3 วันที่ผ่านมา 30-31 ม.ค.,1กพ. กับการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการ "ส่งเสริมสุขภาพกาย-ใจ ศูนย์อนามัยไร้พุง" รุ่นที่ 1 แบบ Edutainment ที่ จ. ระยอง
ในบทบาททีมดำเนินการ ผู้ประสานวิทยากร และพิธีกร มีปัญหาเฉพาะหน้ามาให้เผชิญแบบซึ่ง ๆ หน้า ต้องแก้ไข หาทางออก บางครั้งหงุดหงิด เครียด เสียงดัง ก้าวร้าวกับคนรอบข้าง ควบคุมตัวเองไม่ได้ มีหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากเรา
คนแรกช่างไฟของรีสอร์ท เราเอ็ดเรื่องที่เขาไม่อยู่ที่ห้องเครื่องเสียง เพราะต้องควบคุมปรับระดับเสียงตลอดการบรรยาย รู้สึกตัวตอนเห็นเขาทำหน้าจ๋อย ๆ ก็บอกเขาได้แค่ว่า "คุณพยายามทำเต็มที่หน่อยนะ มันจำเป็นจริง ๆ"
คนที่สองผู้ประสานงานของทัวร์ เรื่องเดียวกัน เราเสียงดัง เรียกร้อง และสั่งการ เขาเดินหนีตอนที่เราคุยกับช่าง ก็เดินกลับมาบอกเขาว่า "น้อง พี่จะเครียดหน่อยนะ"
เชื่อว่างานนี้คงมีพี่ ๆ น้อง ๆ ทีมงานอีกหลายคนที่ทำงานด้วยกัน ได้รับผลจากความเครียดของเรา
และใน 3 วันนี้ เราได้รับรู้ถึงความมีจิตใจที่เข้มแข็ง ความมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ของคนหลายคน ที่ทำให้เข้าใจถึงผู้ที่มีความอดทนทางอารมณ์
ท่านแรกวิทยากรทางด้าน อ. อารมณ์ อจ.วินัย วันที่ไปรับอจ. ฝนตกหนัก คนขับรถก็ขาดประสบการณ์ พวกเราก็ลุ้นเต็มที่ว่าจะพบอจ.รึเปล่า ปัญหาคือ น้ำท่วม รถจอดไม่ได้ สุดท้ายต้องบอกให้อจ. หิ้วกระเป๋าสัมภาระ ลุยน้ำ ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกัน ก่อนขึ้นรถเธอแสดงทีท่าหงุดหงิดใส่เราด้วยการขมวดคิ้ว ส่ายหัว พูดกระซิบเบา ๆว่า "ประทับใจมากเลยเธอ"
พอขึ้นรถ คนอื่นในรถพูดขอโทษ คนขับไม่ค่อยชำนาญทาง อจ.มองที่หน้ารถ มีพระพุทธรูปตั้งอยู่ 2-3 องค์ แล้วตอบ "วันหลังให้นิมนต์หลวงพ่อที่กรุงเทพมาไว้หน้ารถบ้าง แล้วก็หันหน้าออก ท่านจะได้ช่วยบอกทาง"........ทุกคน ฮา
ท่านที่สอง พี่แหม่ม คุณสิรินันท งานนี้พี่แหม่มเหมือนเป็นแม่งาน ดูแลลูกทีม ทำทุกอย่างที่ทำได้ ร่าเริง และควบคุมกำกับงานไปในตัว เหตุการณ์วันที่สอง หลังมื้อกลางวันที่พี่แหม่มเชิญวิทยากรขึ้นร้องเพลงในห้องอาหาร เพื่อสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน ตอนเดินลงบัไดหินกลับห้องประชุม พี่แหม่มตกบันได 3 ขั้น หน้ากระแทกพื้น หัวโน โหนกแก้มบวม ปากแตกบวมเจ่อ หนักขนาดพยาบาล ER รายงานแพทย์ว่า "คนไข้ให้ประวัติตกบันได แต่แผลดูไม่เหมือน" ....ประมาณว่า น่าจะไปตบกับใคร หรือถูกสามีชกมา
2 วัน เราไม่ได้ยินพี่แหม่มพูดคำว่า "เจ็บ" เลย วันแรกพี่นั่งนิ่ง หน้าตาตกใจ ใช้มือกุมแผล ที่มือมีเลือดชุ่ม ตกกลางคืนพี่แหม่มคุยจ๋อย ๆ ใช้ผ้าห่อน้ำแข็งนั่ง ๆ นอน ๆ ประคบหน้าตัวเอง วันที่สอง แผลบวมขึ้น น่าจะปวดมาก พี่แหม่มก็ยังเดิน นั่ง สะดวกเหมือนเดิม ดูแข็งแรง ขากลับ เวลาต้องลงจากรถไปกินข้าว ก็ใช้ก็อสปิดแผลที่ตาและริมฝีปากกันคนมองแล้วตกใจด้วยตัวเอง ทุกคนแทบไม่ได้ดูแลพี่แหม่มเลย
นี่เป็นตัวอย่างของบุคคลต้นแบบของเรา ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะอดทนเพื่อพัฒนาใจให้แข็งแรง
"การเติบโตจำเป็นต้องใช้เวลา ถ้าไม่เริ่มคงไม่มีวันโต"
สวัสดีค่ะ อาจารย์
เป็นบันทึกที่ดีมากเลยที่เดียวค่ะ
เดี๋ยวนี้ ป้าแดง ก็ขี้หงุดหงิด วีนใส่เพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง ก็พยายามหักห้ามอารมณ์ค่ะ
ปล. เข้าใจหัวอก ผู้ประสานงานค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณ "ป้าแดง"
เคยมีโอกาสรู้จักผ่านบันทึกว่ามีคนชื่อเดียวกัน ยังแอบดีใจว่าอนาคตถ้าเรียกตัวเองเวลาคุยกับคนอื่นแบบนี้ ก็น่ารักดี
สงสัยไม่ต้องรออนาคตแล้วค่ะ หัดแทนตัวเองว่า "ป้าแดง" ก่อนคนอื่นเรียก ก็คงดีนะคะ
เยี่ยมจริงๆคะ กับการวิเคราะห์ตนและผู้คนรอบข้างได้ และที่สำคัญอย่าติดกับอารมณ์เหล่านั้นนานนัก เพราะความโลภ โกรธ หลง นำมาซึ่งความทุกข์ ตามคำสอนของพระพุทธองค์
ไม่ทราบเลยว่าพี่แหม่ม ได้รับอุบัติเหตุ ขอให้หายเร็วๆนะคะ
และขอเป็นกำลังใจในการทำงานของน้องๆทุกคนคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจค่ะ ทั้ง อ.หมอนนท์ คุณหมอก้อง พี่จากทีมแม่และเด็ก และองค์กรพยาบาล (เดาว่าเป็นพี่ตุ๊กกะน้องกบ ไม่รู้ทายผิดรึเปล่า)
ช่วงนี้ สงสัยว่างานชนกันหลายโครงการ คงจะเครียดมาก จนเอาไม่อยู่ ผู้นำทางด้าน "อ.อารมณ์" ในโครงการไร้พุง ท่าทางจะเป็นต้นแบบการเรียนรู้จาก Negative side ค่ะ เพราะวันนี้ก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่สามารถ...อีกแล้ว
ต้องพึ่งผู้รู้ "อาจารย์จิตแพทย์อาวุโส" เลยได้คำตอบที่ชัดเจนว่า เรายังแพ้ไม่เป็น ประโยคที่ อจ. ถามบ่อย ๆ แต่วันนี้ต้องท่องให้ขึ้นใจว่า "มีแม่ทัพคนไหนบ้างที่รบแล้วชนะทุกครั้ง.....ไม่มี"
การเรียนรู้ที่จะตั้งใจฟังให้มากก่อนพูด เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์คับขัน เพราะคำพูดเป็นนายเราเสมอ