขอบคุณ คุณลุงบุญพา ที่อดทนกับพวกเราจนไปถึงจุดหมายด้วยกัน

ขอบคุณ รถคณะ ที่ทำให้การเดินทางสนุก + เซง + หัวเราะ + และอีกมากมาย

ขอบคุณ ทะเล ที่ทำให้เราเกิดความทรงจำที่ดีมากมาย

ขอบคุณ KM ที่ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น

ขอบคุณ เพื่อนเอกคอม พวกเราจะรักกันตลอดไป 

 

ร๊ากกกกกกกกก ทะเล  

 

^____________________^

 

อาจารย์คะ การไปดูงานครั้งนี้ถือว่า คุ้มสุดๆ เป็นการไปดูงานที่บูประทับใจที่สุดตั้งแต่เคยได้ไปดูงานที่อื่นมาเลย โห สุดยอดของความรู้สึกเลยค่ะ

วันแห่งความรักทุกปี บูก้อจะนั่งทำมิวสิค - เ ห ง า - แหง่วคนเดียว แต่ปีนี้ ต้องมาเคาน์ดาวน์ที่คณะ ได้เจอเพื่อน แระก้อขึ้นรถ คิดว่า ยังไงวาเลนไทน์ปีนี้ก็คงเหมือนเดิมทุกปีแหละแต่มันก็ไม่เปงอย่างนั้น

ตอนรถเสียแบบว่า อึน สุดๆๆ อะค่ะ "โห่่ ทริปนี้ ไมน่าเบื่อจังวะ" คิดในใจ ภาวนาในใจ อย่าให้เกิดไรขึ้นอีกนอกจากนี้เลย คิดถึงพ่อถึงแม่ แบบว่าใจเสียเลยอะ  เพื่อนถามว่า ไมแกหน้าซีดจังวะ  แต่ก็ไม่ได้บอกใคร พอรู้สาเหตุของอาการเสีย และซ่อมรถได้ หน้าเริ่มมีเลือดฝาด 55+

ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี..

พอถึงทะเล ในใจก้อไม่ค่อยตื่นเต้นหรอก ทะเลที่ไหนๆก้อเหมือนกันแหละ แต่ทันทีที่เห้น เหอะๆ วิ่งดิ่งไปเลย 55+ เป็นอะไรที่ส่วนตั๊วส่วนตัวมั่กๆ ไม่เหมือนกะที่จินตนาการไว้เลย แระก้อเล่นน้ำไป หนุกหนานมากมายค่ะ

ผ่านพ้นได้ด้วยดี.. 

พอตกกลางคืน บูก้อเปงหนึ่งในสตาฟอะนะ เพื่อนถามว่า กิจกรรมคืนนี้จะหนุกปะ ตอบได้แค่ "เหอะๆ" เพราะว่า กิจกรรมที่เราเตรียมมา มันมีอันต้องยกเลิกไปกะรถเสีย ก้อเลยคิดว่า มันก้อคงแหง่วมากมาย

พอถึงเวลา เติ้ลก้อเรียกสตาฟรวมตัว "เราจะเอาไงกันดี" สรุปกันว่า ก้อเอาเหมือนเดิ กิจกรรม "เปิดใจ" โดยที่สตาฟเริ่มก่อน อืม ว่าไงก้อกัน แล้วก้อเริ่มกิจกรรม ช่วงแรก เพื่อนยังไม่ค่อยกล้าเปิดใจกันเท่าไหร่ ต่อมาเริ่มเข้มข้นขึ้น  - ม า ก ม า ย - โห่ สุดยอดเลยอาจารย์ ปกติ เพื่อนๆเปงคนเงียบๆกัน ไม่ค่อยพูดออกความคิดเห็นกันเท่าไรนะคะ แต่ก็พูดกันอย่างเมามัน เกิดความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กะคำว่า "เพื่อน" กว่าจะถึงบู แบบว่า ใจสั่นอะ พูดไรไม่ถูกเลย ตื่นตัน อิอิ

ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี.. (เยี่ยม)

กิจกรรมเฉลยบั๊ดดี้บั๊ดเดอร์ก็เฮฮามาก อิอิ

กลับมาเล่น ... กันต่อ 55+ (เชื่อสัมพันธไมตรี กิกิ)

:: ขอบคุณรถคณะ ที่เี่สีย และเวลาอันยาวนาน ที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น

:: ขอบคุณทะเล ที่ทำให้เราได้เอาความทุกข์ที่มีไปทิ้งไว้ แล้วเอาความสุขกลับมา

:: ขอบคุณอาจารย์รุจโรจน์กะอาจารย์ภาสกร ที่มาร่วมพูดคุยเปิดใจกับพวกเรา (บอกตรงๆว่า ความรู้สึกที่มีกะ อ.ภาสกรมันเปลี่ยนไปเลย เราเข้าใจ อ. และ อ. ก็เข้าใจเรา เยี่ยมมากๆ)

:: ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ร่วมมือทำกิจกรรมกันเปงอย่างดี โดยเฉพาะกิจกรรมเปิดใจ สุด ยอด (อะ เกน) เพื่อนๆ

:: ขอบคุณการดูงานครั้งนี้ ทำให้วันวาเลนไทน์มีความหมายมากขึ้น จนทำลายกำแพงความเหงาลงได้

:: ขอบคุณความรักที่แท้จริง ของเพื่อน สู่..เพื่อน


ป.ล. การดูงานครั้งนี้ ทำให้เราได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น

ไม่ใช่จำนวนคน

แต่เป็น จำนวน ..." ใ จ "

จะไม่ลืมเลย

 

รัก นะ วา เลน ไทน์ เดย์

 

ใช่เลย วันนั้นรู้สึกว่าพวกเรา เอาความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน โยนทิ้งทะเลกันไปหลายคน แล้วอย่าเอาแห เอาอวนไปลากมันขึ้นมาอีกล่ะครับ

กุสุมา นุกูลอุดมพานิชย์ (ปิ๊ง)

  อยากจะบอกว่า 

     การเดินทางครั้งนี้  ถึงจะมีปัญหาบ้าง      แต่พวกเราทุกคนก็
ร่วมมือ+ร่วมใจผ่านมันไปได้ด้วยดี      อุปสรรคมีไว้เพื่อฟันฝ่า  ปัญหามีไว้แก้  การไปเที่ยวครั้งนี้จะไม่ลืมเลย 

   

ขอบคุณ อ. มากมายเลยค่ะ  ที่แก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยดี

ขอบคุณ คุณลุงบุญพา ที่อดทน พาพวกเราไปยังจุดหมายปลาย  ทางอย่างปลอดภัย ทั้งไปและกลับ

ขอบคุณ รถ  (ถึงจะเสียบ้างแต่ก็เป็นอะไรที่ได้กลับมาคุ้มค่า)

ขอบคุณ ท้องทะเล  สนุกสุดๆไปเลย เพราะเที่ยวทะเลครั้งนี้ได้ไปกับเพื่อนๆถึงสนุกมากมาย

ขอบคุณ ที่พัก 
(โรแมนติกมาก ติดชายทะเลเลยอ่ะ) 

ขอบคุณ กิจกรรมเปิดใจ  ที่ทำให้เราเข้าใจเพื่อน มากขึ้น  ชอบๆ ซึ้ง >.<

ขอบคุณ การเดินทาง    ที่ได้ประสบการณ์ที่ดีดี  หลายครั้ง
อยากให้มีอีก  (แต่ครั้งหน้าขอแบบราบรื่นนะ  อิอิ)

ขอบคุณ กล้องเพื่อน 
ที่ได้ถ่ายรูป ความทรงจำดีๆไว้  แล้วอย่าลืมเอารูปมาแชร์ด้วยนะ 

                                     ขอบคุณทุกคน

 รักเพื่อนทุกคนนะ   ลบมันไป  คำว่า   อคติ

ภัทราพร วาทิกทินกร(ปุ้ย)

เฮ้อ...เป็นวันที่แย่ที่สุดเลยเนาะ
     แต่เค้าว่าสิ่งที่ได้มากกว่าวันที่แย่นี่คือ คำว่า"เพื่อน"
ทุกคน ปรับความเข้าใจกัน ร้องเพลงด้วยกัน รู้สึกดีจัง

ขอบคุณ....โครงการที่ผ่าน(ถ้าไม่ผ่านคงไม่ได้ไป)

ขอบคุณ....น้าบุญพา ที่พาเราไปถึงที่หมาย(รู้ว่าเหนื่อยมากเพราะ จอดรถพัก น้าก้อหลัทันทีเลย)

ขอบคุณ....เพชรบุรี ที่มีบ้านพักสวยๆให้พวกเราได้นอน และชายทะเลส่วนตัวของพวกเรา

ขอบคุณ...อ.รุจโรจน์ อ.ภาสกร อ.แอน ที่คอยอยู่ข้างๆพวกเรามาตลอด ถึงแม้ อ.แอน จะไม่ได้ไปด้วย แต่โทถามด้วยความเป็นห่วงตลอดเลย

ขอบคุณ...พี่จุ๊บ พี่จ๊อบ พี่หนึ่ง ที่คณะศึกษาศาสตร์ กับการคอยช่วยเหลือให้โครงการผ่านไปด้วยดี ไม่งั้น พวกเราคงไม่ได้เจอกับประสงการณ์ที่น่าจดจำแบบนี้

และขอบคุณ.... พวกเพื่อนเอกคอม ปี2 ทุกคน ที่อยู่ข้างกัน ไม่ทิ้งกัน เราจะรักกันตลอดไป

ขอบคุณ นะ  วาเลนไทน์ เดย์

เป็นวันที่วัดใจ ลองใจ กับความรักระหว่างเพื่อน ต่างหาก หุหุ น่าตื่นเต้นดีเนอะ

แต่ให้เจอจริงคงไม่ไหว หุหุ ... ผ่านมาได้ปลอดภัยก็โอเคแล้วค่ะ

  • ตามมาลุ้นค่ะ
  • ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ
เก๋ไก๋เองคับอาจารย์

อ่านแล้วคิดถึงวันนั้น ขำๆๆๆๆอิอิอิอิไม่ออก  เพราะรถเสีย แต่ก็เป็นประสบการณ์และสิ่งที่น่าจดจำดีมากๆๆเลย ครั้งหนึ่งในชีวิตคับอาจารย์

 

อยากฟังเรื่องเล่าความประทับใจของพวกเราที่ไปในวันนั้นบ้างครับ บันทึกไว้ที่ไหน เอาลิ้งมาทิ้งไว้บ้างนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท