เพลงอีแซวพื้นบ้าน
ระดับบรมครู
สุจินต์ ศรีประจันต์
บนเวทีศิลปวัฒนธรรมงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์
คืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551
งานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2551 จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 รวม 15 วัน 15 คืน มีบริเวณงานที่กว้างใหญ่มาก จัดว่าเป็นงานที่มีความสำคัญที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่บริเวณลานหน้าองค์อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จะมีเวทีขนาดใหญ่ เป็นเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้ประสานงาน จัดให้มีกิจกรรมการแสดงตลอดงาน และทุกคืนผมจะไปนั่งชมการแสดงของทุกกิจกรรม เพื่อให้กำลังใจนักแสดงจากที่ต่าง ๆ
ในแต่ละคืนจะมีการแสดงประเภทต่าง ๆ ขึ้นไปนำเสนอผลงานบนเวทีแห่งนี้ โดยจะเริ่มแสดงช่วงแรก ตั้งแต่เวลา 19.00-20.00 น. และในช่วงที่ 2 เวลา 21.15-24.00 น. แต่ในคืนที่ไม่มีการแสดงประกอบแสงเสียง “ยุทธหัตถีเทิดพระเกียรติ” การแสดงก็จะมีติดต่อ กันไปตั้งแต่เวลา 19.00-24.00 น. แต่ที่น่าสังเกตคือ การแสดงจะเลิกก่อนเวลา 24.00 น. บางคืนเวลาประมาณ 22.15 น. จบการแสดงเสียแล้ว ยกเว้นคืนวันที่ 20 มกราคม 2551 เท่านั้นที่มีการแสดงไปจนถึงเวลา 24.15 น. (มีผู้ชมเดินเข้ามานั่งยืนชมจนจบการแสดง)
สำหรับในคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นการแสดงของวงเพลงอีแซวระดับบรมครู คณะสุจินต์ ศรีประจันต์ ซึ่งพี่สุจินต์ ได้โทรศัพท์ติดต่อผมไว้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2551 ให้ผมไปร่วมแสดงบนเวทีกลางด้วย (ส่วนเด็ก ๆ ในวงติดสอบหลายคน) เนื่องจากพี่เขาจะร้องกลอนสด “อาลัยสมเด็จพระพี่นางเธอ” ผมจึงได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมบนเวทีในคืนนี้ ร่วมกับเพื่อนๆ และน้อง ๆ นักแสดงเก่า ๆ รุ่นบรมครูอีกหลายท่าน เป็นคนเพลงที่เคยวนเวียนไปแสดงมาด้วยกันตามงานวัดต่าง ๆ อยู่เสมอและมีความคุ้นเคยกันมานาน
ผมเป็นนักแสดงเพลงพื้นบ้านที่ไม่ชอบท่องบทเพลง (ความจำไม่ค่อยดี) ในการแสดงทุกงานผมจะร้องกลอนสดทั้งหมด เพื่อให้การถ่ายทอดบทเพลงของผมเป็นการร้องเพียงครั้งเดียวในงานนั้น ๆ ทุกครั้งทุกงานหรืออาจจะมีเนื้อจำมาบ้างก็เพียงส่วนน้อย (เป็นอย่างนี้มาตลอดชีวิตการแสดง) ทั้งนี้เพราะผมมีความมั่นใจว่า การร้องสดช่วยให้ท่านผู้ชมได้รับสารที่ใหม่สดจริง ๆ แต่สำหรับนักแสดงทั่วไป รวมทั้งเด็ก ๆ ของผมยังต้องท่องจำบทร้อง จำเนื้อเพลงไปแสดง มีด้นสดบ้างในบางส่วนเท่านั้น
คืนนี้เพลงอีแซวเริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น.มีผู้ชมมานั่งให้กำลังใจมากพอสมควร (ไม่เต็มเก้าอี้ที่จัดเอาไว้ แต่ก็มากกว่าทุก ๆ คืนที่ผ่านมา) พี่จินต์ร้องไหว้ครู ร้องอาลัยสมเด็จพระพี่นางเธอร่วมกับผมคนละ 3-4 ลง ในตอนลงสุดท้ายพี่จินต์ส่งคำลงเอาไว้ดีมาก ท่านบอกว่า “ทุกถ้อยสำนวนที่นำมาร้องอาจจะไม่เหมาะสม ไม่สมควรบ้าง กราบขออภัย แต่ท่านร้องด้วยหัวใจที่จงรักภัคดีต่อพระองค์” ต่อจากนั้นเป็นเพลงเดิน (ไม่เห็นตัวกัน) จนกระทั่งนักเพลงไปพบหน้ากัน ฝ่ายชายร้องเพลงชม ผมร้องต่อคำลงกับพี่จินต์และนักแสดงชายอีก 2 คน แล้วก็เป็นการร้องแก้กันระหว่างชาย-หญิง (ตับคนแก่) และต่อด้วยเพลงฉ่อย (รูปแบบโบราณ) พี่จินต์กล่าวอำลาท่านผู้ชมเมื่อเวลา 21.30 น. และก็มาถึงเวลาของการออกสลาก รางวัลในคืนสุดท้ายของงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 22.00 น.
ผมไม่ทราบว่า จะมีผู้ที่กำลังฝึกหัดเพลงสักกี่คนที่ได้เข้ามาดูของจริงที่เป็นต้นตำรับ โดยผ่านการฝึกหัดเพลงพื้นบ้านมาจากครูเพลง (ภูมิปัญญาท้องถิ่น) ตัวจริง ทุกคน และจดจำรูปแบบของการร้อง การแสดง การพูด การเดินเรื่องและลีลาท่าทางที่เป็นแบบฉบับของเพลงอีแซว แล้วนำเอาไปปรับปรุงผลงานที่ท่านได้ฝึกหัดนักแสดงเอาไว้ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ของเพลงอีแซวสุพรรณฯโดยสมบูรณ์มากที่สุด
ส่วนว่าจะมีการประยุกต์ออกไปอย่างไรก็ดูตามความเหมาะสม ตามจุดขายของแต่ละวง เพื่อหาจุดยืนที่เป็นจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของวงให้ชัดเจนต่อไป
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ชำเลือง มณีวงษ์ ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม </p> การแสดงเพลงพื้นบ้าน (ปี พ.ศ.2525,2547,2549) <p> </p>
ขอบคุณค่ะ อาจารย์ที่มีเพลงดี ๆ ให้ชมและฟัง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณ พรรณา ผิวเผือก
อาจารย์ พิสูจน์
สวัสดีครับ อ.ชำเรือง จำผมได้ป่าวครับ ถ้าจำไม่ได้ลองถามพ่อสุจินต์ซิครับ
ขอให้อ.มีสุขภาพแข็งแรงน่ะครับ